ตำรวจบางขุนนนท์ บุกช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 13-14 กะเทยแสบ ฉายา “เจเจ้ เมืองนนท์” ล่อลวงไปกักขัง บังคับค้าประเวณี พบอยู่ระหว่างติดต่อกับเอเย่นต์ค้ากามย่านเมืองพัทยา เพื่อทำการขายตัวเด็กทั้ง 4 คน ในราคาหัวละ 30,000-40,000 บาท ประวัติพบ ล่อลวงเด็กหญิงมาเป็นทาสกามให้ลูกค้าหลายรุ่นแล้ว หากใครโชคร้ายจะถูกส่งไปอยู่กับเอเย่นต์ค้ากามรายอื่นๆ เป็นทอดๆ โดยไม่ทราบชะตากรรม
วันนี้ (5 มี.ค.) เวลา 10.00 น.ที่ สน.บางขุนนนท์ นายเทพ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี พาตัว ด.ญ.แอน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกสาว นักเรียนชั้น ม.1 เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อิสระ วิทยาศิริภัค พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.บางขุนนนท์ ให้ดำเนินคดีกับ นายจีระศักดิ์ ช้างดอนไพร อายุ 21 ปี หรือ “เจเจ้ เมืองนนท์” อยู่บ้านเลขที่ 182/67 ม.6 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการค้าประเวณี หลังลูกสาวหายออกจากบ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์ ซอย 33 ไปนานเกือบ 1 เดือน กระทั่งสืบทราบว่าถูกบังคับให้ไปค้าประเวณีดังกล่าว
นายเทพ กล่าวว่า ลูกสาวตน คือ ด.ญ.แอน ได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.55 จึงออกตามหาแล้วไม่พบ จนตัดสินใจแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ ลงวันที่ 23 ก.พ.55 ที่ผ่านมา และออกติดตามหาลูกสาวอีกทั่วทุกแห่ง ทั้งสอบถามจากเพื่อนของลูกสาวจนทราบว่าไปพักอยู่กับกะเทยจัดหาเด็กเพื่อการค้าประเวณีชื่อดังฉายา “เจเจ้ เมืองนนท์” ที่ห้องเช่าเลขที่ 154/4-8 ม.6 ซอยกรุงเทพนนท์ 2 (วัดทางหลวง) ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จากนั้นเวลาประมาณ 04.00 น.วานนี้ (5 มี.ค.) ตนตัดสินใจพาญาติๆ ไปนำตัวลูกสาวกลับ โดยเดินทางไปยังห้องเช่าดังกล่าว ก็พบว่าภายในห้องเช่ามีสภาพนอนกันเบียดเสียดยัดเยียดอยู่รวมกันทั้งลูกสาวตนด้วย ยังมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวอีก 3 คน มีชายวัยรุ่นอีก 2 คน และมีกะเทยอีก 4 คน นอนกระจัดกระจายเกลื่อน ทั้งบนเตียงนอน และบนพื้นราบรวมทั้งสิ้น 10 คน จึงตัดสินใจปลุกทุกคนให้ตื่นและเชิญตัวมาที่ สน.บางขุนนนท์ ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ
จากการสอบสวน ด.ญ.แอน ให้การว่า มีเพื่อนชวนไปอยู่กับ นายจีระศักดิ์ หรือ เจเจ้ ที่ห้องเช่าดังกล่าว ว่า มีที่พักให้อยู่สบาย มีเสื้อผ้าสวยๆ ให้ใส่ และมีอาหารให้กินอิ่มทุกมื้อ แต่พอเดินทางมาถึงกลับถูกนายจีระศักดิ์ ยึดโทรศัพท์มือถือ บังคับให้อยู่แต่ในห้องเช่า พอถึงเวลามีแขกติดต่อเข้ามา ก็จะพาตระเวนไปให้แขกดูตัวตามโรงแรมย่านถนนพระราม 5 จ.นนทบุรี ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนสุขุมวิท หากแขกตกลงซื้อบริการจะเรียกเก็บค่าบริการครั้งละตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท โดยระหว่างที่ตนอยู่กับแขกในห้องนั้น นายจีระศักดิ์ จะสั่งการให้เพื่อนที่เป็นกะเทยด้วยกัน ซึ่งตนไม่ทราบชื่ออีก 2-3 คน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเฝ้าที่หน้าโรงแรม เพื่อรอรับตัวขึ้นแท็กซี่กลับห้อง ป้องกันการหลบหนี ระหว่างที่ตนถูกบังคับให้ค้าประเวณีนั้น ไม่เคยได้รับค่าตัวเลยสักบาทเดียว จะได้เพียงข้าวกิน พาไปทำผม และซื้อเสื้อผ้าแนววาบหวามให้ใส่เท่านั้น
ด้าน ด.ญ.เดือน ด.ญ.ดาว และ ด.ญ.เบียร์ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ให้การว่า ได้ถูกล่อลวงมาค้าประเวณีเช่นกัน และต้องจำใจพักอยู่กับนายจีระศักดิ์ ที่ห้องดังกล่าวมานานกว่า ด.ญ.แอน ซึ่งให้การว่า ก่อนหน้านี้ เคยเรียนหนังสือชั้น ม.ต้น ที่โรงเรียนชื่อดังย่านสามเสน และบางซื่อ กระทั่งถูกหลอกมาเข้าทำงานในสังกัดของนายจีระศักดิ์ ตลอดเวลาที่อยู่กับ นายจีระศักดิ์ เหมือนถูกกักขัง เพราะไม่เคยได้รับอนุญาตให้ออกไปไหน และไม่เคยได้ใช้โทรศัพท์ เพราะนายจีระศักดิ์ คงกลัวว่า พวกตนจะติดต่อทางญาติให้มารับตัว ที่ผ่านมา เวลามีแขกต้องการซื้อบริการจะโทร.ติดต่อมายัง นายจีระศักดิ์ ว่า ต้องการเด็กสเปกแบบไหน จากนั้นก็จะนัดไปพบกันที่โรงแรมชื่อดังหลายแห่ง เช่น โรงแรมอมรอิน ย่านแจ้งวัฒนะ โรงแรมฟอร์ยู โรงแรมภิรมย์โฮเต็ล และ โรงแรมเดอะริชบอส ย่านพระรามที่ 5 และแขกบางคนเป็นพวกจิตวิตถารเวลาร่วมเพศจะต้องถ่ายคลิปวิดีโอไว้ดูด้วย เพราะ นายจีระศักดิ์ เป็นคนบอกกับแขกว่า จะทำอะไรก็ได้ และถ้าหากไม่ยินยอมหรือปฏิเสธไม่ให้ถ่าย ทางแขกจะโทรศัพท์ไปรายงานให้นายจีระศักดิ์ ทราบ เมื่อเดินทางกลับมาถึงห้องจะถูกทำร้ายตบตีอย่างทารุณ เพื่อสั่งสอนให้หลาบจำ
ทั้งนี้ เหยื่อทั้ง 3 รายยังให้การอีกว่า ที่ผ่านมา มีแขกมากหน้าหลายตา แม้แต่ข้าราชการตำรวจย่าน จ.นนทบุรี จะติดต่อ นายจีระศักดิ์ เข้ามาใช้บริการหลับนอนกับพวกตนมากมายหลายคน ที่มั่นใจว่าเป็นตำรวจ ก็เพราะแต่ละคนก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ล้วนถอดอาวุธปืน วิทยุสื่อสาร และกุญแจมือวางไว้บนหัวนอน บางคนยังเคยบอกตนว่าเป็นตำรวจ แถมยังมียาไอซ์มาให้เสพเพื่อสร้างอารมณ์ก่อนมีเพศสัมพันธ์กันด้วย แต่พวกตนไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากตำรวจพวกนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะไปรายงาน นายจีระศักดิ์ แล้วจะโดนลงมือทุบตีพวกตนอีก แต่โชคดีที่พ่อของ ด.ญ.แอน เหยื่อรายล่าสุดที่ถูกล่อลวงมาทำงาน ลงมือติดตามหาจนทราบว่าลูกสาวมาพักอยู่ที่ห้องเช่าแห่งนี้ จึงได้พาญาติๆ บุกเข้าช่วยเหลือพวกตนออกมาได้ในที่สุด
ทางด้าน นายจีระศักดิ์ กล่าวกับสื่อมวลชนทั้งน้ำตา ว่า ปัจจุบันตนมีอาชีพช่วยแม่ขายขนมจีน และกวยจั๊บ ตามงานวัด ผลัดเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อย ส่วนเด็กๆ พวกนี้หนีออกมาจากบ้านกันเอง ได้มาอยู่ที่ห้องเช่ากับตนเองไม่ได้มีการล่อลวงแต่อย่างใด ส่วนเรื่องค้าประเวณีเด็กพวกนี้ต่างเคยทำกันมาก่อน โดยระหว่างที่พักกับตนนั้น มักจะแอบใช้เบอร์ที่ห้องเช่าโทร.ไปนัดลูกค้า และนำเงินกลับมาแบ่งตนเสมอ ครั้งละ 500 บาท ส่วนสาเหตุที่ต้องไปค้าประเวณี เพราะต่างเคยบอกว่า ต้องการมีเสื้อผ้าสวยๆ แพงๆ สวมใส่ และมีของใช้ดีๆ โดยตนไม่ได้บังคับขู่เข็ญให้ไปทำแต่อย่างใด ซึ่งตนต้องการจะแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเด็กที่พาพวกบุกไปที่ห้องเช่า แล้วเอาปืนจ่อหัว และชกต่อยที่ใบหน้า เพื่อบังคับให้เดินทางมาโรงพักอีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.เชวงศักดิ์ สินสูงสุด ผกก.สน.บางขุนนนท์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง พบว่า ผู้ชาย 2 คน และกะเทยอีก 3 คนนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จึงปล่อยตัวกลับไปแล้ว ส่วน นายจีระศักดิ์ ได้ทำการควบคุมตัวไว้เพื่อตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์เอาไว้ก่อน จากนั้นจะส่งตัวเด็กหญิงเหยื่อทั้ง 4 ราย ไปตรวจร่างกายหาร่องรอยการถูกข่มขืน และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด โดยวันที่ 6 มี.ค.55 เวลา 09.30 น.จะนัดเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและผู้ปกครองของเด็กมาสอบปากคำร่วมกันอีกครั้ง จากนั้นจะนำคำให้การและผลตรวจร่างกายพิจารณาเพื่อแจ้งข้อหาดำเนินการกับ นายจีระศักดิ์ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัว ด.ญ.ทั้ง 4 ราย อายุ 13-14 ปี เหยื่อกามโฉดที่ถูก นายจีระศักดิ์ ช้างดอนไพร อายุ 21 ปี ตุ๊ดแสบล่อลวงไปขังไว้ในห้องเช่าเลขที่ 154/4-8 ม.6 ซอยกรุงเทพนนท์ 2 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อรอนำไปค้าประเวณีให้กับลูกค้ากลัดมันทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปชี้จุดเกิดเหตุบริเวณห้องเช่าที่ใช้คุมขังเพื่อถ่ายภาพประกอบสำนวนคดี
อย่างไรก็ตาม ได้มีเด็กบางคนให้การเพิ่มเติมว่า นายจีระศักดิ์ อยู่ระหว่างติดต่อกับเอเย่นต์ค้ากามย่านเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อทำการขายตัวเด็กทั้ง 4 คน ในราคาหัวละ 30,000-40,000 บาท หากไม่ได้รับการช่วยเหลือภายใน 1-2 วันนี้ อาจจะไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่อีก โดยที่ผ่านมา นายจีระศักดิ์ ล่อลวงเด็กหญิงมาเป็นทาสกามให้ลูกค้าหลายรุ่นแล้ว หากใครโชคร้ายจะถูกส่งไปอยู่กับเอเย่นต์ค้ากามรายอื่นๆ เป็นทอดๆ โดยไม่ทราบชะตากรรมว่าจะถูกทารุณอย่างไรบ้าง