เกิดอุบัติเหตุรถ 10 ล้อ บรรทุกแก๊ส LPG พุ่งชนสะพานย่านพัฒนาการ ไฟลุกท่วม เจ้าหน้าที่เร่งสกัดเพลิง และฉีดน้ำเลี้ยงจนกว่าแก๊สจะหมด เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บ1ราย ขณะที่พยานระบุเห็นรถบรรทุกแก๊สเบรกกระทันหันและเสียหลักพุ่งชนราวสะพานจนเกิดเหตุระเบิด ส่วนคนขับอาศัยช่วงชุลมุนหนีตามระเบียบ ด้าน ตร.จะเร่งติดตามเจ้าของรถ-คนขับมาสอบ พร้อมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท
วันนี้ (23 มี.ค.) เวลา 05.30 น. พ.ต.ท.กฤษดา ขันโสดา พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกแก๊ส 10 ล้อ แอลพีจี พุ่งชนคอสะพานคลองบ้านป่า ใกล้กับชุมชนคลองสะแก ถ.พัฒนาการ ขาเข้ามุ่งหน้าแยกคลองตัน แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เป็นเหตุทำให้แก๊สรั่วไหลและมีเปลวไฟลุกไหม้ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กว่า 10 คัน รวมทั้ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นช่วงระหว่างสะพาน พบรถบรรทุกแก๊สแอลพีจี ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน ทว 75-3816 กทม. ของบริษัท พีลาทัส แลนด์ แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด สภาพชนกับราวสะพานด้านเกาะกลางเสียหายทั้งคัน จนมีแก๊สรั่วไหลตามพื้นผิวถนน มีแสงไฟพวยพุ่งสูงกว่า 10 เมตร ออกมาจากถังบรรจุแก๊ส เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ เพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามออกไป จากการตรวจสอบพบตึกแถวบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายและมีกระจกแตก รวมทั้งบริเวณโรงไม้ ของบริษัท ไต้ฮั้ว ค้าไม้ ซึ่งอยู่ใกล้กัน ได้เกิดเพลิงไหม้บนหลังคาทำให้ชาวบ้านต้องรีบดับไฟจนสามารถคุมเพลิงไว้ได้ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายบัวพันธ์ สุวรรณแสน อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.7 ต.หนองแวงควง อ. ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ลูกจ้างร้านค้าไม้ ถูกไฟไหม้ตามตัว อาการสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.เพชรเวช ส่วนคนขับรถบรรทุกหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดการจราจรตั้งแต่สี่แยกคลองตัน ยาวไปถึงปากซอยพัฒนาการ 25 ประมาณ 1 ก.ม. ทั้งนี้ ยังมีประชาชนกำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก
นายวัชรินทร์ บุญแสวง อายุ 50 ปี ชาวบ้านชุมชนคลองสะแก กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้เห็นรถแก๊สคันดังกล่าว วิ่งตามหลังรถเก๋งมา แต่ดูเหมือนเบรคเสียหลักกะทันหัน ทำให้พุ่งชนขอบสะพาน จากนั้นเห็นคนขับรถพยายามจะปิดวาวแก๊ส แต่ตนบอกว่าเป็นแก๊สอะไร คนขับบอกว่าเป็นแก๊ส แอลพีจี ตนบอกว่าให้หลบก่อนเพราะอันตราย ต่อมาก็เกิดระเบิดขึ้น ส่วนคนขับนั้นก็ไม่เห็นตัวแล้ว
ส่วน น.ส. ปริยาภรณ์ นะลาฮิม อายุ 23 ปี แม่ค้าขายปาท่องโก๋ ใกล้จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกับแม่ได้ออกมาขายปาท่องโก๋ บริเวณเชิงสะพานใกล้เกิดเหตุ ได้เห็นรถบรรทุกแก๊สคันดังกล่าว เบรคกะทันหัน จนรถเสียหลักไถลพุ่งชนกับราวสะพาน และเห็นแก๊สรั่วไหลออกมาบนพื้นถนนเป็นจำนวนมาก ตนกับแม่ตกใจจึงรีบวิ่งหนีออกมาไม่เกิน 5 นาที ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นแล้วเกิดไฟลุกไหม้ท่วมทั้งคันรถ แรงระเบิดทำให้ร้านได้รับความเสียหายทั้งหมด
ต่อมา เวลา 9.00 น. ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯกทม. และนายประเวศน์ เพียรธรรม ผอ.เขตสวนหลวง ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดย ดร.วัลลภ กล่าวว่า จากการตรวจสอบล่าสุด ถือว่าปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องฉีดน้ำเลี้ยงโครงสร้างไว้เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนขึ้นอีก จนกว่าแก๊สแอลพีจีจะหมดไป คงต้องใช้เวลาสักระยะ แต่จากการใช้อุปกรณ์ตรวจสอบด้วยเครื่องมือวัดค่าแก๊สแอลพีจีในอากาศ ถือว่ายังปลอดภัย
ด้านนายประเวศน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบการชนของรถบรรทุกแก๊ส ส่งผลให้ท่อน้ำประปาที่อยู่บนสะพานได้รับความเสียหายแตกยาวประมาณ 40 ซม. และทำให้น้ำได้พุ่งใส่ตัวรถ ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่ก็ระดมฉีดน้ำเลี้ยงเอาไว้ ทำให้ไม่อันตรายมาก โดยปริมาณแก๊สในถังบรรทุกมีอยู่ประมาณ 4000 ลิตร คงต้องใช้วเลา 3-4 ชั่วโมงกว่าแก๊สจะหมด
