โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แจงออกประกาศกำหนด 2 ฉบับ มีผลทันที เตรียมมอบ บช.น.นำประกาศแจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบ พร้อมดูท่าทีและเข้าเจรจากับผู้ชุมนุมให้ปฏิบัติตามประกาศ ขู่หาก พธม.ไม่ออกจากพึ้นที่ก็จะมีมาตรการอื่นๆ ต่อไป ย้ำ ใช้ความละมุนละม่อม ตามหลักสากล
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แจกจ่าย ประกาศข้อกำหนด จำนวน 2 ฉบับ ซึ่งลงนามโดย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศอ.รส.เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2554 ประกอบด้วย ประกาศฉบับที่ 1/2554 เรื่อง ห้ามบุคคลเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่อาคารหรือสถานที่ที่กำหนด และฉบับที่ 2 เรื่อง ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ
ประกาศฉบับที่ 1 ระบุว่า ห้ามบุคคล และกลุ่มบุคคลเข้า หรือให้ออกจากถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชยการพระนคร (ด้านถนนพระราม 5) ถึงแยกสวนมิสกวัน, ถนนนครปฐม ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถึงสะพานอรทัย, ถนนพระราม 5 ตั้งแต่ สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถึงสะพานอรทัย, ถนนลูกหลวงตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถึงสะพานเทวกรรมรังรักษ์ และถนนกรุงเกษม ตั้งแต่แยกมัฆวาน ถึงสะพานเทวกรรมรังรักษ์และถนนราชดำเนินนอกช่องทางคู่ขนานด้านทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่แยกส่วนมิสกวัน-แยกมัฆวาน
ส่วนประกาศฉบับที่ 2 ระบุว่า ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ ในเส้นทางถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึง สามแยกถนนราชวิถีตัดถนนพิชัย, ถนนราชวิถีตั้งแต่แยกการเรือน ถึง แยกราชวิถี และถนนอู่ทองในตั้งแต่แยกอู่ทองใน ถึง แยกพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 โดยให้ ผอ.กอ.รมน. ผอ.ศอ.รส.หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเจ้าหน้าทีสัญญาบัตรหรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้ โดยประกาศทั้ง 2 ฉบับนี้ ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.เป็นต้นไป
พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ศอ.รส.ได้ออกประกาศจำนวน 2 ฉบับ กำหนดพื้นที่เส้นทางที่ห้ามบุคคล หรือกลุ่มบุคคลห้ามเข้าหรือใช้เส้นทางคมนาคมซึ่งออกตามมาตรา 18 ของ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรตามมาตรา 18 ซึ่งประกาศฉบับที่ 1 จะเป็นการห้ามบุคคลเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ รวมทั้งถนนบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล ส่วนที 2 จะเป็นถนนรอบอาคารรัฐสภา ซึ่งสถานที่ราชการทั้ง 2 แห่ง มีความสำคัญซึ่งเราจะต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางอำนาจรัฐ ซึ่งหลังจากนี้ทาง บช.น.จะนำประกาศทั้ง 2 ฉบับไปแจ้งให้กับผู้ชุมนุมทราบ ขั้นตอนหลังจากนี้จะเน้นการเจรจากับผู้ชุมนุมว่าได้มีประกาศข้อกำหนดออกมาซึ่งก็ออกมาตามขั้นตอนของกฎหมาย ทางผู้ชุมนุมควรต้องปฏิบัติตาม หลังจากนั้น จะดูว่าผู้ชุมนุมมีท่าทีอย่างไร ซึ่งตำรวจไม่ได้กำหนดกรอบเวลา ทุกอย่างต้องดูสถานการณ์และการประสานงานระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งตำรวจเองจะพยายามประคับประคองสถานการณ์ให้เกิดความเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่า เมื่อมีประกาศข้อกำหนดออกมา ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องออกจากพื้นที่ทันทีหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ในสภาพตามข้อบังคับของกฎหมายจะต้องเป็นเช่นนั้น แต่เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยจะต้องเจราจารวมถึงอาจมีการผ่อนผันเนื่อง จากผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่นั้นแล้ว การให้ออกจากพื้นที่คงไม่ได้ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ และยืนยันว่า การปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจจะใช้ความนุ่มนวล ละมุนละม่อมมากที่สุด คำนึงถึงสิทธิทางกฎหมายไม่ทำเกินเลยเสมอภาค ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ใช้หลักมนุษยธรรมตามหลักสากล
“ตำรวจต้องมีมาตรการในการดำเนินการ คงปล่อยไปเรื่อยๆ ไม่ได้แล้ว เพราะมีประกาศออกมาแล้วว่า ให้ชุมนุมไม่ได้ ใช้เส้นทางไม่ได้ อย่างที่รัฐสภาก็อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ทำงานภายในรัฐสภาเท่านั้น ส่วนเรื่องของสภาพการบังคับใช้กฎหมายก็ไม่ได้ทันทีทันใด เรายังคงเน้นการเจรจา หากยังไม่มีอะไรดีขึ้นก็คงใช้มาตรการอื่นๆ ต่อไป” โฆษก ศอ.รส.กล่าว
เมื่อถามว่า หากไม่ให้กลุ่ม พธม.ชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว จะให้ไปชุมนุมที่ใด พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ผู้ชุมนุมสามารถชุมนุมกันในพื้นที่ที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน อาจใช้พื้นที่ที่เป็นลาน ที่ไม่จำเป็นต้องปิดพื้นที่การจราจร
ต่อข้อถามว่า ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ กลุ่ม พธม.จะเคลื่อนการชุมนุมไปยังรัฐสภา เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแผนการรับมือเช่นไร พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เตรียมประสานเส้นทาง ระหว่างการเคลื่อนขบวนของ พธม.จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลตลอด
ถามต่อว่า จะใช้โอกาสนี้ในการขอพื้นที่คืนเลยหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ต้องดูตามสถานการณ์ รายละเอียดในทางปฎิบัติ ยังไม่สามารถชี้แจงตอนนี้ได้
เมื่อถามถึงเงื่อนไขในการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า จะต้องมีเหตุว่าจะมีการเข้าปิดล้อม การบุกรุกเข้าไปยังสถานที่ราชการ หรือการกระทำใดที่อาจมีเหตุการณ์กระทบกับความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นจะต้องใช้มาตรการเพื่อเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้น ก็ขอวอนไปยังผู้ชุมนุมถ้าท่านมีความห่วงใยและรักประเทศจริง ก็ขอให้ร่วมมือกันทำทุกอย่างให้เกิดความเรียบร้อย ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ศอ.รส.ออกประกาศขับพันธมิตรฯพ้นถนนรอบทำเนียบฯ