บีบ “ครูพิษณุโลก” ขอโทษหน้าเสาธง-ลง นสพ.ยัดข้อหาภัยความมั่นคง-สำรอก “ทุเรศ” ใส่

พิษณุโลก - แดงพิษณุโลก ถอดเสื้อแดงใส่หลายสีสันบุกยื่นจดหมายเปิดผนึก ผอ.โรงเรียนพุทธฯ บีบให้สั่งครูคนออกข้อสอบเทียบชีวิตแดงเผาเมือง-ทหารปกป้องประเทศ “ขอโทษหน้าเสาธง-ลงโฆษณา นสพ.ท้องถิ่น-ย้ายพ้นพื้นที่” ยัดข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ - เป็นปฏิปักษ์ต่อระบบ ปชต.-ผิดวินัย ฯลฯ แถมสำรอก “ทุเรศ” ใส่พ่อพิมพ์-แม่พิมพ์ ไม่หนำใจ บุก สพม.39 ต่อ

รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า เมื่อเวลา 10.45 น.วันนี้ (23 ก.พ.) กลุ่มเสื้อแดงพิษณุโลก จำนวน 14 คน แต่สวมเสื้อหลากหลายสีสัน แต่บางคนก็สวมเสื้อสัญลักษณ์ Truth Today ได้รวบรวมกำลังพล นำโดย พ.อ.สมชาย ลอยพูน (นายทหารนอกราชการ) นายศิริศักดิ์ หลากาวิน นางสุนันทา มีมาก (เจ๊ตั๊ก) ฯลฯ ออกจากวัดนางพญา จ.พิษณุโลก มุ่งหน้าไปที่โรงเรียนพุทธชินราช จ.พิษณุโลก เข้าพูดคุยกับนายเดชา สมบูรณ์พงษ์กิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนพุทธชินราชพิทยา จ.พิษณุโลก พร้อมยื่นจดหมายเปิดผนึก 1 ฉบับที่มี นายสฤษดิ์ กรีฑา ลงนาม เพื่อเป็นการประท้วงกรณีที่ครูในโรงเรียนใช้ข้อความเปรียบเทียบเรื่องการจ่ายเงินชดเชยเสื้อแดงเผาเมืองกับชีวิตทหาร-ซิมซิมิกับเว็บหมิ่นเบื้องสูง รวมถึงบทกลอนการเสียกรุงครั้งที่สาม มาเป็นโจทย์ออกข้อสอบให้นักเรียน ม.4 ตอบเพื่อเก็บคะแนน

แต่ก่อนที่เสื้อแดงกลุ่มนี้ จะยื่นจดหมายเปิดผนึก ก็ได้ให้ตัวแทนอ่านเนื้อหา ต่อหน้า นายเดชา และคณะครูของโรงเรียนที่มาร่วมสังเกตการณ์อยู่ด้านหลังผู้อำนวยการโรงเรียนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาโดยสรุปในจดหมายดังกล่าว ระบุว่า ครู...(ขอสงวนชื่อ นามสกุล) ครูโรงเรียนพุทธชินราชพิทยา มีพฤติกรรมการสอนที่ส่อไปในทางเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประพฤติผิดวินัยข้าราชการและผิดจรรยาบรรณครู พ.ศ.2539 อย่างร้ายแรง

จดหมายเปิดผนึกคนเสื้อแดง ยังบอกอีกว่า ครูดังกล่าวสอนชี้นำให้เกิดการแตกแยก อาฆาตพยาบาท เกลียดชังในหมู่เยาวชนไทยและประชาชนทั่วไป เพราะกำหนดให้นักเรียนอ่านในหัวข้อ “เผาจนได้ดี” แสดงให้เห็นว่า คนทำชั่วแล้วได้ดี ซึ่งผิดจากความเป็นจริง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า ใครเป็นคนเผา สอนนักเรียนผิดๆ ให้ความสำคัญกับวัตถุกว่าชีวิตคน ส่วนคนที่ตายในเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่พูดถึงเลย

คนเสื้อแดงยังเขียนในจดหมายด้วยว่า ครูควรสอนให้นักเรียนเห็นคุณค่าของชีวิตมนุษย์มากกว่าวัตถุ เพราะวัตถุสร้างใหม่ให้ดีกว่าเดิมแค่ไหนก็ได้ แต่ชีวิตคนตายไม่สามารถทำให้ฟื้นได้ “จิตใจ ครูคนนี้ทำด้วยอะไร”

จดหมายยังระบุต่ออีกว่า อีกบทความหนึ่งชื่อว่า “2554 ไทยเสียกรุงครั้งที่สาม” เป็นการใส่ร้ายป้ายสี ปลุกปั่น ยั่วยุ ให้เกิดความแตกแยก เกลียดชังต่อบุคคลไม่ยึดมั่น การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งปัจจุบันไม่มีการเสียกรุงครั้งที่สาม

ส่วนอีกบทความหนึ่งที่เป็นแบบทดสอบการเขียนว่า นักเรียนเห็นด้วยกับการเยียวยาหรือไม่นั้น คนเสื้อแดงกลุ่มนี้ ระบุในจดหมายเปิดผนึก ว่า ชี้ให้เห็นว่าครูคนนี้มีอคติต่อมติของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่พิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว

พวกเขาเห็นว่า ครูต้องการชี้ให้นักเรียนเห็นถึงความไม่ยุติธรรมในสังคมไทย โดยเปรียบเทียบผู้ก่อการร้ายเสื้อแดงเผาเมืองกับเจ้าหน้าที่ทหารปกป้องชาติ ได้รับค่าทดแทนช่วยเหลือเยียวยาต่างกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตนั้น มีกระบวนการของทางราชการให้การช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่คนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทางการเมือง เกิดจากฝีมือของรัฐบาลในขณะนั้น แตกต่างกัน นำมาเปรียบเทียบไม่ได้

จดหมายเปิดผนึกของคนเสื้อแดงฉบับนี้ ยังระบุด้วยว่า ครูคนนี้ไม่สมควรจะเป็นครูต่อไป เพราะผิดวินัยราชการอย่างร้ายแรง ไม่เป็นกลางทางการเมือง ไม่ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ผิดจรรยาบรรณครู เป็นต้น

และนอกจากนี้ พวกเขายังเรียกร้องให้ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดตั้งคณะกรรมการสอบสวนการสอนของครู...คนนี้ และให้ดำเนินการดังนี้ คือ

1.ให้ครู คนดังกล่าว ขอโทษในการกระทำครั้งนี้หน้าเสาธง
2.ทำหนังสือชี้แจงผู้ปกครองให้เข้าใจสิ่งกระทำลงไป
3.ให้ลงข้อความขอโทษทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
4.ให้ย้ายครู คนดังกล่าว ออกนอกพื้นที่

ทั้งนี้ ระหว่างที่พวกเขาอ่านจดหมายเปิดผนึก ซึ่งใช้เวลาร่วม 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะยื่นหนังสือให้ ผอ.โรงเรียนพุทธชินราชพิทยา ทำให้กลุ่มครูที่ยืนอยู่หลังผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้ถามกลุ่มเสื้อแดงว่า ทำไมต้องมาวันนี้ (23 ก.พ.) เพราะเป็นวันปัจฉิมนิเทศเด็ก ม.6 ทำให้กลุ่มเสื้อแดงคนหนึ่ง แดสงอาการไม่พอใจ ด่าสวนออกไปทันทีว่า “ทุเรศ” ทำให้กลุ่มเพื่อนครู ต้องดึงครูคนที่เอ่ยปากถามกลุ่มคนเสื้อแดง ออกนอกห้องทันควัน เพราะเกรงว่าจะมีเหตุการณ์ลุกลามซ้ำขึ้นมาอีก

ด้าน นายเดชา สมบูรณ์พงษ์กิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนพุทธชินราชพิทยา ที่รับจดหมายเปิดผนึกคนเสื้อแดง กล่าวว่า ผมได้เชิญครูผู้สอนมาชี้แจงและตักเตือนไปเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า เขาไม่มีเจตนา เพียงทำให้เด็กรู้วิเคราะห์ แยกแยะ กำลังรอบันทึกอยู่ เวลานี้ครูคนนี้เขาก็เครียด และลาพักมาโดยตลอด

จากนั้นเวลา 11.45 น.ของวันเดียวกัน กลุ่มเสื้อแดงพิษณุโลก ได้เดินทางต่อไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ 39 เพื่อยื่นสำเนาจดหมายเปิดผนึกเนื้อหาเดียวกัน ให้กับ ผอ.สพม.39 แต่ ดร.สมเกียรติ บุญรอด แต่ผู้อำนวยการ สพม.39 ติดราชการกรุงเทพฯ จึงได้ยื่นกับ นายแดง วรวุฒิพงษ์ รองผู้อำนวยการ สพม.39 ที่ออกมารับเรื่องเอาไว้ดำเนินการตามขั้นตอน พร้อมกับบอกว่า จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน จากนั้นกลุ่มเสื้อแดงได้เดินทางกลับ