ตร.เผยรอ พฐ.และวิศกรฯ ชี้ชัดสาเหตุรถแก๊สคว่ำ ขณะที่เจ้าของรถแก๊สขอเลื่อนเข้าให้ปากคำและนำเอกสารต่างๆ เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 26 มี.ค.นี้ พร้อมเร่งติดตามตัวโชเฟอร์มาดำเนินคดี และเตรียมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท
วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สน.คลองตัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีรถบรรทุกแก๊ส LPG พุ่งชนราวสะพาน ถ.พัฒนาการ บริเวณปากซอย 20-22 ขาเข้ามุ่งหน้าแยกคลองตัน จนเกิดเพลิงลุกไหม้ พ.ต.ท.กฤษดา ขันโสดา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.คลองตัน ได้เชิญพยานบริเวณที่เกิดเหตุ รวมทั้งผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์มาให้ปากคำเพิ่มเติม จำนวนประมาณ 10 ราย
พ.ต.ท.กฤษดากล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้นำรถบรรทุกแก๊สที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งคันมาไว้ที่ สน.คลองตัน เพื่อรอให้กองพิสูจน์หลักฐาน และวิศวกรของกรมการขนส่งทางบกมาตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุโดยละเอียด รวมทั้งตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของรถบรรทุกแก๊สว่าเป็นไปกฎหมายของกรมการขนส่งหรือไม่ ซึ่งหากพบข้อบกพร่องจะแจ้งข้อหาเพิ่มกับทางเจ้าของบริษัทรถบรรทุกอีก
พ.ต.ท.กฤษดากล่าวต่อว่า ได้ประสานไปยังเจ้าของรถบรรทุกแก๊ส เพื่อให้นำเอกสารการครอบครองรถและใบอนุญาตในการขนส่งแก๊สเดินทางเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนภายในวันนี้ แต่ทางบริษัทฯ ได้ขอเลื่อนเป็นวันที่ 26 มี.ค. โดยให้เหตุผลว่าเตรียมเอกสารไม่ทัน ส่วนนายอนันต์ แก้วมะ อายุ 35 ปี คนขับรถบรรทุกแก๊สยังไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัว โดยฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยจะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย
ด้าน นายบัวพันธ์ สุวรรณแสน อายุ 66 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ซึ่งยังพักรักษาตัวห้องปลอดเชื้อ ภายในห้องฉุกเฉิน ชั้นที่ 11 รพ.เพชรเวช มีอาการหายใจไม่สะดวกเนื่องจากหลอดลม และปอดบวม ตาพร่ามัวไม่สามารถลืมตาได้ แต่คนไข้ยังมีกำลังใจดี อย่างไรตาม นายบัวพันธ์ยังมีบาดแผลถูกไฟไหม้ไปทั่วร่างกาย 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ลึกถึงกล้ามเนื้อ โดยแพทย์ได้ใช้น้ำเกลือ 14 ขวด เพื่อล้างแผล ซึ่งอาการยังน่าเป็นห่วง โดยคนไข้มีอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
“ระบบการหายใจเริ่มดีขึ้น ระบบขับถ่ายดีขึ้นตามลำดับ เกรงปัญหาการติดเชื้อที่ผิวหลังที่ถูกไฟไหม้จึงล้างแผลและดูแลอย่างใกล้ชิด คาดว่าคงต้องรักษาตัวอีกประมาณ 1 เดือน” พ.ต.ท.กฤษดากล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ของบริษัท พีลาทัส แลนด์ แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้เข้าเยี่ยมอาการนายบัวพันธ์ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 3,000 บาท พร้อมดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บทั้งหมด ส่วนบ้านเรือนประชาชนในละแวกดังกล่าวที่ได้รับความเสียหายทางบริษัทฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนนายอนันต์ แก้วม้า คนขับรถของทางบริษัทยังไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่เกิดเหตุเช่นกัน
วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สน.คลองตัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีรถบรรทุกแก๊ส LPG พุ่งชนราวสะพาน ถ.พัฒนาการ บริเวณปากซอย 20-22 ขาเข้ามุ่งหน้าแยกคลองตัน จนเกิดเพลิงลุกไหม้ พ.ต.ท.กฤษดา ขันโสดา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.คลองตัน ได้เชิญพยานบริเวณที่เกิดเหตุ รวมทั้งผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์มาให้ปากคำเพิ่มเติม จำนวนประมาณ 10 ราย
พ.ต.ท.กฤษดากล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้นำรถบรรทุกแก๊สที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งคันมาไว้ที่ สน.คลองตัน เพื่อรอให้กองพิสูจน์หลักฐาน และวิศวกรของกรมการขนส่งทางบกมาตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุโดยละเอียด รวมทั้งตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของรถบรรทุกแก๊สว่าเป็นไปกฎหมายของกรมการขนส่งหรือไม่ ซึ่งหากพบข้อบกพร่องจะแจ้งข้อหาเพิ่มกับทางเจ้าของบริษัทรถบรรทุกอีก
พ.ต.ท.กฤษดากล่าวต่อว่า ได้ประสานไปยังเจ้าของรถบรรทุกแก๊ส เพื่อให้นำเอกสารการครอบครองรถและใบอนุญาตในการขนส่งแก๊สเดินทางเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนภายในวันนี้ แต่ทางบริษัทฯ ได้ขอเลื่อนเป็นวันที่ 26 มี.ค. โดยให้เหตุผลว่าเตรียมเอกสารไม่ทัน ส่วนนายอนันต์ แก้วมะ อายุ 35 ปี คนขับรถบรรทุกแก๊สยังไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัว โดยฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยจะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย
ด้าน นายบัวพันธ์ สุวรรณแสน อายุ 66 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ซึ่งยังพักรักษาตัวห้องปลอดเชื้อ ภายในห้องฉุกเฉิน ชั้นที่ 11 รพ.เพชรเวช มีอาการหายใจไม่สะดวกเนื่องจากหลอดลม และปอดบวม ตาพร่ามัวไม่สามารถลืมตาได้ แต่คนไข้ยังมีกำลังใจดี อย่างไรตาม นายบัวพันธ์ยังมีบาดแผลถูกไฟไหม้ไปทั่วร่างกาย 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ลึกถึงกล้ามเนื้อ โดยแพทย์ได้ใช้น้ำเกลือ 14 ขวด เพื่อล้างแผล ซึ่งอาการยังน่าเป็นห่วง โดยคนไข้มีอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
“ระบบการหายใจเริ่มดีขึ้น ระบบขับถ่ายดีขึ้นตามลำดับ เกรงปัญหาการติดเชื้อที่ผิวหลังที่ถูกไฟไหม้จึงล้างแผลและดูแลอย่างใกล้ชิด คาดว่าคงต้องรักษาตัวอีกประมาณ 1 เดือน” พ.ต.ท.กฤษดากล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ของบริษัท พีลาทัส แลนด์ แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้เข้าเยี่ยมอาการนายบัวพันธ์ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 3,000 บาท พร้อมดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บทั้งหมด ส่วนบ้านเรือนประชาชนในละแวกดังกล่าวที่ได้รับความเสียหายทางบริษัทฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนนายอนันต์ แก้วม้า คนขับรถของทางบริษัทยังไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่เกิดเหตุเช่นกัน
