xs
xsm
sm
md
lg

แดงเหิมล่านักข่าวช่อง7 ยำนศ.วางหรีดหน้าสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - เหิมเกริมหนัก! "ปธ.แดงเพชรบุรี" มือโพสต์อีเมลล่านักข่าวช่อง 7 เหตุรับไม่ได้จี้ถามใจดำ “ปูจ๋า” จนต้องเดินหนี เผยแนบรูปถ่าย ส่งเมลระบุชื่อ-นามสกุล ชัดเจน ยุเจอที่ไหนจัดการได้ทันที ด้าน “นักข่าวภาคสนาม” ฮึดรวมตัวยื่น จม.ถึงมือนายกฯ ส่วนแดงถ่อยอีกกลุ่มฉุน นศ.ยื่นพวงหรีด "ปธ.ค้อนเอียง" หมาหมู่ รุมทำร้ายหน้าสภา

เวลา 17.00 น. วานนี้ (25 ส.ค) ภายหลังปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตัวแทนผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้เข้ายื่นหนังสือถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพื่อให้ยุติการคุกคามสื่อมวลชน โดยในหนังสือดังกล่าวระบุว่าตามที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ประกาศนโยบายสร้างความปรองดองสมานฉันท์ และได้ย้ำตลอดเวลาว่าแก้ไขไม่แก้แค้น ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 23ส.ค.2554 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากสังคมทุกฝ่ายที่ต่างอยากเห็นความสงบสุข สันติ และรอยยิ้มของคนไทยให้คืนกลับมาอีกครั้ง

ในฐานที่พวกเราสื่อมวลชนภาคสนาม สายการเมือง ประจำทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ความมั่นคง มหาดไทย ฯลฯ ล้วนให้ความร่วมมือและสนับสนุนทุกภาคส่วนในสังคมสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตามขณะที่บรรยากาศบ้านเมืองกำลังเดินไปด้วยดี ปรากฏว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงบางกลุ่มซึ่งอ้างตัวเป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย แสดงความไม่พอใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนโดยเฉพาะนักข่าวภาคสนามที่ติดตามทำข่าวนายกรัฐมนตรี

ล่าสุดได้มีการส่งฟอร์เวิร์ดเมล์ภายในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงมีความปลุกระดมให้ผู้คนมีความเกลียดชังผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 รายหนึ่ง ด้วยการโพสต์ภาพถ่ายชื่อ - นามสกุล ด้วยข้อความดังต่อไปนี้ “เปิดโฉมหน้านักข่าวที่ทำให้นายกฯปูเดินหนี จำหน้าหล่อนไว้นะครับ เห็นที่ได้ก็จัดให้หน่อยก็แล้วกันครับ”

ดังนั้นกลุ่มนักข่าวภาคสนามฯ เห็นว่าพฤติดังกล่าวเป็นการคุกคามสิทธิ เสรีภาพ และการทำหน้าที่สื่อมวลชน จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งดำเนินการกับขบวนการคุกคามสื่อมวลชนดังกล่าว เพราะสื่อมวลชนเป็นฟันเฟืองหนึ่งในการสร้างความปรองดองในสังคม ทั้งนี้กลุ่มนักข่าวภาคสนามฯจึงได้รวบรวมรายชื่อมาร้องเรียนนายกฯและแสดงจุดยืนในการทำหน้าที่

ทั้งนี้ ตัวแทนผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรี ว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มการเมืองที่เคลื่อนไหวและคาดว่าเกิดความไม่พอใจในการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวในการสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี จึงมีการฟอร์เวิร์ดอีเมล์ และข่มขู่นักข่าวในสังกัดช่อง 7 ซึ่งเรื่องนี้มีความเป็นห่วงว่าจะเป็นคุกคามสื่อ จึงอยากขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยตรวจสอบและกำจัดขบวนการที่จะคุกคามสื่อ และเราในฐานะผู้สื่อข่าวภาคสนามยืนยัน ว่าเรามีจุดยืนในการทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง และไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเป็นสีอะไร แต่เป็นเรื่องของคุณธรรม และชีวิตของคนคนหนึ่ง

ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวภายหลังการรับหนังสือ ว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้และจะมีติดตามสอบถามรายละเอียด และตนมีความยินดีให้สื่อเป็นอิสระอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีคิดอย่างไรกับคำถามของสื่อมวลชน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็เชื่อว่าสื่อทุกคนทำตามหน้าที่ ตนก็มีหน้าที่ชี้แจง
เมื่อถามว่า ตัวนายกรัฐมนตรีมีมาตรฐานในการรับแรงเสียดทานกับการตั้งคำถามของสื่อมวลชนในการทำหน้าที่แค่ไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้เราถือว่าเป็นคนของประชาชน ก็ต้องหน้าที่ชี้แจง สื่อมวลชนก็ทำหน้าที่ของสื่อมวลชน แต่ขอให้อยู่ในขอบข่าย เมื่อถามว่า นโยบายปรองดองรัฐบาล จะมีการทำความเข้าใจกับกลุ่มสนับสนุน ในเรื่องประชาธิปไตยอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอทำงานก่อน ถามต่อว่า ตราบใดที่ยังมีการทะเลาะกันอยู่ ด้วยความเข้าในเรื่องประชาธิปไตยที่แตกต่างกัน ตรงนี้ก็จะเป็นปัญหาของนโยบายปรองดองของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนก็ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอยู่แล้ว

** "พรทิพย์ ” ปธ.แดงเพชรบุรีมือโพสต์
 

ทั้งนี้ ฟอร์เวิร์ดเมลจากเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ส่งต่อกัน มีเนื้อหาข่มขู่ และเชิญชวนให้ผู้ที่อยู่ในเครือข่ายจดจำหน้าผู้สื่อข่าวรายหนึ่ง เพื่อทำร้ายหากพบเห็น โดยต้นฉบับระบุที่อยู่อีเมล pt.paksanont@hotmail.com ลงวันที่ 23 ส.ค.2554 ระบุชื่อผู้ส่งคือ พรทิพย์ ปักษานนท์ เมื่อตรวจสอบพว่า เป็นประธานกลุ่มคนเสื้อแดง จ.เพชรบุรี

ทั้งนี้อีเมลดังกล่าวมีเนื้อหาระบุถึงผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่ทำหน้าที่สื่อมวลชนในการตั้งคำถามต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จนต้องเดินหนีไม่ตอบคำถาม โดยอีเมลนี้ได้ลงรูปของผู้สื่อข่าวรายนี้ที่เห็นหน้าชัดเจน ระบุชื่อจริง นามสกุลจริง นามปากกา สังกัด และมีข้อความใต้ภาพว่า “เปิดโฉมหน้านักข่าวที่ทำให้นายกปูเดินหนี ที่แท้เป็นนักข่าวสาว ช่อง 7 สี ที่นายกนก ชื่นชมนักหนาว่ากล้าหาญ ที่ถามคุณยิ่งลักษณ์ จนต้องเดินเลี่ยง คนนี้เป็นใคร.. หล่อนคือ......(ชื่อจริง นามสกุลจริง และนามปากกา) ที่แท้ก็อยู่ในเครือเนชั่น และเคยจัดรายการวิทยุ ร่วมกับนายมีชัย มีเสน อดีตบก.นสพ.แนวหน้า กับผู้สื่อข่าว นสพ.บางกอกโพสท์นี่เอง จำหน้าหล่อนไว้นะคับ เห็นที่ไหนก็จัดให้หน่อยก็แล้วกันครับ”

**“เด็จพี่” จ๋อยอ้างทำได้แค่ปราม!
 

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบจากคนที่ดูแลเว็ปไซต์ของพรรคแล้ว ขอเรียกร้องให้ผู้เข้ามาโพสต์ข้อความคุกคามสื่อ แม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม ก็ไม่ควรทำเช่นนี้ เพราะเป็นการผิดกฎหมาย ทำให้พรรคเพื่อไทย และน.ส.ยิ่งลักษณ์ เสียคะแนนนิยม อย่างไรก็ตามตนจะประสานไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อตรวจสอบตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจะให้ลบข้อความข่มขู่ดังกล่าวออก แต่คงไม่ถึงขั้นปิดเว็ป ซึ่งการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนมีความเป็นกลางอยู่แล้ว เพราะเขามีกรอบจรรยาบรรณควบคุมอยู่ เรื่องนี้สังคมจะเป็นผู้ตัดสินเอง อย่าไปข่มขู่เช่นนั้น ตนไม่เห็นด้วย

