ผกก.ฉลองกรุง เผยคนร้ายใช้ จยย.ยามาฮ่า มีโอ สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะชิงทรัพย์แบงก์กสิกรไทย สาขานิคมอุตสาหกรรม สั่งเจ้าหน้าที่นำภาพ จยย.ให้ประชาชนดูและช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่ ผบก.สส.บช.น. เผยผลตรวจสอบกล้องวงจรปิดในนิคมอุตฯลาดกระบัง พบสายเมนหลักถูกรถเทรลเลอร์เกี่ยวเสียหายทำให้กล้องทุกตัวไม่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ แต่จะสุ่มหาภาพคนร้ายตามรายทางรอบนอกแทน เชื่อยังกบดานใน กทม.และปริมณฑล
วันนี้ (11 เม.ย.) พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอาง ผกก.สน.ฉลองกรุง เปิดเผยความคืบหน้าคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ภายในธนาคารกสิกรไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ได้เงินสดไปกว่า 7 แสนบาทว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคาร และคำให้การของพยานทำให้ทราบว่ารถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำภาพถ่ายของรถคันดังกล่าวจากกล้องวงจรปิดไปให้ประชาชนในจุดที่คาดว่าเป็นเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย เพื่อตรวจสอบว่ามีใครพบเห็นรถคันดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้ภาพกล้องวงจรปิดจากวัดบึงบัวส่วนหนึ่งที่เห็นภาพคนร้ายคล้ายกับบุคคลต้องสงสัยตามภาพวงจรปิดที่ทางธนาคารกสิกรไทยบันทึกไว้ได้ ส่วนการสอบปากคำพยานบุคคลได้สอบพนักงานภายในธนาคารไปแล้วจำนวน 5 ปาก สำหรับปลอกกระสุนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยังอยู่ระหว่างการค้นหา ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืน .22 มม. หรือปืน .38 มม.
ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกดังกล่าว พบว่าภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังสายเมนหลักของกล้องถูกรถเทรลเลอร์เกี่ยวเสียหายทำให้กล้องทุกตัวไม่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ โดยหลังจากนั้นจะต้องสุ่มหาภาพตามรายทางรอบนอก เช่น ถนนคุ้มเกล้า ถนนสุวินทวงศ์ เพื่อจะทราบเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีไป ซึ่งต้องขอเวลาสักระยะ เพื่อไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางทั้งหมดก่อน ส่วนคนร้ายนั้นคาดว่าไม่ได้เป็นคนที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เพียงแต่เคยเข้าไปใช้บริการในธนาคารฯ มาก่อน เพื่อเข้าไปดูลาดเลาก่อนย้อนกลับมาก่อเหตุดังกล่าว
“ผมยืนยันว่าคนร้ายยังคงหลบหนีอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนวางกำลังเฝ้าติดตามไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด” พล.ต.ต.รณศิลป์กล่าว