ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลสั่งจำคุกอ่วม 42 ปี แม่ใจร้ายบังคับลูกสาววัย 13 ค้ากาม ส่วนลูกค้าหนุ่มใหญ่เมืองผู้ดี โดนคุก 21 ปี ฐานชำเราเด็กหญิง
วานนี้ (28 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.4315/2553 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้องนางติ๋ม วงศ์ศิริ อายุ 50ปี และนายสจวร์ต ฮากรีฟ ลอยด์ (MR.STUART HARGREAVES LLOYD) ชาวอังกฤษ อายุ 45 ปี ร่วมเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานเป็นธุระจัดหาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี เพื่อให้เด็กกระทำการค้าประเวณี เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อสำเร็จความใคร่ของตนเอง และกระทำอันเป็นการทารุณกรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 283 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 4, 6, 52 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 มาตรา 4, 8, 9 พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 4, 26, 78
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างปี 2547-15 ส.ค.2553 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ได้เป็นธุระจัดหา เด็กหญิง อายุยังไม่เกิน 15 ปี และเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของจำเลยที่ 1 ไปค้าประเวณีเพื่อสนองความใคร่กับจำเลยที่ 2 และบุคคลอื่น หลายครั้งหลายหน และระหว่างปี 2551 จนถึงเดือน ส.ค.2553 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดต่อเนื่อง จำเลยที่ 2 ได้กระทำชำเราเด็กหญิงผู้เสียหายทั้ง 3 เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง โรงแรมแถวหัวลำโพง, โรงแรมม่านรูดแถวสุขุมวิท แขวงและเขตใดไม่ปรากฏชัด กรุงเทพมหานคร ตำบล/อำเภอใดไม่ปรากฏชัด จังหวัดชลบุรี เกี่ยวพันกัน จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่สองฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่า โจทก์มีเด็กผู้เสียหายทั้ง 3 เบิกความสอดคล้องทำนองเดียวกันว่า จำเลยที่ 1 บังคับให้ร่วมประเวณีกับจำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 1 สอนให้อมอวัยวะเพศแล้วให้ทำตาม จากนั้นให้จำเลยที่ 2 ร่วมประเวณีกับผู้เสียหายทุกคน ต่างวันต่างเวลากันทั้งที่บ้านพัก ที่โรงแรม โดยเมื่อจำเลยที่ 2 สำเร็จความใคร่แล้วก็จ่ายเงินให้จำเลยที่ 1 ขณะที่จำเลยที่ 1 จะบังคับผู้เสียหายว่า หากไม่ทำตามจะเลิกส่งเสียเรียนหนังสือ ซึ่งผู้เสียหายแม้จะเป็นเด็กแต่จดจำใบหน้า และตำหนิบนร่างกายของจำเลยที่ 2 ได้ อีกทั้งพยานยังให้การต่อหน้านักจิตวิทยา ซึ่งให้การแม่นยำถึงรายละเอียดเวลา สถานที่ บุคคล สิ่งของ วิธีการร่วมประเวณี วิธีการบังคับควบคุม การจ่ายเงิน ประกอบกับรายงานตรวจร่างกายพบร่องรอยเยื่อพรหมจารีฉีกขาด พยานหลักฐานของโจทก์ จึงมีน้ำหนักรับฟังได้มากกว่า ข้อต่อสู้จำเลยที่ 1 อ้างว่านายดำ สามีเก่า บังคับบุตรสาวให้การปรักปรำจำเลยนั้นฟังไม่ขึ้น
พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานเป็นธุระจัดหาเด็กหญิงไปเพื่อค้าประเวณี จำคุก 42 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี จำคุก 21 ปี
วานนี้ (28 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.4315/2553 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้องนางติ๋ม วงศ์ศิริ อายุ 50ปี และนายสจวร์ต ฮากรีฟ ลอยด์ (MR.STUART HARGREAVES LLOYD) ชาวอังกฤษ อายุ 45 ปี ร่วมเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานเป็นธุระจัดหาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี เพื่อให้เด็กกระทำการค้าประเวณี เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อสำเร็จความใคร่ของตนเอง และกระทำอันเป็นการทารุณกรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 283 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 4, 6, 52 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 มาตรา 4, 8, 9 พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 4, 26, 78
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างปี 2547-15 ส.ค.2553 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ได้เป็นธุระจัดหา เด็กหญิง อายุยังไม่เกิน 15 ปี และเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของจำเลยที่ 1 ไปค้าประเวณีเพื่อสนองความใคร่กับจำเลยที่ 2 และบุคคลอื่น หลายครั้งหลายหน และระหว่างปี 2551 จนถึงเดือน ส.ค.2553 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดต่อเนื่อง จำเลยที่ 2 ได้กระทำชำเราเด็กหญิงผู้เสียหายทั้ง 3 เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง โรงแรมแถวหัวลำโพง, โรงแรมม่านรูดแถวสุขุมวิท แขวงและเขตใดไม่ปรากฏชัด กรุงเทพมหานคร ตำบล/อำเภอใดไม่ปรากฏชัด จังหวัดชลบุรี เกี่ยวพันกัน จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่สองฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่า โจทก์มีเด็กผู้เสียหายทั้ง 3 เบิกความสอดคล้องทำนองเดียวกันว่า จำเลยที่ 1 บังคับให้ร่วมประเวณีกับจำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 1 สอนให้อมอวัยวะเพศแล้วให้ทำตาม จากนั้นให้จำเลยที่ 2 ร่วมประเวณีกับผู้เสียหายทุกคน ต่างวันต่างเวลากันทั้งที่บ้านพัก ที่โรงแรม โดยเมื่อจำเลยที่ 2 สำเร็จความใคร่แล้วก็จ่ายเงินให้จำเลยที่ 1 ขณะที่จำเลยที่ 1 จะบังคับผู้เสียหายว่า หากไม่ทำตามจะเลิกส่งเสียเรียนหนังสือ ซึ่งผู้เสียหายแม้จะเป็นเด็กแต่จดจำใบหน้า และตำหนิบนร่างกายของจำเลยที่ 2 ได้ อีกทั้งพยานยังให้การต่อหน้านักจิตวิทยา ซึ่งให้การแม่นยำถึงรายละเอียดเวลา สถานที่ บุคคล สิ่งของ วิธีการร่วมประเวณี วิธีการบังคับควบคุม การจ่ายเงิน ประกอบกับรายงานตรวจร่างกายพบร่องรอยเยื่อพรหมจารีฉีกขาด พยานหลักฐานของโจทก์ จึงมีน้ำหนักรับฟังได้มากกว่า ข้อต่อสู้จำเลยที่ 1 อ้างว่านายดำ สามีเก่า บังคับบุตรสาวให้การปรักปรำจำเลยนั้นฟังไม่ขึ้น
พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานเป็นธุระจัดหาเด็กหญิงไปเพื่อค้าประเวณี จำคุก 42 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี จำคุก 21 ปี