พ.ต.ท.กฤษดา กล่าวว่า หลังจากนี้จะทำการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ รวมถึงติดตามบริษัทเจ้าของรถแก๊ส และคนขับรถแก๊ส ถ้าสอบสวนแล้วมีความผิด ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทต่อไป
วันนี้ (23 มี.ค.) เวลา 05.30 น. พ.ต.ท.กฤษดา ขันโสดา พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกแก๊ส 10 ล้อ แอลพีจี พุ่งชนคอสะพานคลองบ้านป่า ใกล้กับชุมชนคลองสะแก ถ.พัฒนาการ ขาเข้ามุ่งหน้าแยกคลองตัน แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เป็นเหตุทำให้แก๊สรั่วไหลและมีเปลวไฟลุกไหม้ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กว่า 10 คัน รวมทั้ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นช่วงระหว่างสะพาน พบรถบรรทุกแก๊สแอลพีจี ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน ทว 75-3816 กทม. ของบริษัท พีลาทัส แลนด์ แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด สภาพชนกับราวสะพานด้านเกาะกลางเสียหายทั้งคัน จนมีแก๊สรั่วไหลตามพื้นผิวถนน มีแสงไฟพวยพุ่งสูงกว่า 10 เมตร ออกมาจากถังบรรจุแก๊ส เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ เพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามออกไป จากการตรวจสอบพบตึกแถวบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายและมีกระจกแตก รวมทั้งบริเวณโรงไม้ ของบริษัท ไต้ฮั้ว ค้าไม้ ซึ่งอยู่ใกล้กัน ได้เกิดเพลิงไหม้บนหลังคาทำให้ชาวบ้านต้องรีบดับไฟจนสามารถคุมเพลิงไว้ได้ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายบัวพันธ์ สุวรรณแสน อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.7 ต.หนองแวงควง อ. ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ลูกจ้างร้านค้าไม้ ถูกไฟไหม้ตามตัว อาการสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.เพชรเวช ส่วนคนขับรถบรรทุกหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดการจราจรตั้งแต่สี่แยกคลองตัน ยาวไปถึงปากซอยพัฒนาการ 25 ประมาณ 1 ก.ม. ทั้งนี้ ยังมีประชาชนกำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก
นายวัชรินทร์ บุญแสวง อายุ 50 ปี ชาวบ้านชุมชนคลองสะแก กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้เห็นรถแก๊สคันดังกล่าว วิ่งตามหลังรถเก๋งมา แต่ดูเหมือนเบรคเสียหลักกะทันหัน ทำให้พุ่งชนขอบสะพาน จากนั้นเห็นคนขับรถพยายามจะปิดวาวแก๊ส แต่ตนบอกว่าเป็นแก๊สอะไร คนขับบอกว่าเป็นแก๊ส แอลพีจี ตนบอกว่าให้หลบก่อนเพราะอันตราย ต่อมาก็เกิดระเบิดขึ้น ส่วนคนขับนั้นก็ไม่เห็นตัวแล้ว
ส่วน น.ส. ปริยาภรณ์ นะลาฮิม อายุ 23 ปี แม่ค้าขายปาท่องโก๋ ใกล้จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกับแม่ได้ออกมาขายปาท่องโก๋ บริเวณเชิงสะพานใกล้เกิดเหตุ ได้เห็นรถบรรทุกแก๊สคันดังกล่าว เบรคกะทันหัน จนรถเสียหลักไถลพุ่งชนกับราวสะพาน และเห็นแก๊สรั่วไหลออกมาบนพื้นถนนเป็นจำนวนมาก ตนกับแม่ตกใจจึงรีบวิ่งหนีออกมาไม่เกิน 5 นาที ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นแล้วเกิดไฟลุกไหม้ท่วมทั้งคันรถ แรงระเบิดทำให้ร้านได้รับความเสียหายทั้งหมด
ต่อมา เวลา 9.00 น. ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯกทม. และนายประเวศน์ เพียรธรรม ผอ.เขตสวนหลวง ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดย ดร.วัลลภ กล่าวว่า จากการตรวจสอบล่าสุด ถือว่าปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องฉีดน้ำเลี้ยงโครงสร้างไว้เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนขึ้นอีก จนกว่าแก๊สแอลพีจีจะหมดไป คงต้องใช้เวลาสักระยะ แต่จากการใช้อุปกรณ์ตรวจสอบด้วยเครื่องมือวัดค่าแก๊สแอลพีจีในอากาศ ถือว่ายังปลอดภัย
ด้านนายประเวศน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบการชนของรถบรรทุกแก๊ส ส่งผลให้ท่อน้ำประปาที่อยู่บนสะพานได้รับความเสียหายแตกยาวประมาณ 40 ซม. และทำให้น้ำได้พุ่งใส่ตัวรถ ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่ก็ระดมฉีดน้ำเลี้ยงเอาไว้ ทำให้ไม่อันตรายมาก โดยปริมาณแก๊สในถังบรรทุกมีอยู่ประมาณ 4000 ลิตร คงต้องใช้วเลา 3-4 ชั่วโมงกว่าแก๊สจะหมด
พ.ต.ท.กฤษดา กล่าวว่า หลังจากนี้จะทำการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ รวมถึงติดตามบริษัทเจ้าของรถแก๊ส และคนขับรถแก๊ส ถ้าสอบสวนแล้วมีความผิด ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทต่อไป