“กษิต” อดีต รมว.ต่างประเทศ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อ ตร.กองปราบฯ คดีชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิแล้ว พร้อมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
วันนี้ (14 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กองปราบปราม นายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ต้องหาร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามคำสั่งของอัยการ ในข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาตรา 9, 10 และ พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาตรา 9, 10, 18
นายกษิตกล่าวเพียงสั้นๆ ว่ามาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและได้ให้การปฏิเสธ ซึ่งก็ว่าไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้หนีไปไหน และทางพนักงานสอบสวนก็ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 7 คนที่ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 3 จะครบกำหนดวันที่ 16 มี.ค.นี้ จากนั้นก็จะหารือกับทางอัยการว่าสมควรที่จะออกหมายจับหรือไม่ ซึ่งในทางปฏิบัติขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องประกันตัว ขอให้ผู้ต้องหาที่เหลือรีบมารับทราบข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ต่อมาเวลา 14.00 น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา กับพนักงานสอบสวนฐานมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดย น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า วันนี้ ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียก ที่ พนักงานอัยการได้ สั่งให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ซึ่งตนก็ได้ให้การปฏิเสธ และจะขอ ให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งให้พนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน ทั้งนี้ การที่กลุ่มพันธมิตรฯถูก แจ้งข้อกล่าวหา เพิ่มเติม เพื่อจะให้มีข้อหาที่สูงขึ้น นั้น นับเป็นจุดเริ่มต้น ของการนำผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดี เกี่ยวข้องกับการเมืองไปรวมอยู่ในจุดเดียวกัน เพื่อ เป็นการเริ่มต้น สู่การนิรโทษกรรม และมีจุดมุ่งหมายในการ ช่วยเหลือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษ