xs
xsm
sm
md
lg

“ชูวิทย์” รุดให้ข้อมูล “ค้ากาม” สถานทูตสหรัฐฯ-แฉห้วยขวางยังค้าประเวณีโจ๋งครึ่ม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางให้ข้อมูลขบวนการค้าประเวณี ต่อเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ
“ชูวิทย์” หอบแฟ้มข้อมูลงานวิจัยขบวนการค้ากามมอบให้เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ตามที่ได้โทรศัพท์ร้องขอ ระบุข้อมูลทั้งหมดได้รวบรวม สถิติ รูปแบบประเภท พร้อมยกตัวอย่างจากสถิติประเทศไทยมีการค้าประเวณีมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยอเมริกาหวั่นไทยจะกลายเป็นแหล่งค้ามนุษย์ แฉซ้ำในพื้นที่ห้วยขวางยังมีแหล่งค้าประเวณีอยู่

วันนี้ (13 ก.พ.) เวลา 10.00 น.ที่สถานทูตสหรัฐอเมริกา ถนนวิทยุ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เดินทางมาติดต่อเข้าพบเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ เพื่อยื่นเอกสารงานวิจัยที่เป็นหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจการค้าบริการ ขบวนการค้ามนุษย์ และผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง

นายชูวิทย์ กล่าวก่อนเข้าพบเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ว่า การค้าบริการทางเพศมีมากมายไม่ต้องไปหาตามเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีมากมายหลายแห่ง ซึ่งไม่ต้องไปดูที่ไหนไกลแค่พื้นที่ห้วยขวางลองไปดูกันเอง อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ตนได้นำหนังสือ “ธุรกิจนอกระบบ ศึกษากรณีการค้าบริการทางเพศสังคมไทย” พร้อมซีดี ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ดังกล่าว โดยมีข้อมูลที่สำคัญเป็นรายงานการวิจัยของขบวนการค้ามนุษย์ หรือธุรกิจเพศพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ในรายงานวิจัยดังกล่าวตนได้ทำข้อมูลไว้ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสถานทูตสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์มาหาตน เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ตนจึงเดินทางนำมามอบให้ในวันนี้้

“ผมรวบรวมเป็นรายงานการค้าบริการทางเพศทั้งหมดไว้ เช่น สถิติ, รูปแบบประเภท และการยกตัวอย่างต่างๆ โดยจากสถิติประเทศไทยมีการค้าประเวณีมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และทางสหรัฐอเมริกาเกรงว่าประเทศไทยจะกลายเป็นแหล่งค้ามนุษย์ จึงนำข้อมูลที่เก็บไว้ตั้งแต่ปี 2546 ทั้งซีดี ภาพเคลื่อน ภาพนิ่ง ที่คาดว่าเป็นประโยชน์มามอบให้” นายชูวิทย์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีชูวิทย์ ได้ออกมาแถลงข่าวในชื่อ “ทาสกามอารมณ์ ต้อนรับวันวาเลนไทน์” โดยได้เปิดโปงถึงขบวนการค้าประเวณีรายใหญ่ของประเทศ และมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง พร้อมกันนี้ นายชูวิทย์ยังได้นำภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นประเภทของขบวนการค้ามนุษย์ หรือขบวนการค้ากามในรูปแบบใหม่ในพื้นที่ กทม. และตามต่างจังหวัด ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ซึ่งในคลิปวิดีโอที่นายชูวิทย์นำออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ได้ระบุว่า เป็นภาพของอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในย่านสำโรง จ.สมุทรปราการโดยมีสถานบริการให้หญิงสาวค้าประเวณี นอกจากนี้ คลิปวิดีโอดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงการลักลอบขายบริการที่ย่านรามอินทรา และถนนเพชรบุรีด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับ นายชูวิทย์ ถือว่าเป็นผู้ที่เคยทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องที่เขายื่นต่อสถานทูตสหรัฐในวันนี้ โดยอดีตหลัง นายชูวิทย์ จบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกาชูวิทย์หันมาทำธุรกิจของตัวเอง เปิดอาบอบนวดชื่อ วิคทอเรีย ซีเคร็ท และขยายกิจการจนเป็นเจ้าของอาบอบนวด 6 แห่ง ในเครือเดวิสกรุ๊ป และก่อตั้งมูลนิธิต้นตระกูลกมลวิศิษฎ์ ให้การสนับสนุนก่อสร้างป้อมยามที่พักเจ้าหน้าที่ตำรวจตามแยกไฟแดง ต่อมาได้เกิดความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกมาเปิดเผยเรื่องส่วย เป็นเรื่องที่เกรียวกราว จนได้รับฉายาว่า เสี่ยอ่าง หรือ จอมแฉ จนเกิดผลกระทบกับธุรกิจอาบอบนวด ถูกคดีค้าประเวณีเด็กหญิง อายุต่ำกว่า 18 ปี ในสถานอาบอบนวด

นอกจากนั้น นายชูวิทย์ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ภาติฌาน จำกัด, บริษัท ซี.ดี แลนด์ จำกัด, เจ้าของ บริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด, กรรมการบริษัทสุขุมวิท ซิลเวอร์สตาร์ และ ประธานบริษัท เดวิสกรุ๊ป ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด

โดย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ในปี พ.ศ.2553 เขามีชื่อเสียง นายชูวิทย์ เป็นที่รู้จักในกลางปี พ.ศ.2546 เมื่อปรากฏเป็นข่าวว่า ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ขณะมีคดีรื้อบาร์เบียร์ที่ ถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นคดีที่มีคู่ความเป็นตำรวจนครบาล ไม่กี่วันต่อมา นายชูวิทย์ ก็ปรากฏตัวข้างถนนย่านชานเมืองแห่งหนึ่ง ด้วยสภาพอิดโรย มีการนำตัวส่งโรงพยาบาล เมื่อร่างกายเริ่มฟื้นแล้ว ชูวิทย์ ได้แฉว่า ถูกตำรวจกลุ่มหนึ่งอุ้มตัวไป

จากนั้น นายชูวิทย์ ก็ปรากฏเป็นข่าวเป็นระยะ เมื่อเจ้าตัวเริ่มทำการแฉ ถึงพฤติกรรมการทุจริตต่างๆ ของตำรวจ เช่น การรีดไถ่ การรับส่วย เป็นต้น จึงทำให้เป็นจุดสนใจของสังคมในระยะนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น