จำคุก 2 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท ครูสาวใหญ่ จ.หนองบัวลำภู หลอกสาวไปค้ากามญี่ปุ่น ศาลชี้อ้างไปทำวิทยานิพนธ์ศึกษาชีวิตหญิงไทยในต่างแดนฟังไม่ขึ้น ประกอบกับไม่มีหลักฐานใดมายืนยันได้
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1921/53 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง นางจิรภัทร หรือจิรพงษ์ แรมลี อายุ 55 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู เป็นจำเลยฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีฯ, หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างเดือน ก.ย.51 - 3 มิ.ย.53 จำเลยซึ่งเป็นครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ร.ร.หนองบัววิทยายน จ.หนองบัวลำภู ได้ร่วมกับพวกอีกหลายคนที่หลบหนี ออกอุบาย หลอกลวง น.ส.กุ๊ก (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย เพื่อไปค้าประเวณีที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีพวกจำเลยคอยควบคุม หน่วงเหนี่ยวกักขัง ไม่ให้ออกข้างนอก ทั้งผู้เสียหายเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 5 ล้านเยน (1,805,655 บาท) ต่อมาวันที่ 17 ต.ค.52 จำเลยถูกจับกุมได้ และให้การปฏิเสธ อ้างว่าเดินทางไปญี่ปุ่นเพราะต้องการศึกษาชีวิตหญิงไทยในญี่ปุ่นเพื่อทำวิทยานิพนธ์เรื่องหญิงไทยในต่างแดน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า โจทก์มีผู้เสียหายเบิกความสอดคล้องต่อเนื่องเชื่อมโยงในสาระสำคัญตั้งแต่แรกที่จำเลยพาไปขอวีซ่าเดินทางด้วยสายการบินเดียวกัน พักโรงแรมเดียวกัน จึงไม่มีเหตุให้น่าสงสัยจะปรักปรำให้จำเลยต้องรับโทษ ส่วนข้อต่อสู้ของจำเลยนั้น ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ อาทิ ไม่มีหนังสือรับรองการเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโทมาสนับสนุน พิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ม.9 ประมวลกฎหมายอาญา ม.282 วรรคแรก เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ฐานเป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไปเพื่อค้าประเวณี จำคุก 2 ปี ปรับ 60,000 บาท