ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบซากรถแก๊งคันที่เกิดอุบัติเหตุชนราวสะพานจนไฟลุกท่วม พบยังคงมีกลิ่นแก๊สคละคลุ้ง เตรียมน้ำไปฉีดไล่ล้างกลิ่นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ พร้อมเตรียมออกหมายจับโชเฟอร์ทันที โดยไม่ต้องรอออกหมายเรียกอีก เพราะจนถึงขณะนี้ ยังไม่ติดต่อขอเข้ามอบตัว ถือว่ามีเจตนาหลบหนีชัดเจน
วันนี้ (26 มี.ค.) เวลา 12.00 น. ที่ สน.คลองตัน พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.ท.อนุศักดิ์ วนาปกรณ์ รองผกก.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กองวิศวกรรมเครื่องยนต์กรมการขนส่งทางบก สำนักการโยธาธิการกรุงเทพมหานคร และพนักงานฝ่ายช่างของบริษัท พีลาทัส แลนด์ แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด เดินทางมาตรวจสอบรถบรรทุกแก๊ส ทะเบียน 75-3816 กรุงเทพมหานคร ซึ่งประสบอุบัติเหตุเสียหลักชนราวสะพาน ถ.พัฒนาการ บริเวณปากซอย 20-22 ขาเข้ามุ่งหน้าแยกคลองตัน กรุงเทพฯ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เมื่อช่วงเช้ามืด วันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ใช้เวลาในการตรวจรอบๆ ตัวรถประมาณ 30 นาที
พ.ต.ท.อนุศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ให้เดินทางมาตรวจสอบรถคันดังกล่าวในวันนี้ เพื่อหาร่องรอย และเก็บหลักฐานสำคัญไปตรวจสอบที่แลป เพื่อนำผลมาใช้ประกอบสำนวนคดี ซึ่งดูจากสายตาแล้วสภาพรถได้รับความเสียหายทั้งคัน และเบื้องต้นพบว่า ยังมีกลิ่นแก๊สโชยออกมาจากถังแคปซูลก็เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงปรึกษากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าในวันพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) จะเดินทางมาตรวจสอบร่วมกันอีกครั้ง เพื่อจะนำน้ำมากรอกใส่ตัวถังแคปซูลชะล้างกลิ่นแก๊สออกให้หมดเสียก่อน หลังจากนั้น จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนการปฏิบัติงานวันนี้เน้นดูที่ร่องรอยการชน และรอยไหม้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองวิศวกรรมเครื่องยนต์กรมการขนส่งทางบก สำนักการโยธาธิการกรุงเทพมหานคร และพนักงานฝ่ายช่างของบริษัทเจ้าของรถ ทั้งนี้ การเก็บหลักฐานในวันนี้ดำเนินการไปได้พอสมควร ซึ่งตนจะต้องนำผลไปรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.กฤษดา ขันโสดา พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.คลองตัน เปิดเผยว่า สำหรับการติดตามตัวนายอนันต์ แก้วมะ อายุ 34 ปี คนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุ หลังจากออกหมายเรียกตัวครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด ทราบเพียงว่าหลบหนีไปแล้ว หากภายใน 1-2 วันนี้ ยังไม่ได้รับการติดต่อเข้ามอบตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการยื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอการออกหมายเรียกครั้ง ที่ 2 เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนีอย่างชัดเจน
พ.ต.ท.กฤษดา กล่าวอีกว่า ส่วนการสอบปากคำพยานแวดล้อมนั้น ได้สอบปากคำครบเกือบหมดแล้ว เหลือเพียง นายบัวพันธ์ สุวรรณแสน อายุ 66 ปี อาชีพช่างไม้ ที่ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู รพ.เพชรเวช โดยคาดว่าประมาณ 1-2 วันนี้ อาการน่าจะดีขึ้นและสามารถให้ปากคำได้ ซึ่งตนจะเดินทางไปสอบปากคำที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง และช่วงบ่ายวันนี้ เวลาประมาณ 16.00 น. ทางผู้บริหารบริษัท พีลาทัส แลนด์ แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด เจ้าของรถบรรทุกแก๊สคันเกิดเหตุ จะเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ในประเด็นเรื่องสัญญาว่าจ้างพนักงานขับรถ หลักฐานทะเบียนรถ หลักฐานการขนส่ง และหลักฐานเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของตัวรถเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการแจ้งข้อหากับทางบริษัทฯ เจ้าของรถนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูก่อนว่าบริษัทฯ มีความบกพร่องจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหรือไม่
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. ตัวแทนบริษัทพีลาทัส แลนด์แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด เจ้าของรถบรรทุกแก๊สที่พุ่งชนราวสะพานถนนพัฒนาการ จำนวน3คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กฤษดา ขันโสดา พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เพื่อยื่นเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย สัญญาว่าจ้างพนักงานขับรถ หลักฐานทะเบียนรถ หลักฐานการขนส่ง และหลักฐานเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย หลังจากทางพนักงานสอบสวนได้ร้องขอข้อมูลไปก่อนหน้านี้
พ.ต.ท.กฤษดา กล่าวว่า ในวันนี้ ตัวแทนของบริษัทดังกล่าวได้มายื่นเอกสารหลักฐานเท่านั้น โดยยังไม่พร้อมที่จะให้ปากคำซึ่งก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของตัวแทนบริษัท โดยหลังจากนี้จะมีการนัดเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมภายหลัง แต่ยังไม่สามารถระบุ วันเวลาที่แน่นอน ส่วนนายอนันต์ แก้วมะ พนักงานขับรถที่เกิดเหตุ นั้นทางบริษัทยังไม่ได้รับการติดต่อมาแต่อย่างใด
วันนี้ (26 มี.ค.) เวลา 12.00 น. ที่ สน.คลองตัน พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.ท.อนุศักดิ์ วนาปกรณ์ รองผกก.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กองวิศวกรรมเครื่องยนต์กรมการขนส่งทางบก สำนักการโยธาธิการกรุงเทพมหานคร และพนักงานฝ่ายช่างของบริษัท พีลาทัส แลนด์ แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด เดินทางมาตรวจสอบรถบรรทุกแก๊ส ทะเบียน 75-3816 กรุงเทพมหานคร ซึ่งประสบอุบัติเหตุเสียหลักชนราวสะพาน ถ.พัฒนาการ บริเวณปากซอย 20-22 ขาเข้ามุ่งหน้าแยกคลองตัน กรุงเทพฯ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เมื่อช่วงเช้ามืด วันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ใช้เวลาในการตรวจรอบๆ ตัวรถประมาณ 30 นาที
พ.ต.ท.อนุศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ให้เดินทางมาตรวจสอบรถคันดังกล่าวในวันนี้ เพื่อหาร่องรอย และเก็บหลักฐานสำคัญไปตรวจสอบที่แลป เพื่อนำผลมาใช้ประกอบสำนวนคดี ซึ่งดูจากสายตาแล้วสภาพรถได้รับความเสียหายทั้งคัน และเบื้องต้นพบว่า ยังมีกลิ่นแก๊สโชยออกมาจากถังแคปซูลก็เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงปรึกษากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าในวันพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) จะเดินทางมาตรวจสอบร่วมกันอีกครั้ง เพื่อจะนำน้ำมากรอกใส่ตัวถังแคปซูลชะล้างกลิ่นแก๊สออกให้หมดเสียก่อน หลังจากนั้น จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนการปฏิบัติงานวันนี้เน้นดูที่ร่องรอยการชน และรอยไหม้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองวิศวกรรมเครื่องยนต์กรมการขนส่งทางบก สำนักการโยธาธิการกรุงเทพมหานคร และพนักงานฝ่ายช่างของบริษัทเจ้าของรถ ทั้งนี้ การเก็บหลักฐานในวันนี้ดำเนินการไปได้พอสมควร ซึ่งตนจะต้องนำผลไปรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.กฤษดา ขันโสดา พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.คลองตัน เปิดเผยว่า สำหรับการติดตามตัวนายอนันต์ แก้วมะ อายุ 34 ปี คนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุ หลังจากออกหมายเรียกตัวครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด ทราบเพียงว่าหลบหนีไปแล้ว หากภายใน 1-2 วันนี้ ยังไม่ได้รับการติดต่อเข้ามอบตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการยื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอการออกหมายเรียกครั้ง ที่ 2 เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนีอย่างชัดเจน
พ.ต.ท.กฤษดา กล่าวอีกว่า ส่วนการสอบปากคำพยานแวดล้อมนั้น ได้สอบปากคำครบเกือบหมดแล้ว เหลือเพียง นายบัวพันธ์ สุวรรณแสน อายุ 66 ปี อาชีพช่างไม้ ที่ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู รพ.เพชรเวช โดยคาดว่าประมาณ 1-2 วันนี้ อาการน่าจะดีขึ้นและสามารถให้ปากคำได้ ซึ่งตนจะเดินทางไปสอบปากคำที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง และช่วงบ่ายวันนี้ เวลาประมาณ 16.00 น. ทางผู้บริหารบริษัท พีลาทัส แลนด์ แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด เจ้าของรถบรรทุกแก๊สคันเกิดเหตุ จะเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ในประเด็นเรื่องสัญญาว่าจ้างพนักงานขับรถ หลักฐานทะเบียนรถ หลักฐานการขนส่ง และหลักฐานเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของตัวรถเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการแจ้งข้อหากับทางบริษัทฯ เจ้าของรถนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูก่อนว่าบริษัทฯ มีความบกพร่องจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหรือไม่
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. ตัวแทนบริษัทพีลาทัส แลนด์แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด เจ้าของรถบรรทุกแก๊สที่พุ่งชนราวสะพานถนนพัฒนาการ จำนวน3คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กฤษดา ขันโสดา พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เพื่อยื่นเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย สัญญาว่าจ้างพนักงานขับรถ หลักฐานทะเบียนรถ หลักฐานการขนส่ง และหลักฐานเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย หลังจากทางพนักงานสอบสวนได้ร้องขอข้อมูลไปก่อนหน้านี้
พ.ต.ท.กฤษดา กล่าวว่า ในวันนี้ ตัวแทนของบริษัทดังกล่าวได้มายื่นเอกสารหลักฐานเท่านั้น โดยยังไม่พร้อมที่จะให้ปากคำซึ่งก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของตัวแทนบริษัท โดยหลังจากนี้จะมีการนัดเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมภายหลัง แต่ยังไม่สามารถระบุ วันเวลาที่แน่นอน ส่วนนายอนันต์ แก้วมะ พนักงานขับรถที่เกิดเหตุ นั้นทางบริษัทยังไม่ได้รับการติดต่อมาแต่อย่างใด