ผู้การกองปราบฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการตำรวจผู้รับใช้ชุมชนใน จ.สตูล ช่วยเหลือเรื่องศิลปะการป้องกันตัว-กฎหมาย-คอมพิวเตอร์ หวังใช้ชุมชนเป็นโมเดลต้นแบบดับไฟใต้
วันนี้ (27 พ.ค.) เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ ผกก.6 บก.ป. เดินทางตรวจเยี่ยมโครงการตำรวจผู้รับใช้ชุมชนตามนโยบาย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. โดยมีนายวัชรินทร์ อบทอง โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดเราด่อตุ้ลญันนะห์ พระครูปลัดวรพล ฐิติคุโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดควนกาหลง นายประสิทธิ์ แบ้สกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสตูลและชาวบ้านชุมชนหัวทาง ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูลร่วม 100 คนให้การต้อนรับ
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า โครงการตำรวจผู้นับใช้ชุมชนเป็นการริเริ่มของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ซึ่งได้มาจากทฤษฏีของตำรวจสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในอีกมิติหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่าปัญหาอาชญากรรมไม่ได้ลดน้อยลง ถึงแม้ตำรวจจะจับเท่าไหร่ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดก็ไม่ได้ลดลงไป นอกจากนี้ ตำรวจยังเป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้าน ทำให้ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้าหาชาวบ้าน เข้าไปถามความต้องการของชาวบ้านว่าขาดเหลือสิ่งใด ซึ่งชาวบ้านในชุมชนหัวทางอยากให้ทางกองปราบปรามช่วยเหลือเรื่องศิลปะการป้องกันตัว ความรู้เรื่องกฎหมาย และคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังจัดกำลังอาสาสมัครช่วยสอดส่องดูแลกันเองภายในชุมชน
“ที่ผ่านมาพบว่าปัญหายาเสพติด ลักขโมย แก๊งรถซิ่งก็หายไป และยังสร้างความสามัคคีในชุมชนอีกด้วย ซึ่งโครงการนี้เชื่อว่าอาจเป็นชุมชนต้นแบบ หรือโมเดลให้ชุมชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อใช้ดับไปใต้ได้” ผบก.ป.กล่าว
ด้าน นายวัชรินทร์ อบทอง โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดเราด่อตุ้ลญันนะห์ กล่าวว่า ชุมชนเรามีประชากรประมาณ 200 คน ซึ่งก่อนหน้านี้เราเดือดร้อนกับเรื่องรถแข่งมาก ชาวบ้านถึงกับนอนไม่หลับ นอกจากนี้ยังมีปัญหายาเสพติดและลักเล็กขโมยน้อย เมื่อตำรวจกองปราบปรามมาลงพื้นที่เขามาไม่เหมือนตำรวจหน่วยอื่น คือเข้ามาสนิทใกล้ชิดเหมือนญาติพี่น้องทำให้พวกเรากล้าพูดกล้าแสดงออก ไม่มีความหวาดระแวงว่าจะมาทำอะไรให้ไม่สบายใจ ซึ่งหลังโครงการดังกล่าวจัดตั้งขึ้นมาเกือบ 3 ปี ปัญหาดังกล่าวก็หมดไป หากชุมชนใดที่มีปัญหาดังกล่าวทางเรายินดีที่จะให้ท่านมาศึกษาดูงานที่ชุมชนเราได้
ส่วน พ.ต.อ.ทินกรกล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีการดำเนินการมาประมาณ 3 ปี โดยให้เจ้าหน้าที่เข้ามาคลุกคลีกับชาวบ้านเพื่อลดความหวาดระแวง ซึ่งทางเราพบว่าก่อนหน้านี้ชุมชนดังกล่าวมีคดีลักทรัพย์และยาเสพติดระบาดอย่างหนัก จึงเข้าไปหารือกับโต๊ะอิหม่ามและชาวบ้าน กระทั่งร่วมกันตั้งโครงการดังกล่าว หลังจากนั้นไม่นานปัญหาดังกล่าวก็เริ่มหมดไป