ด้านนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนในฐานะที่เป็น ส.ส.ในพื้นที่ จะรู้ว่าคนเสื้อแดงในเมืองเพชรฯ มีไม่เยอะ แต่มักจะแสดงออกซึ่งพฤติกรรมที่คนเมืองเพชรรับไม่ได้ ซึ่งหากเป็นคนเมืองเพชรจริงก็จะไม่แสดงออกเช่นนี้ เพราะตนรู้จักแยกแยะ เนื่องจากสื่อมวลชนถือเป็นฐานันดรที่ 4 และมีหน้าที่เพื่อเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเปิดหูเปิดตาประชาชนให้ได้รับรู้ความจริง

ตนอยากจะขอไปยังผู้โพสต์ที่เป็นผู้หญิง และมีความเกี่ยวข้องกับรีสอร์ทในหาดปึกเตียน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ว่าขอให้หยุดพฤติกรรมคุกคามเช่นนี้ เพราะตนเองก็เป็นบุคคลที่ทำอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยว การกระทำเช่นนี้จะทำให้ประชาชนอยากจะไปเที่ยวได้อย่างไร อย่างไรก็ตามตนต้องการให้ผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ให้โพสต์ข้อความแสดงการขอโทษต่อสื่อมวลชนทุกคนไม่เพียงแค่คนใดคนหนึ่งเท่านั้น

**อีกราย! ลิ่วล้อ “ปูแดง” กระทืบหน้าสภาฯ
 

วันเดียวกันได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น บริเวณหน้ารัฐสภา โดยกลุ่มที่เริ่มก่อเหตุอัปยศครั้งนี้ คือ “กลุ่มเสื้อแดง” ที่ปักหลักชุมนุมให้กำลังใจในการแถลงนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ปักหลักตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.10 น. เมื่อมีชาย 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายยุทธภูมิ ตันเล่ง อายุ 34 ปี และนายอาทิตย์ พูลศิริ ที่อ้างว่ามาในฐานะอดีตนักศึกษาจากมหาวิททยาลัยราชภัฏธนบุรี พยายามจะมาวางพวงหรีดที่มีข้อความว่า “แด่…นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้ทำหน้าที่เป็นกลางในดวงใจ ทักษิณ” จากกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตย หน้าประตุูทางเข้ารัฐสภาฝั่ง ถ.อู่ทองใน และกำลังจะอ่านแถลงการณ์ แต่กลับถูกกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่หน้ารัฐสภา เข้ามารุมขัดขวางและทำร้ายไม่ให้วางพวงหรีด พร้อมยื้อยุดฉุดกระชากพวงหรีดไปทำลาย รวมถึงหักคอตบหัวเตะต่อยทำให้ทั้ง 2 ต้องวิ่งหนีอย่างหัวซุกหัวซุน โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลประจำรัฐสภา ตำรวจท้องที่ สน.ดุสิต รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามรัฐมนตรี ต่างยื่นดูโดยไม่มีตำรวจเพียงคนเดียวเข้าไปข้ามปราม

ภายหลังเหตุการณ์ นายยุทธภูมิเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตั้งใจจะมายื่นพวงหรีดให้กับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ทำตัวเป็นกลางในการควบคุมการประชุม ซึ่งการมาครั้งนี้เป็นการมาด้วยตัวเองไม่มีใครจ้างมา และการเคลื่อนไหวครั้งนี้มาในนาม “กลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตย” ตามสิทธิเสรีภาพ แต่เมื่อมาถึงก็ถูกกลุ่มคนเสื้อแดง 10 - 20 คน เข้ามารุมทำร้ายโดนต่อยบ้าง โดนถีบบ้าง

“ตำรวจก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะคนเสื้อแดงมีจำนวนมากกว่า ผมคงไม่ติดใจเอาเรื่อง และจะไม่ไปแจ้งความดำเนินเอาผิดกับคนเสื้อแดง” นายยุทธภูมิกล่าวและว่า หากนายสมศักดิ์ยังทำหน้าที่ไม่เป็นกลางต่อไป คงต้องมาอีกแต่ต้องดูว่าจะมาแบบไหนอาจจะเลี่ยงใช้วิธีอื่น

**ปชป.จี้ “ปู-ขุนค้อน”รับผิดชอบ
 

อีกด้าน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือถึงเหตุการณ์หน้ารัฐสภาว่า เรื่องนี้ปกติสามารถทำได้ตามสิทธิ์ในระบอบประชาธิปไตย ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ประธานจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรเพราะกระทบกับท่านโดยตรง และจะกระทบกับการทำงานของฝ่ายค้านด้วย เพราะในระหว่างมีการอภิปรายในสภา ข้างนอกก็มีการพูดปลุกระดมว่าเดี๋ยวออกมาจัดให้ รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงจะมีหลักประกันอย่าไร เพราะจะกระทบต่อกระบวนการปรองดองแน่นอน นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่โดยตรงต้องมีความชัดเจนจะดำเนินการอย่างไร ถือเป็นการกดดันการทำงานสองฝ่าย และการทำหน้าที่จะไม่สมบูรณ์

นายสมศักดิ์กล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์เกิดนอกรั้ว ไม่อยู่ในอำนาจความรับผิดชอบของสภา ดังนั้นถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องเข้าไปดูแล จึงขอฝากนายกฯด้วย
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การพูดปัดของประธานรัฐสภาที่ว่าเหตุเกิดนอกบริเวณรัฐสภานั้นเป็นเรื่องอันตราย ทั้งที่ท่านควรรับเรื่องไว้ตรวจสอบ และควรเรียกเจ้าหน้าที่เมื่อเห็นประชาชนถูกทำร้าย ไม่ใช่ว่าเมื่อเป็นเรื่องนอกสภาแล้วอยู่เฉยๆ ถ้าป็นเเรื่องในสภาแล้วค่อยมาดูแลแบบนี้ไม่ได้

ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐฒนตรี กล่าวเพียงสั้นๆว่าจะมอบหมายให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐฒนตรีฝ่ายความมั่นคง มาหารือกับนายสาธิต วงศ์หนองเตย เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม

นายสมศักดิ์กล่าวว่าตนพึ่งทราบเรื่องจริงๆเมื่อมีการนำมาพูดในสภา แต่เมื่อนายกฯมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปดูแลแล้วมันน่าจะจบ จากนั้นได้ตัดบทให้มีการอภิปรายต่อไป

นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้แสดงความรับผิดชอบ ทั้งนี้ ตนเห็นว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา มีท่าทีที่ข่มขู่คุกคาม ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ที่ออกมาเคลื่อนไหวตามสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นภาพที่ทำลายการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะในประเด็นสมานฉันท์ปรองดอง

ภาพของการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงใน 2 - 3 วันที่ผ่านมา เป็นเหมือนกองกำลังองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ซึ่งตนเชื่อว่า กลุ่มเสื้อแดงเป็นเหยื่อของผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากการชุมนุมครั้งนี้ อีกทั้ง ในการชุมนุมยังมีรูปของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ปรากฎอยู่ จึงเป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ในเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง และมองว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน

**ฉะ“เสื้อแดง” คุกคามปชช.-สื่อมวลชน

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กลุ่มประชาชนที่สนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย ได้แสดงพฤติกรรมข่มขู่ คุกคามความชีวิตและทรัพย์สินมาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศซึ่งเกือบทุกครั้งมักจะเกินขอบเขตของกฎหมาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลุ่มที่ถูกสนับสนุนอย่างพรรคเพื่อไทย กลับแสดงความรู้ร้อนรู้หนาว โดยเฉพาะประธานรัฐสภา ที่แสดงออกด้วยการปัดความรับผิดชอบและระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นนอกพื้นที่รัฐสภาจึงไม่สามารถจัดการได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น