ASTVผู้จัดการรายวัน - ตำรวจ ปคม.ล่อซื้อจับกุมเจ้าของรีสอร์ตในจังหวัดกาฬสินธุ์ ทำตัวเป็นแม่เล้าจัดค้ากามเด็กหญิงนับร้อยคนภายในรีสอร์ต มีเด็กในสังกัดอายุต่ำสุดแค่ 13 ปี ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธ ไม่รู้ว่ามีการค้าประเวณีเกิดขึ้น ด้านผู้ดูแลรีสอร์ต อ้างหญิงสาวทั้งหมดเต็มใจขายบริการเอง ส่วนจำนวนเงินที่ระบุในสมุดบัญชีเป็นยอดเงินที่เด็กสาวขอหยิบยืมไป
วานนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ธวัชชัย ธาระรูป ผกก.3 บก.ปคม.แถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ 3 ราย โดยรายแรกจับกุม นางอารี ฉายถวิล อายุ 56 ปี เจ้าของอารยารีสอร์ท อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และ น.ส.สุปราณี สิงหอน อายุ 29 ปี ลูกจ้าง ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 189 และ 190/2555 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก ตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ทดังกล่าว
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการลักลอบค้าประเวณีหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ภายในรีสอร์ทแห่งนี้เป็นจำนวนนับร้อยคน จึงวางแผนเข้าล่อซื้อเด็กหญิง อายุ 13 ปี และ อายุ 16 ปี เป็นเงินค่าบริการคนละ 1,500 บาท ซึ่งทราบว่าผู้เสียหายทั้งสองจะได้รับเงินคนละ 1,000 บาท และถูกหักเป็นค่าที่พักของทางรีสอร์ต 500 บาท
จากการสอบสวน นางอารี ให้การปฏิเสธว่า เปิดรีสอร์ตนี้มาได้ประมาณปีเศษ โดยให้ น.ส.สุปราณี เป็นผู้ดูแลซึ่งไม่ทราบว่าหญิงสาวที่นั่งอยู่ในรีสอร์ตลักลอบค้าประเวณีกับลูกค้าที่มาใช้บริการ ขณะที่ น.ส.สุปราณี ให้การว่า หญิงสาวทั้งหมดเต็มใจขายบริการทางเพศเอง โดยที่ตนไม่ได้บังคับ ส่วนรายชื่อหมายเลขโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งยอดเงินที่ระบุไว้ในสมุดบัญชีเป็นยอดเงินที่หญิงสาวทั้งหมดขอหยิบยืมเงินจากตนไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากตามแนวทางการสืบสวนพบว่าทางรีสอร์ตจะมีความเข้มงวดกับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยจะมีการคัดกรองลูกค้าอย่างเข้มงวด
วันเดียวกัน พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชูศักดิ์ เคทอง รองผกก.2 บก.ปคม.นำกำลังจับกุม น.ส.บังอร กล้วยไธสง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 3 ต.บ้านคู อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางเงินสด 3,000 บาท ใบเสร็จรับเงินจำนวนหนึ่ง จับกุมได้ที่ ร้าน 999 คาราโอเกะ เลขที่ 89/387 หมู่ 9 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าล่อซื้อบริการทางเพศจาก น.ส.นุ่น (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เป็นเงิน 1,300 บาท ภายในร้านคาราโอเกะดังกล่าว ก่อนจะให้บริการที่ห้องพักสบายสบาย ซึ่งอยู่ใกล้กัน
จากการสอบสวน น.ส.บังอร ให้การว่าเป็นเพียงผู้ดูแลร้านคาราโอเกะแห่งนี้ ส่วนหญิงสาวที่มาทำงานจะคอยให้บริการนั่งดื่มกับลูกค้า ซึ่งคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมงๆ ละ 100 บาท โดยไม่ทราบว่ามีการลอบค้าประเวณี ซึ่งน่าจะเป็นความยินยอมของหญิงสาวที่ตกลงขายบริการให้ลูกค้าเอง ส่วนรายชื่อหญิงสาวและยอดเงินในใบเสร็จนั้นเป็นเงินกู้ที่มีการหยิบยืมจากทางร้านไป
รายสุดท้าย พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปคม.นำกำลังชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม.เข้าจับกุม นายโมช (นามสมมติ) อายุ 17 ปี สัญชาติพม่า พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ หลังจากพาตัว ด.ญ.จิม (นามสมมติ) อายุ 6 ขวบ สัญชาติพม่า ไปเร่ขายดอกไม้ที่ร้านอาหาร ย่านวังหิน ถนนลาดพร้าว ซอย 71 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.ถึงสามวันสองคืน โดยนายโมช จะขับจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ-น้ำเงิน ทะเบียน ฬตน 915 กทม.ไปรับไปส่งและเก็บเงินที่ได้จากการขายดอกไม้ดังกล่าว จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ส่วน ด.ญ.จิม ได้ประสานไปยังศูนย์ประชาบดี เพื่อคุ้มครองและแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป
วานนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ธวัชชัย ธาระรูป ผกก.3 บก.ปคม.แถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ 3 ราย โดยรายแรกจับกุม นางอารี ฉายถวิล อายุ 56 ปี เจ้าของอารยารีสอร์ท อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และ น.ส.สุปราณี สิงหอน อายุ 29 ปี ลูกจ้าง ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 189 และ 190/2555 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็ก ตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ทดังกล่าว
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการลักลอบค้าประเวณีหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ภายในรีสอร์ทแห่งนี้เป็นจำนวนนับร้อยคน จึงวางแผนเข้าล่อซื้อเด็กหญิง อายุ 13 ปี และ อายุ 16 ปี เป็นเงินค่าบริการคนละ 1,500 บาท ซึ่งทราบว่าผู้เสียหายทั้งสองจะได้รับเงินคนละ 1,000 บาท และถูกหักเป็นค่าที่พักของทางรีสอร์ต 500 บาท
จากการสอบสวน นางอารี ให้การปฏิเสธว่า เปิดรีสอร์ตนี้มาได้ประมาณปีเศษ โดยให้ น.ส.สุปราณี เป็นผู้ดูแลซึ่งไม่ทราบว่าหญิงสาวที่นั่งอยู่ในรีสอร์ตลักลอบค้าประเวณีกับลูกค้าที่มาใช้บริการ ขณะที่ น.ส.สุปราณี ให้การว่า หญิงสาวทั้งหมดเต็มใจขายบริการทางเพศเอง โดยที่ตนไม่ได้บังคับ ส่วนรายชื่อหมายเลขโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งยอดเงินที่ระบุไว้ในสมุดบัญชีเป็นยอดเงินที่หญิงสาวทั้งหมดขอหยิบยืมเงินจากตนไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากตามแนวทางการสืบสวนพบว่าทางรีสอร์ตจะมีความเข้มงวดกับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยจะมีการคัดกรองลูกค้าอย่างเข้มงวด
วันเดียวกัน พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชูศักดิ์ เคทอง รองผกก.2 บก.ปคม.นำกำลังจับกุม น.ส.บังอร กล้วยไธสง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 3 ต.บ้านคู อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางเงินสด 3,000 บาท ใบเสร็จรับเงินจำนวนหนึ่ง จับกุมได้ที่ ร้าน 999 คาราโอเกะ เลขที่ 89/387 หมู่ 9 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าล่อซื้อบริการทางเพศจาก น.ส.นุ่น (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เป็นเงิน 1,300 บาท ภายในร้านคาราโอเกะดังกล่าว ก่อนจะให้บริการที่ห้องพักสบายสบาย ซึ่งอยู่ใกล้กัน
จากการสอบสวน น.ส.บังอร ให้การว่าเป็นเพียงผู้ดูแลร้านคาราโอเกะแห่งนี้ ส่วนหญิงสาวที่มาทำงานจะคอยให้บริการนั่งดื่มกับลูกค้า ซึ่งคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมงๆ ละ 100 บาท โดยไม่ทราบว่ามีการลอบค้าประเวณี ซึ่งน่าจะเป็นความยินยอมของหญิงสาวที่ตกลงขายบริการให้ลูกค้าเอง ส่วนรายชื่อหญิงสาวและยอดเงินในใบเสร็จนั้นเป็นเงินกู้ที่มีการหยิบยืมจากทางร้านไป
รายสุดท้าย พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปคม.นำกำลังชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม.เข้าจับกุม นายโมช (นามสมมติ) อายุ 17 ปี สัญชาติพม่า พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ หลังจากพาตัว ด.ญ.จิม (นามสมมติ) อายุ 6 ขวบ สัญชาติพม่า ไปเร่ขายดอกไม้ที่ร้านอาหาร ย่านวังหิน ถนนลาดพร้าว ซอย 71 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.ถึงสามวันสองคืน โดยนายโมช จะขับจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ-น้ำเงิน ทะเบียน ฬตน 915 กทม.ไปรับไปส่งและเก็บเงินที่ได้จากการขายดอกไม้ดังกล่าว จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ส่วน ด.ญ.จิม ได้ประสานไปยังศูนย์ประชาบดี เพื่อคุ้มครองและแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป