ตร.ฉลองกรุงตามรวบคาผ้าเหลืองถึงกุฏิวัด หลังโจ๋วัย 20 ก่อเหตุบุกเดี่ยวเข้าจี้แบงก์กสิกรไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กวาดเงิน 732,000 บาท หลบหนีไปบวช จนท.ตามแกะรอยจนสามารถจับตัวได้ สารภาพวางแผนและศึกษาการปล้นในเว็บยูทิวบ์มา 1 เดือน อ้างอยากมีเงินเยอะๆ โดยระหว่างหลบหนีใช้เงินไปแล้ว 3 แสน
วันนี้ (9 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สน.ฉลองกรุง พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.3 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอาง ผกก.สน.ฉลองกรุง แถลงจับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์ภายในธนาคารกสิกรไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง คือ นายสุจินดา หรือเปี๊ยก แสงเพชร์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/312 ม.2 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ตามหมายจับของศาลจังหวัดมีนบุรีที่ 386/55 ลงวันที่ 9 พ.ค. 55 พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 มม.จำนวน 1 กระบอก เงินสด 453,000 บาท เสื้อคลุมสีขาวด้านหลังมีตัวหนังสือเขียนว่าพรรคไทยรักไทย 1 ตัว รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาลยี่ห้อพูม่า 1 คู่ กางเกงขายาวสีดำ 1 ตัว กระเป๋าสะพายสีน้ำเงิน ลายขาว-แดง 1 ใบ สามารถจับกุมได้ภายในกุฎิวัดทรัพย์สโมสร แขวงโคกแฝก เขตหนองจอก กรุงเทพฯ
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวเข้าไปชิงทรัพย์ในธนาคารกสิกรไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. ได้เงินสดจำนวน 732,000 บาท ก่อนที่จะขี่จักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไปได้เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เวลาประมาณ 11.45 น.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.ฉลองกรุง และ สส.บก.น.3 ได้แกะรอยติดตามจนทราบว่าคนร้ายคือนายสุจินดา และได้ไปบวชอยู่ที่วัดทรัพย์สโมสร แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. จึงขอหมายจับจากศาลและนำกำลังไปจับกุมที่กุฏิวัดดังกล่าว ได้พบอาวุธปืน .38 ของกลางที่ใช้ปล้น และเงินสดอีก 13,000 บาท ซุกซ่อนอยู่ในย่ามภายในกุฏิวัด ก่อนที่จะขยายผลไปตรวจที่บ้านเลขที่ 34/3 ถ.สังฆสันติสุข แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. ก็พบเงินสดอีก 440,000 บาท และชุดที่ใช้ในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายสุจินดาสารภาพว่า ตนทำงานอยู่แผนกผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ บริษัทมหาจักร ออโต้พาร์ค แต่ก่อนหน้านี้เคยทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และมาถอนเงินที่ธนาคารแห่งนี้ทุกครั้งเห็นว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยของที่นี่ไม่ได้พกปืน และอยู่ไกลจากบ้านของตนไม่มีคนเคยเห็นหน้า จึงตัดสินใจลงมือทำการปล้น โดยใช้ปืนที่ซื้อมาจากเพื่อนตั้งแต่ตอนเรียน ปวช.ในราคา 800 บาท ใช้เวลาลาวางแผนประมาณ 1 เดือน โดยเข้าไปศึกษาจากคลิปในเว็บไซต์ยูทิวบ์ (www.youtube.com) ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ส่วนใหญ่พบว่าจะจับตัวคนร้ายไม่ได้ตนจึงลองทำตาม ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุนั้น เนื่องจากตนอยากมีเงินมากๆ แม้ว่าเงินเดือนที่ได้รับจะพอใช้จ่ายก็ตาม ประกอบกับเป็นช่วงก่อนสงกรานต์ ตนจึงอยากหาเงินเที่ยวสงกรานต์ด้วย หลังจากก่อเหตุแล้วตนได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านแล้วนำเงินไปใช้จ่ายเที่ยวเกาะช้างช่วงสงกรานต์ ทั้งนี้ แม่ของตนก็เคยสงสัยว่าทำไมตนจึงมีเงินเยอะมากมาย ตนก็บอกเพียงว่าไม่ได้นำมาจากการขายยาเสพติดอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม จากการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำให้ตนทราบว่าคงหลบหนีไปได้อีกไม่นานคงจะถูกจับ จึงตัดสินใจนำเงินที่ได้มาส่วนหนึ่งไปจัดงานบวชเพื่อทดแทนคุณให้กับแม่จนถูกตามจับกุมในขณะที่ยังบวชอยู่ ส่วนเงินสดที่ปล้นไปนั้น ตนได้นำไปใช้จ่ายแล้วกว่า 300,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยกระทำการใดๆ เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเวลา 11.30 น. พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสุจินดาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ธนาคารกสิกรไทยสาขานิคมอุตสาหกรรม แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. โดยเริ่มจากจุดแรกที่นายสุจินดานำรถมาจอดที่ด้านหน้าธนาคาร ต่อมาจุดที่ 2 นายสุจินดาลงรถจักรยานยนต์แล้วเดินอ้อมมาเข้าทางประตูด้านข้างธนาคาร ส่วนจุดที่ 3 เป็นจุดที่นายสุจินดาใช้อาวุธปืนยิงขึ้นใส่เพดานจนเป็นรูที่หน้าประตูทางเข้าธนาคาร และจุดที่ 4 คือ ที่หน้าเคาน์เตอร์ คนร้ายใช้อาวุธปืนจี้พนักงานแล้วหยิบเงินใส่กระเป๋าหลบหนี ส่วนจุดสุดท้ายเป็นจุดที่คนร้ายขึ้นจักรยานยนต์แล้วขับหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที