บนโลกออนไลน์กับความก้าวล้ำในเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อหันไปมองย้อนกลับจะเห็นได้ว่าสังคมยุคนี้ รวมถึงจิตใจมนุษยไม่ได้เจริญตามเทคโนโลยี แต่กลับฉวยโอกาสเอาวัตถุเป็นสิ่งเร้ายั่วยวนจิตใจสาวรุ่นให้เกิดความอยากได้สิ่งของสวยงาม เครื่องใช้ราคาแพง ประดับกายและไว้อวดเพื่อน ๆ จนนำไปสู่การถูกล่อลวงให้ค้ากามได้ง่าย เนื่องจากเด็กสาววัยแรกรุ่นต้องการความเป็นอยู่ที่สุขสบาย จึงทำให้สังคมเสื่อมโทรมมากยิ่งขึ้น
ปัญหาเด็กหญิงถูกหลอกบังคับให้ค้าประเวณีถือว่าเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข ไม่ควรมองข้าม"ขุมนรก" ที่กลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อต้องถูกลวงให้ขายตัว หลอกให้ต้องติดยาเสพติด ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นได้ง่ายกับเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน เพื่อนชักชวนให้ทำ หรือหนีออกจากบ้านคบเปลี่ยนเพื่อนชายมากหน้า บางคนก็ใจแตกต้องการหาเงินเองแต่ด้วยวิธีไม่ถูกต้อง เช่น ขายยาเสพติด ค้ากาม เพื่อนำเงินไปซื้อของใช้ฟุ่มเฟือย แม้ว่าการพลีกายของเด็กสาวจะถูกบังคับให้กระทำ หรือเต็มใจทำเองก็ตาม ซึ่งวิถีชีวิตของกลุ่มวัยรุ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิม ได้เป็นช่องว่างทำให้พวกที่ฉวยโอกาสหาเงินบนเส้นทางค้ากามที่เป็นภัยใกล้ตัวเกิดขึ้นได้ง่าย และได้เกิดขึ้นจริงมานานแล้ว
โดยเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่ สน.บางขุนนนท์ นายเทพ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ได้พาตัว ด.ญ.แอน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกสาว นักเรียนชั้น ม.1 เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อิสระ วิทยาศิริภัค พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางขุนนนท์ เพื่อต้องหารให้ดำเนินคดีกับ นายจีระศักดิ์ ช้างดอนไพร อายุ 21 ปี หรือ “เจเจ้ เมืองนนท์” ฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการค้าประเวณี หลังจากลูกสาวหายออกจากบ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์ ซอย 33 ไปนานเกือบ 1 เดือน กระทั่งสืบทราบว่าถูกบังคับให้ไปค้าประเวณี
ซึ่งนายเทพ ได้เล่าย้อนก่อนที่จะรู้ว่าลูกสาวถูกบังคับให้ไปขายตัวครั้งนี้ ว่า ลูกสาวได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.55 จึงออกตามหาแต่ไม่พบ จนตัดสินใจแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ ลงวันที่ 23 ก.พ.55 ที่ผ่านมา และออกติดตามหาลูกสาวไปทั่วทุกแห่งที่คาดว่าลูกสาวจะเดินทางไปเที่ยว ขณะเดียวกันก็ได้พยายามสอบถามจากเพื่อนของลูกสาว จนทราบว่าลูกสาวไปพักอยู่กับกะเทยที่มีฉายา "เจเจ้ เมืองนนท์" ซึ่งจะทำหน้าที่จัดหาเด็ก เพื่อการค้าประเวณี โดยอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าเลขที่ 154/4-8 ม.6 ซอยกรุงเทพนนท์ 2 (วัดทางหลวง) ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี
เมื่อรู้ว่าลูกสาวไปอยู่กับกระเทยซึ่งเป็นนายหน้าค้ากาม นายเทพได้พาญาติๆเดินทางไปช่วยนำตัวลูกสาวกลับบ้าน โดยได้เดินทางไปยังห้องเช่าดังกล่าว พบว่าภายในห้องเช่ามีสภาพนอนกันเบียดเสียดยัดเยียดอยู่รวมกันทั้งลูกสาว และยังมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวอีก 3 คน โดยมีชายวัยรุ่นอีก 2 คน และมีกะเทยอีก 4 คน นอนกระจัดกระจายเกลื่อน ทั้งบนเตียงนอน และบนพื้นราบรวม 10 คน จึงตัดสินใจปลุกทุกคนให้ตื่นและนำทุกคนส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ
จากการสอบสวน ด.ญ.แอน (ลูกสาวนายเทพ) ให้การว่า มีเพื่อนชวนไปอยู่กับ นายจีระศักดิ์ หรือ "เจเจ้ เมืองนนท์" ที่ห้องเช่าดังกล่าว โดยเพื่อนได้อ้างว่ามีที่พักให้อยู่สบาย มีเสื้อผ้าสวยๆ ให้ใส่ และมีอาหารให้กินอิ่มทุกมื้อ แต่พอเดินทางมาถึงกลับถูกนายจีระศักดิ์ ยึดโทรศัพท์มือถือ บังคับให้อยู่แต่ในห้องเช่า พอถึงเวลาก็มีแขกติดต่อเข้ามา ซึ่งนายจีระศักดิ์ จะพาตระเวนไปให้แขกดูตัวตามโรงแรมย่านถนนพระราม 5 จ.นนทบุรี ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนสุขุมวิท หากแขกตกลงซื้อบริการจะเรียกเก็บค่าบริการครั้งละตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท โดยระหว่างที่อยู่กับแขกในห้องนั้น นายจีระศักดิ์ จะสั่งให้เพื่อนที่เป็นกะเทยด้วยกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเฝ้าที่หน้าโรงแรม เพื่อรอรับตัวขึ้นแท็กซี่กลับห้อง เพื่อป้องกันการหลบหนี ซึ่งระหว่างที่ถูกบังคับให้ค้าประเวณีนั้น ไม่เคยได้รับค่าตัวแม้แต่บาทเดียว แต่จะได้กินข้าว และพาไปทำผม และซื้อเสื้อผ้าแนววาบหวามให้ใส่เท่านั้น
ด้าน ด.ญ.เดือน ด.ญ.ดาว และ ด.ญ.เบียร์ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ให้การว่า ได้ถูกล่อลวงมาค้าประเวณีเช่นกัน และต้องจำใจพักอยู่กับนายจีระศักดิ์ ที่ห้องดังกล่าวมานานกว่า ด.ญ.แอน อย่างไรก็ตาม เด็กหญิงทั้ง 3 เล่าว่าก่อนหน้านี้ เคยเรียนหนังสือชั้น ม.ต้น ที่โรงเรียนชื่อดังย่านสามเสน และบางซื่อ กระทั่งถูกหลอกมาเข้าทำงานในสังกัดของนายจีระศักดิ์ ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่กับนายจีระศักดิ์ เหมือนถูกกักขัง เพราะไม่เคยได้รับอนุญาตให้ออกไปไหน และไม่เคยได้ใช้โทรศัพท์ เพราะนายจีระศักดิ์ กลัวว่าจะติดต่อทางญาติให้มารับตัว โดยที่ผ่านมา เวลามีแขกต้องการซื้อบริการจะโทร.ติดต่อมายัง นายจีระศักดิ์ ว่า ต้องการเด็กสเปกแบบไหน จากนั้นจะนัดไปพบกันที่โรงแรมชื่อดังหลายแห่ง เช่น โรงแรมอมรอิน ย่านแจ้งวัฒนะ โรงแรมฟอร์ยู โรงแรมภิรมย์โฮเต็ล และโรงแรมเดอะริชบอส ย่านพระรามที่ 5 เด็กหญิงที่ถูกล่อลวงให้ค้ากาม เล่าด้วยว่า ผู้ใช้บริการบางคนเป็นพวกจิตวิตถารเวลาร่วมเพศจะต้องถ่ายคลิปวิดีโอไว้ดูด้วย เพราะนายจีระศักดิ์ เป็นคนบอกกับแขกว่า จะทำอะไรก็ได้ และถ้าไม่ยินยอมหรือปฏิเสธไม่ให้ถ่าย ทางแขกจะโทรศัพท์ไปรายงานให้นายจีระศักดิ์ ทราบ ซึ่งเมื่อเดินทางกลับมาถึงห้องจะถูกทำร้ายตบตีอย่างทารุณ เพื่อสั่งสอนให้หลาบจำ
ทั้งนี้ เหยื่อทั้ง 3 ราย ยังให้การกับตำรวจว่า ที่ผ่านมา มีแขกมากหน้าหลายตา แม้แต่ข้าราชการตำรวจย่าน จ.นนทบุรี ก็จะติดต่อ นายจีระศักดิ์ เข้ามาใช้บริการหลับนอนมากมายหลายคน ที่มั่นใจว่าเป็นตำรวจ เพราะว่าแต่ละคนก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ล้วนถอดอาวุธปืน วิทยุสื่อสาร และกุญแจมือวางไว้บนหัวนอน ที่สำคัญบางคนยังเคยบอกเองว่าเป็นตำรวจ แถมยังมียาไอซ์มาให้เสพ เพื่อสร้างอารมณ์ก่อนมีเพศสัมพันธ์กันด้วย ซึ่งเหยื่อทั้ง 3 บอกว่าไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากตำรวจพวกนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะไปรายงาน นายจีระศักดิ์ แล้วจะโดนทุบตีอีก
ส่วน นายจีระศักดิ์ หรือ "เจเจ้ เมืองนนท์" กระเทยแสบที่ล่อลวงเด็กไปค้ากาม ได้กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ปัจจุบันมีอาชีพช่วยแม่ขายขนมจีน และก๋วยจั๊บ ตามงานวัด โดยจะเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ ซึ่งเด็กๆ พวกนี้หนีออกมาจากบ้านเอง แล้วมาอยู่ที่ห้องเช่ากับตน ซึ่งไม่ได้มีการล่อลวงแต่อย่างใด ส่วนเรื่องค้าประเวณีเด็ก นายจีระศักดิ์ อ้างว่าเด็กต่างเคยทำกันมาก่อน โดยระหว่างที่พักกับอยู่กับตนเองนั้น มักจะแอบใช้เบอร์ที่ห้องเช่าโทร.ไปนัดลูกค้า และนำเงินกลับมาแบ่งตนเสมอ ครั้งละ 500 บาท ส่วนสาเหตุที่ต้องไปค้าประเวณี เพราะต่างเคยบอกว่า ต้องการมีเสื้อผ้าสวยๆ แพงๆ สวมใส่ และมีของใช้ดีๆ โดยตนไม่ได้บังคับขู่เข็ญให้ไปทำ ซึ่งตนต้องการจะแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเด็กที่พาพวกบุกไปที่ห้องเช่า แล้วเอาปืนจ่อหัว และชกต่อยที่ใบหน้า เพื่อบังคับให้เดินทางมาโรงพักด้วย
ด้าน พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ สินสูงสุด ผกก.สน.บางขุนนนท์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่า ผู้ชาย 2 คน และกะเทยอีก 3 คนนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จึงปล่อยตัวกลับไปแล้ว ส่วน นายจีระศักดิ์ ได้ควบคุมตัวไว้เพื่อตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์ พร้อมส่งตัวเด็กหญิงเหยื่อทั้ง 4 ราย ไปตรวจร่างกายหาร่องรอยการถูกข่มขืน และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด
อย่างไรก็ตาม เด็กหญิงเหยื่อกามให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า นายจีระศักดิ์ อยู่ระหว่างติดต่อกับเอเยนต์ค้ากามย่านเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อทำการขายตัวเด็กทั้ง 4 คน ในราคาหัวละ 30,000-40,000 บาท หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ อาจไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่อีก โดยที่ผ่านมา นายจีระศักดิ์ ล่อลวงเด็กหญิงมาเป็นทาสกามให้ลูกค้าหลายรุ่นแล้ว หากใครโชคร้ายจะถูกส่งไปอยู่กับเอเยนต์ค้ากามรายอื่นๆ เป็นทอดๆ โดยไม่ทราบชะตากรรมว่าจะถูกทารุณอย่างไรบ้าง
6 มี.ค. อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ และ นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดสอบปากคำเด็กหญิงทั้ง 4 รายที่ตกทาสกามอีกครั้ง แต่ไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากเด็กหญิงทั้ง 4 คนมีความเครียด มีอาการอ่อนเพลีย
6 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจบางขุนนนท์ได้ควบคุมตัว นายจีระศักดิ์ ช้างดอนไพร อายุ 21 ปี หรือ “เจเจ้ เมืองนนท์”ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพเพียงว่าได้พัวพันกับเรื่องเหล่านี้มานานประมาณ 3 ปี ตั้งแต่อายุแค่ 18-19 ปีเท่านั้น ซึ่งที่เหลือจะขอให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น
การล่อลวงเด็กหญิงไปค้าประเวณีสะท้อนถึงความเสื่อมทรามของสังคมที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและรุนแรง ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีเด็กอายุน้อยที่ตกเป็นเหยื่อถูกกระทำกันมาก โดยขบวนการค้ากามเหล่านี้ยังคงแฝงตัวมาในหลายรูปแบบ พร้อมทั้งได้นำเสนอสิ่งของหรูหราล่อตาล่อใจเด็กวัยรุ่นที่ชอบความสบาย ชอบแต่งตัวใส่เสื้อผ้าสวย ๆ ซึ่งจุดนี้เองเป็นจุดอ่อนที่จะทำให้แก๊งค้ากามเข้าถึงตัวเหยื่อและถูกหลอกได้ง่าย
ปัญหาเด็กหญิงถูกหลอกบังคับให้ค้าประเวณีถือว่าเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข ไม่ควรมองข้าม"ขุมนรก" ที่กลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อต้องถูกลวงให้ขายตัว หลอกให้ต้องติดยาเสพติด ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นได้ง่ายกับเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน เพื่อนชักชวนให้ทำ หรือหนีออกจากบ้านคบเปลี่ยนเพื่อนชายมากหน้า บางคนก็ใจแตกต้องการหาเงินเองแต่ด้วยวิธีไม่ถูกต้อง เช่น ขายยาเสพติด ค้ากาม เพื่อนำเงินไปซื้อของใช้ฟุ่มเฟือย แม้ว่าการพลีกายของเด็กสาวจะถูกบังคับให้กระทำ หรือเต็มใจทำเองก็ตาม ซึ่งวิถีชีวิตของกลุ่มวัยรุ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิม ได้เป็นช่องว่างทำให้พวกที่ฉวยโอกาสหาเงินบนเส้นทางค้ากามที่เป็นภัยใกล้ตัวเกิดขึ้นได้ง่าย และได้เกิดขึ้นจริงมานานแล้ว
โดยเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่ สน.บางขุนนนท์ นายเทพ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ได้พาตัว ด.ญ.แอน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกสาว นักเรียนชั้น ม.1 เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อิสระ วิทยาศิริภัค พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางขุนนนท์ เพื่อต้องหารให้ดำเนินคดีกับ นายจีระศักดิ์ ช้างดอนไพร อายุ 21 ปี หรือ “เจเจ้ เมืองนนท์” ฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการค้าประเวณี หลังจากลูกสาวหายออกจากบ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์ ซอย 33 ไปนานเกือบ 1 เดือน กระทั่งสืบทราบว่าถูกบังคับให้ไปค้าประเวณี
ซึ่งนายเทพ ได้เล่าย้อนก่อนที่จะรู้ว่าลูกสาวถูกบังคับให้ไปขายตัวครั้งนี้ ว่า ลูกสาวได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.55 จึงออกตามหาแต่ไม่พบ จนตัดสินใจแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ ลงวันที่ 23 ก.พ.55 ที่ผ่านมา และออกติดตามหาลูกสาวไปทั่วทุกแห่งที่คาดว่าลูกสาวจะเดินทางไปเที่ยว ขณะเดียวกันก็ได้พยายามสอบถามจากเพื่อนของลูกสาว จนทราบว่าลูกสาวไปพักอยู่กับกะเทยที่มีฉายา "เจเจ้ เมืองนนท์" ซึ่งจะทำหน้าที่จัดหาเด็ก เพื่อการค้าประเวณี โดยอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าเลขที่ 154/4-8 ม.6 ซอยกรุงเทพนนท์ 2 (วัดทางหลวง) ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี
เมื่อรู้ว่าลูกสาวไปอยู่กับกระเทยซึ่งเป็นนายหน้าค้ากาม นายเทพได้พาญาติๆเดินทางไปช่วยนำตัวลูกสาวกลับบ้าน โดยได้เดินทางไปยังห้องเช่าดังกล่าว พบว่าภายในห้องเช่ามีสภาพนอนกันเบียดเสียดยัดเยียดอยู่รวมกันทั้งลูกสาว และยังมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวอีก 3 คน โดยมีชายวัยรุ่นอีก 2 คน และมีกะเทยอีก 4 คน นอนกระจัดกระจายเกลื่อน ทั้งบนเตียงนอน และบนพื้นราบรวม 10 คน จึงตัดสินใจปลุกทุกคนให้ตื่นและนำทุกคนส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ
จากการสอบสวน ด.ญ.แอน (ลูกสาวนายเทพ) ให้การว่า มีเพื่อนชวนไปอยู่กับ นายจีระศักดิ์ หรือ "เจเจ้ เมืองนนท์" ที่ห้องเช่าดังกล่าว โดยเพื่อนได้อ้างว่ามีที่พักให้อยู่สบาย มีเสื้อผ้าสวยๆ ให้ใส่ และมีอาหารให้กินอิ่มทุกมื้อ แต่พอเดินทางมาถึงกลับถูกนายจีระศักดิ์ ยึดโทรศัพท์มือถือ บังคับให้อยู่แต่ในห้องเช่า พอถึงเวลาก็มีแขกติดต่อเข้ามา ซึ่งนายจีระศักดิ์ จะพาตระเวนไปให้แขกดูตัวตามโรงแรมย่านถนนพระราม 5 จ.นนทบุรี ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนสุขุมวิท หากแขกตกลงซื้อบริการจะเรียกเก็บค่าบริการครั้งละตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท โดยระหว่างที่อยู่กับแขกในห้องนั้น นายจีระศักดิ์ จะสั่งให้เพื่อนที่เป็นกะเทยด้วยกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเฝ้าที่หน้าโรงแรม เพื่อรอรับตัวขึ้นแท็กซี่กลับห้อง เพื่อป้องกันการหลบหนี ซึ่งระหว่างที่ถูกบังคับให้ค้าประเวณีนั้น ไม่เคยได้รับค่าตัวแม้แต่บาทเดียว แต่จะได้กินข้าว และพาไปทำผม และซื้อเสื้อผ้าแนววาบหวามให้ใส่เท่านั้น
ด้าน ด.ญ.เดือน ด.ญ.ดาว และ ด.ญ.เบียร์ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ให้การว่า ได้ถูกล่อลวงมาค้าประเวณีเช่นกัน และต้องจำใจพักอยู่กับนายจีระศักดิ์ ที่ห้องดังกล่าวมานานกว่า ด.ญ.แอน อย่างไรก็ตาม เด็กหญิงทั้ง 3 เล่าว่าก่อนหน้านี้ เคยเรียนหนังสือชั้น ม.ต้น ที่โรงเรียนชื่อดังย่านสามเสน และบางซื่อ กระทั่งถูกหลอกมาเข้าทำงานในสังกัดของนายจีระศักดิ์ ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่กับนายจีระศักดิ์ เหมือนถูกกักขัง เพราะไม่เคยได้รับอนุญาตให้ออกไปไหน และไม่เคยได้ใช้โทรศัพท์ เพราะนายจีระศักดิ์ กลัวว่าจะติดต่อทางญาติให้มารับตัว โดยที่ผ่านมา เวลามีแขกต้องการซื้อบริการจะโทร.ติดต่อมายัง นายจีระศักดิ์ ว่า ต้องการเด็กสเปกแบบไหน จากนั้นจะนัดไปพบกันที่โรงแรมชื่อดังหลายแห่ง เช่น โรงแรมอมรอิน ย่านแจ้งวัฒนะ โรงแรมฟอร์ยู โรงแรมภิรมย์โฮเต็ล และโรงแรมเดอะริชบอส ย่านพระรามที่ 5 เด็กหญิงที่ถูกล่อลวงให้ค้ากาม เล่าด้วยว่า ผู้ใช้บริการบางคนเป็นพวกจิตวิตถารเวลาร่วมเพศจะต้องถ่ายคลิปวิดีโอไว้ดูด้วย เพราะนายจีระศักดิ์ เป็นคนบอกกับแขกว่า จะทำอะไรก็ได้ และถ้าไม่ยินยอมหรือปฏิเสธไม่ให้ถ่าย ทางแขกจะโทรศัพท์ไปรายงานให้นายจีระศักดิ์ ทราบ ซึ่งเมื่อเดินทางกลับมาถึงห้องจะถูกทำร้ายตบตีอย่างทารุณ เพื่อสั่งสอนให้หลาบจำ
ทั้งนี้ เหยื่อทั้ง 3 ราย ยังให้การกับตำรวจว่า ที่ผ่านมา มีแขกมากหน้าหลายตา แม้แต่ข้าราชการตำรวจย่าน จ.นนทบุรี ก็จะติดต่อ นายจีระศักดิ์ เข้ามาใช้บริการหลับนอนมากมายหลายคน ที่มั่นใจว่าเป็นตำรวจ เพราะว่าแต่ละคนก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ล้วนถอดอาวุธปืน วิทยุสื่อสาร และกุญแจมือวางไว้บนหัวนอน ที่สำคัญบางคนยังเคยบอกเองว่าเป็นตำรวจ แถมยังมียาไอซ์มาให้เสพ เพื่อสร้างอารมณ์ก่อนมีเพศสัมพันธ์กันด้วย ซึ่งเหยื่อทั้ง 3 บอกว่าไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากตำรวจพวกนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะไปรายงาน นายจีระศักดิ์ แล้วจะโดนทุบตีอีก
ส่วน นายจีระศักดิ์ หรือ "เจเจ้ เมืองนนท์" กระเทยแสบที่ล่อลวงเด็กไปค้ากาม ได้กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ปัจจุบันมีอาชีพช่วยแม่ขายขนมจีน และก๋วยจั๊บ ตามงานวัด โดยจะเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ๆ ซึ่งเด็กๆ พวกนี้หนีออกมาจากบ้านเอง แล้วมาอยู่ที่ห้องเช่ากับตน ซึ่งไม่ได้มีการล่อลวงแต่อย่างใด ส่วนเรื่องค้าประเวณีเด็ก นายจีระศักดิ์ อ้างว่าเด็กต่างเคยทำกันมาก่อน โดยระหว่างที่พักกับอยู่กับตนเองนั้น มักจะแอบใช้เบอร์ที่ห้องเช่าโทร.ไปนัดลูกค้า และนำเงินกลับมาแบ่งตนเสมอ ครั้งละ 500 บาท ส่วนสาเหตุที่ต้องไปค้าประเวณี เพราะต่างเคยบอกว่า ต้องการมีเสื้อผ้าสวยๆ แพงๆ สวมใส่ และมีของใช้ดีๆ โดยตนไม่ได้บังคับขู่เข็ญให้ไปทำ ซึ่งตนต้องการจะแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเด็กที่พาพวกบุกไปที่ห้องเช่า แล้วเอาปืนจ่อหัว และชกต่อยที่ใบหน้า เพื่อบังคับให้เดินทางมาโรงพักด้วย
ด้าน พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ สินสูงสุด ผกก.สน.บางขุนนนท์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่า ผู้ชาย 2 คน และกะเทยอีก 3 คนนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จึงปล่อยตัวกลับไปแล้ว ส่วน นายจีระศักดิ์ ได้ควบคุมตัวไว้เพื่อตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์ พร้อมส่งตัวเด็กหญิงเหยื่อทั้ง 4 ราย ไปตรวจร่างกายหาร่องรอยการถูกข่มขืน และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด
อย่างไรก็ตาม เด็กหญิงเหยื่อกามให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า นายจีระศักดิ์ อยู่ระหว่างติดต่อกับเอเยนต์ค้ากามย่านเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อทำการขายตัวเด็กทั้ง 4 คน ในราคาหัวละ 30,000-40,000 บาท หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ อาจไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่อีก โดยที่ผ่านมา นายจีระศักดิ์ ล่อลวงเด็กหญิงมาเป็นทาสกามให้ลูกค้าหลายรุ่นแล้ว หากใครโชคร้ายจะถูกส่งไปอยู่กับเอเยนต์ค้ากามรายอื่นๆ เป็นทอดๆ โดยไม่ทราบชะตากรรมว่าจะถูกทารุณอย่างไรบ้าง
6 มี.ค. อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ และ นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดสอบปากคำเด็กหญิงทั้ง 4 รายที่ตกทาสกามอีกครั้ง แต่ไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากเด็กหญิงทั้ง 4 คนมีความเครียด มีอาการอ่อนเพลีย
6 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจบางขุนนนท์ได้ควบคุมตัว นายจีระศักดิ์ ช้างดอนไพร อายุ 21 ปี หรือ “เจเจ้ เมืองนนท์”ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพเพียงว่าได้พัวพันกับเรื่องเหล่านี้มานานประมาณ 3 ปี ตั้งแต่อายุแค่ 18-19 ปีเท่านั้น ซึ่งที่เหลือจะขอให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น
การล่อลวงเด็กหญิงไปค้าประเวณีสะท้อนถึงความเสื่อมทรามของสังคมที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและรุนแรง ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีเด็กอายุน้อยที่ตกเป็นเหยื่อถูกกระทำกันมาก โดยขบวนการค้ากามเหล่านี้ยังคงแฝงตัวมาในหลายรูปแบบ พร้อมทั้งได้นำเสนอสิ่งของหรูหราล่อตาล่อใจเด็กวัยรุ่นที่ชอบความสบาย ชอบแต่งตัวใส่เสื้อผ้าสวย ๆ ซึ่งจุดนี้เองเป็นจุดอ่อนที่จะทำให้แก๊งค้ากามเข้าถึงตัวเหยื่อและถูกหลอกได้ง่าย