วุฒิฯ แนะลดราคาแก๊สโซฮอล์ หลังคนแห่เติมเบนซินเพิ่ม

วุฒิฯ แนะรัฐบาลลดราคาแก๊สโซฮอล์ ช่วยชาวไร่มัน อ้อย หลังคนแห่เติมน้ำมันเบนซินจากการลดราคา ขณะเดียวกันเรียกร้องให้แก้ปัญหาคุกคามสื่อ ถอดรายการช่้อง 11 พร้อมเสนอ “รองฯ เหลิม” โยกย้ายตำรวจเน้นคนดีมีฝีมือ พวกเด็กเส้นเอาไว้ทีหลัง

ที่รัฐสภา วันนี้ (29 ส.ค.) มีการประชุมวุฒิสภา โดยมี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภาเป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระปกติ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้หารือว่า หลังจากรัฐบาลดำเนินนโยบายลดราคาพลังงานเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนดีใจแห่ไปเติมน้ำมันจนปั๊มให้บริการน้ำมันเบนซิน 91 ไม่เพียงพอ และยังมีสิ่งที่ตามมาคือราคาน้ำมันเบนซิน 95-91 กับแก๊สโซฮอล์ไม่ต่างกันมาก อาจส่งผลระยะยาวต่อชาวไร่มัน ไร่อ้อย ที่ดำเนินตามนโยบายพลังงานทดแทน ดังนั้น รัฐบาลควรหาทางแก้ปัญหาและปรับลดราคาแก๊สโซฮอล์ลงมาให้ช่องห่างระหว่างกันกัน

นอกจากนี้ กองทุนน้ำมันที่เหลือเงินอีกไม่มากก็ใกล้จะหมดไป แล้วรัฐบาลจะหาที่ไหนมาชดแชย การออกพันธบัตรเงินกู้ 2 หมื่นล้านบาท ทำให้ประชาชนเดือดร้อน อีกประเด็นคือรัฐบาลเปลี่ยนรัฐมนตรีที่มาดูแลสื่อมวลชน แต่ยังเกิดภาวะคุกคามผู้สื่อข่าวทีวีช่อง 7 ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขด้วย และช่อง 11 เจาะข่าวร้อน ถูกงดออกอากาศมา 2 สัปาดห์แล้ว และเห็นว่ายังมีอีกหลายรายการที่จะโดน ถือเป็นการแทรกแซงสื่อ

นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ฝากถึงนายกรัฐมนตรี ตนหวังอยากจะเห็นประเทศชาติมีความสงบ ประชาชนมีสุข ดังนั้น ผู้นำประเทศต้องปกครองประเทศด้วยธรรมะของผู้บริหาร ตามพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายกฯ ต้องเปิดใจกว้างไม่ปิดปากสื่อที่พูดความจริง นี่คือการสร้างปรองดอง

นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา กล่าวว่า นโยบายลดราคาพลังงาน ได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตพลังงานทดแทน ทั้งแก๊สโซฮอล์ และเอทานอล ทำให้พืชผลพลังงานทดแทนล้นตลาด และการลดราคาเบนซิน 95-91 ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการผลิตโดยตรง และยังเกิดการลักลอบนำน้ำมันในไทยส่งขายต่างประเทศ ทำให้ประชาชนไทยต้องแบกรับภาระจ่ายภาษีแทนคนต่างชาติ ปัจจุบันหลายปั๊มงดจำหน่ายน้ำมัน 95 แล้ว เพราะมีคนใช้ไม่กี่กลุ่ม จึงไม่ทราบว่าลดไปเพื่ออะไร

พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูรณ์ ส.ว.อุดรธานี ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการตำรวจและการยุติธรรม วุฒิสภา ได้หารือว่า อยากฝากไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และการปราบปรามยาเสพติดว่า อยากให้มีการประสานการทำงานในพื้นที่กับฝ่ายปกครอง ซึ่งมีปัญหาการทำงานระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและฝ่ายตำรวจ นายอำเภอและผู้กำกับ เพื่อให้การทำงานเป็นลักษณะปาท่องโก๋ คือจับมือไปด้วยกัน

อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิมและผู้บังคับบัญชาช่วยดูแลเรื่องเบี้ยเลี้ยง โดยเฉพาะที่มีการเร่งรัดคาดโทษผู้ใต้บังคับบัญชาให้เร่งทำผลงาน โดยกำหนดเงื่อนเวลาว่าต้องให้เสร็จในกี่วัน ขอร้องว่าอย่าไปกดดัน แต่อยากให้ถามเขาว่าเบี้ยเลี้ยงพอหรือไม่ ให้ขวัญกำลังใจดีกว่า ทราบว่าจะมีการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ อยากให้เลือกคนที่มีฝีมือ สำหรับเด็กเส้นให้รอไปก่อน รอให้ยาเสพติดหมดไปแล้วค่อยมาดำเนินการ