ความเคลื่อนไหวของกระทรวงยุติธรรม ยุคที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นแม่ทัพใหญ่ มีหลายคนแซวว่า คล้ายกระทรวงยุติธรรมถูกแช่แข็ง-ความเป็นธรรมถูกปิดกั้น เนื่องจากหลายครั้งหลายคราที่ ชาวบ้านเดือดร้อนมาจากทางจังหวัด เดินทางมาจะขอเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม แต่ก็ไม่สามารถเข้าพบท่านรัฐมนตรีได้ เพราะมีหัวหน้าสำนักรัฐมนตรีคอยเจ้ากี้เจ้าการ พาลไม่ให้ชาวบ้านเข้าพบ ข่าวคราวเกี่ยวกับรัฐมนตรีในยุคนี้จึงเงียบฉี่ เนื่องจากชาวบ้านเข้าถึงได้ยาก อีกทั้งยังไม่ค่อยให้สัมภาษณ์นักข่าว เอาเป็นว่ารอบ้านเลขที่ 111 กลับมาเป็นใหญ่ เห็นทีกระทรวงตราชั่งคงต้องปรับเปลี่ยนอีกรอบ @
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ก็เก้าอี้ร้อนมีข่าวคราวจะโยกย้ายตำแหน่งอยู่ตลอด ไม่เว้นแต่ละวัน จะลุกก็ไม่ลุก จะนั่งก็ไม่นิ่ง ล่าสุดมีข่าวสะพัดอีก จะโยก พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อดีตลูกหม้อดีเอสไอ จะมานั่งแท่นดูแลดีเอสไอแทน ขณะที่นายธาริต อาจโยกสลับนั่งกรมคุมประพฤติ ขณะที่อีกด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาการันตี เก้าอี้ “ธาริต”ยังแข็งแกร่งเสริมใยเหล็ก ข่าวไหนจริงข่าวไหนหลอก อีกไม่นานคงจะรู้ เอาเป็นว่าย้ายหนะ ย้ายแน่ แต่รัฐบาลคงต้องรอจังหวะเวลา อีกทั้ง “ท่านธาริต” ก็นั่งในตำแหน่งนี้มานานเกือบจะ 2 ปีแล้ว อาจถึงเวลาหมุนเวียนบ้างตามโอกาส@
ขณะที่ทิศทางการทำงานของดีเอสไอ ตอนนี้ก็เหมือนจะกลับลำ 180 องศา ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด งานนี้“คดีล้มเจ้า” ก็จะเป็นมวยล้มต้มคนดู ผู้ถูกกล่าวหาจะพ้นผิด เนื่องจาก พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข หัวหน้าพนักงานสอบสวน คดี การกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐ “คดีล้มเจ้า” ระบุว่า หากไม่มีพยานบุคคลมาให้รายละเอียดถึงผู้จัดทำแผนผังล้มเจ้า หรือ ไม่สามารถชี้ชัดถึงการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหา จะถือว่าข้อกล่าวหายังไม่สมบูรณ์ ในฐานะพนักงานสอบสวน สามารถใช้ดุลพินิจสรุปความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ส่งให้อัยการได้ หากอัยการเห็นพ้อง “คดีล้มเจ้า”ก็ยุติ เอาเป็นว่า โปรดเข้าใจ ยุคนี้ เป็นยุคเพื่อใคร !!??@
มีเสียงสะท้อนถึงพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อจะไปทำหน้าที่สอบสวนคนอื่น ก็จำเป็นต้องตรวจสอบตัวเองด้วยว่ามีคุณธรรม จริยธรรมเพียงพอที่จะไปสอบสวนคลี่คลายคดีไหม เนื่องจากมีเสียงเล่าลือกันหนาหู ว่าจริยธรรมของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเหลือน้อยลง ทั้งที่รัฐต้องจ่ายค่าจ้างแพงกว่าข้าราชการทั่วไป 2-3 เท่า นอกจากเงินเดือนแล้ว ก็มีเงินพิเศษ 10,000 บวกเงินประจำตำแหน่งระดับชำนาญการรับ 25,000 บาท ชำนาญการพิเศษรับ 35,000 บาท เดี่ยวนี้ ซี 6 ซี 7 สิ้นเดือนรอรับเงินเฉียดแสน เรียกว่าบางคนหายใจทิ้งยังเหนื่อย ดังนั้นเป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ควรต้องมีความดี (จริยธรรม + คุณธรรม) เป็นพิเศษหน่อย จะได้คุ้มค่ากับเงินเดือน ที่มาจากภาษีประชาชนทั้งนั้น!! @
บ่ายวันพฤหัสนี้ (8 มี.ค.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องบอลรูม ชั้น 1โรงแรมทีเค พาเลช ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านบริหารความยุติธรรม และทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพฯ จะเป็นตัวแทนมอบเงินค่าทดแทนผู้เสียหาย ตามพ.ร.บ. ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่ จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2554 ให้กับผู้เสียหาย จำนวน 5 ราย ๆ ละ 1 แสนบาท รวมเป็นเงิน 5 แสนบาท ยินดีกับผู้เสียหายในคดีอาญา ที่อย่างน้อยก็มีกรมคุ้มครองสิทธิทำหน้าเยียวยาช่วยชดเชยความเสียหาย แม้จะไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ถือว่าเป็นความพยายามที่จะดูแลสังคมให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น @
ถัดจากนั้นวันที่ 10 มี.ค. นายพิทยา จินาวัฒน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะเปิดสัมมนา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในหัวข้อ “การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพผู้เสียหาย ในคดีอาญาอย่างมีประสิทธิภาพ”นอกจากนี้ยังมีอภิปรายประเด็น “การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรฐานสากลภายใต้ ภารกิจของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ” โดยมีผู้บริหารของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และที่ปรึกษาด้านกฎหมายประจำคลินิกยุติธรรมในส่วนกลางและที่เกี่ยวข้องจำนวน 60 คน เข้าร่วมสัมมนา@
ในที่สุดเสื้อแดงก็ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลเพื่อไทย โดย นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าว ค.ร.ม.อนุมัติเงิน 2,000 ล้านบาท ให้กระทรวงมหาดไทยใช้เยียวยาเสี้อแดง ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) สาธุ!
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ก็เก้าอี้ร้อนมีข่าวคราวจะโยกย้ายตำแหน่งอยู่ตลอด ไม่เว้นแต่ละวัน จะลุกก็ไม่ลุก จะนั่งก็ไม่นิ่ง ล่าสุดมีข่าวสะพัดอีก จะโยก พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อดีตลูกหม้อดีเอสไอ จะมานั่งแท่นดูแลดีเอสไอแทน ขณะที่นายธาริต อาจโยกสลับนั่งกรมคุมประพฤติ ขณะที่อีกด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาการันตี เก้าอี้ “ธาริต”ยังแข็งแกร่งเสริมใยเหล็ก ข่าวไหนจริงข่าวไหนหลอก อีกไม่นานคงจะรู้ เอาเป็นว่าย้ายหนะ ย้ายแน่ แต่รัฐบาลคงต้องรอจังหวะเวลา อีกทั้ง “ท่านธาริต” ก็นั่งในตำแหน่งนี้มานานเกือบจะ 2 ปีแล้ว อาจถึงเวลาหมุนเวียนบ้างตามโอกาส@
ขณะที่ทิศทางการทำงานของดีเอสไอ ตอนนี้ก็เหมือนจะกลับลำ 180 องศา ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด งานนี้“คดีล้มเจ้า” ก็จะเป็นมวยล้มต้มคนดู ผู้ถูกกล่าวหาจะพ้นผิด เนื่องจาก พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข หัวหน้าพนักงานสอบสวน คดี การกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐ “คดีล้มเจ้า” ระบุว่า หากไม่มีพยานบุคคลมาให้รายละเอียดถึงผู้จัดทำแผนผังล้มเจ้า หรือ ไม่สามารถชี้ชัดถึงการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหา จะถือว่าข้อกล่าวหายังไม่สมบูรณ์ ในฐานะพนักงานสอบสวน สามารถใช้ดุลพินิจสรุปความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ส่งให้อัยการได้ หากอัยการเห็นพ้อง “คดีล้มเจ้า”ก็ยุติ เอาเป็นว่า โปรดเข้าใจ ยุคนี้ เป็นยุคเพื่อใคร !!??@
มีเสียงสะท้อนถึงพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อจะไปทำหน้าที่สอบสวนคนอื่น ก็จำเป็นต้องตรวจสอบตัวเองด้วยว่ามีคุณธรรม จริยธรรมเพียงพอที่จะไปสอบสวนคลี่คลายคดีไหม เนื่องจากมีเสียงเล่าลือกันหนาหู ว่าจริยธรรมของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเหลือน้อยลง ทั้งที่รัฐต้องจ่ายค่าจ้างแพงกว่าข้าราชการทั่วไป 2-3 เท่า นอกจากเงินเดือนแล้ว ก็มีเงินพิเศษ 10,000 บวกเงินประจำตำแหน่งระดับชำนาญการรับ 25,000 บาท ชำนาญการพิเศษรับ 35,000 บาท เดี่ยวนี้ ซี 6 ซี 7 สิ้นเดือนรอรับเงินเฉียดแสน เรียกว่าบางคนหายใจทิ้งยังเหนื่อย ดังนั้นเป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ควรต้องมีความดี (จริยธรรม + คุณธรรม) เป็นพิเศษหน่อย จะได้คุ้มค่ากับเงินเดือน ที่มาจากภาษีประชาชนทั้งนั้น!! @
บ่ายวันพฤหัสนี้ (8 มี.ค.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องบอลรูม ชั้น 1โรงแรมทีเค พาเลช ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านบริหารความยุติธรรม และทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพฯ จะเป็นตัวแทนมอบเงินค่าทดแทนผู้เสียหาย ตามพ.ร.บ. ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่ จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2554 ให้กับผู้เสียหาย จำนวน 5 ราย ๆ ละ 1 แสนบาท รวมเป็นเงิน 5 แสนบาท ยินดีกับผู้เสียหายในคดีอาญา ที่อย่างน้อยก็มีกรมคุ้มครองสิทธิทำหน้าเยียวยาช่วยชดเชยความเสียหาย แม้จะไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็ถือว่าเป็นความพยายามที่จะดูแลสังคมให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น @
ถัดจากนั้นวันที่ 10 มี.ค. นายพิทยา จินาวัฒน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะเปิดสัมมนา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในหัวข้อ “การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพผู้เสียหาย ในคดีอาญาอย่างมีประสิทธิภาพ”นอกจากนี้ยังมีอภิปรายประเด็น “การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรฐานสากลภายใต้ ภารกิจของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ” โดยมีผู้บริหารของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และที่ปรึกษาด้านกฎหมายประจำคลินิกยุติธรรมในส่วนกลางและที่เกี่ยวข้องจำนวน 60 คน เข้าร่วมสัมมนา@
ในที่สุดเสื้อแดงก็ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลเพื่อไทย โดย นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าว ค.ร.ม.อนุมัติเงิน 2,000 ล้านบาท ให้กระทรวงมหาดไทยใช้เยียวยาเสี้อแดง ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) สาธุ!