xs
xsm
sm
md
lg

แดงสองแควรวมตัวกดดันครู-ออกข้อสอบเผาเมืองได้7.7ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิษณุโลก - ผอ.พื้นที่การศึกษาเขต 39 จี้ ผอ.โรงเรียนมัธยมต้นสังกัดครูหยิบเหตุเงินชดเชยแดงเผาเมือง 7.75 ล้าน เป็นข้อสอบแจง 3 ประเด็น แถมบี้“ทำไมข้อสอบหลุด”ยันถึงวันนี้ยังไม่มีหนังสือคำสั่ง รมว.ศธ.ให้สอบจนถึงที่สุด ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงเมืองสองแคว นัดรวมตัวยื่นหนังสือกดดันแม่พิมพ์ของชาติ 2 แห่ง ด้านรองเลขาฯ กพฐ.ชี้หากครูภาษาไทยออกข้อสอบยึดตามหลักวิชาการถือว่าไม่มีความผิด เว้นแต่กระทำเพราะต้องการชี้นำเด็ก

วานนี้ (22 ก.พ.) ดร.สมเกียรติ บุญรอด ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 39 (สพม.39) เปิดเผยกรณีครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก นำข้อความเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง โดยเฉพาะจากเหตุการณ์เผาเมือง เมื่อปี 2553 จะได้รับเงินชดเชย 7.75 ล้านบาท ทหารที่เสียสละชีวิตปกป้องประเทศชาติ ได้รับเงินชดเชย 5 แสนบาท รวมถึงบทกลอน “พี่คนดี” ที่ระบุถึงซิมซิมิ และการเสียกรุงครั้งที่ 3 ของไทย มาเป็นโจทย์คำถามให้เด็กนักเรียน ม.4 ทำเพื่อเก็บคะแนนว่า ตนเองก็อยากรู้ว่าทำไมครูถึงนำเอาเรื่องดังกล่าวมาเป็นข้อสอบ เพราะเป็นเรื่องที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความขัดแย้ง

“เรื่องนี้จะต้องมีรายงานและข้อมูลประกอบมาให้พิจารณา” ดร.สมเกียรติ กล่าว และบอกว่า ตนได้สั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวชี้แจงเข้ามาใน 3 ประเด็น คือ 1.หามูลเหตุจูงใจของครูผู้ออกข้อสอบ 2.เด็กมีความคิดเห็นอย่างไรในคำตอบ 3.ข้อสอบเชิงวิชาการ ทำไมโจทย์คำถามหลุดจากโรงเรียนไปได้อย่างไร จนทำให้มีการนำเอกสารข้อสอบดังกล่าวไปถ่ายเอกสารแจกจ่ายกันตามชุมชนหลายแห่งใน จ.พิษณุโลก จนทำให้คนบางกลุ่มไม่พอใจขึ้นมา

เมื่อถามว่า ผอ.สพม.39 เห็นคำตอบของเด็กนักเรียนที่เขียนคำถามหรือไม่ ดร.สมเกียรติ กล่าวว่า กำลังรอคำตอบอยู่เหมือนกัน เขาก็ยังไม่เห็น ทราบเพียงว่า ครูผู้ออกข้อสอบไปคัดลอกมาจากอินเตอร์เน็ต

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งให้สอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นจนถึงที่สุดนั้น ดร.สมเกียรติ บอกเพียงว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างไรก็ตามทราบว่า เรื่องข้อสอบนี้ ย่อมทำให้อีกกลุ่มไม่พอใจ และทราบว่ามีกลุ่มมวลชนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวด้วย ตนก็กำลังประสานทำความเข้าใจกันอยู่ ไม่อยากให้มีเรื่อง มีราวเพราะเป็นคนพิษณุโลกด้วยกัน

“มีข่าวเหมือนกันว่า คนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวยื่นหนังสือไปยังโรงเรียนมัธยมดังกล่าว ผมกำลังติดตามอยู่ หากเป็นเรื่องจริง ผู้อำนวยการโรงเรียนจะประสานมาที่ผม ที่จริงแล้วผมอยากให้ประนีประนอมกันจะดีกว่า" ผอ.สมเกียรติ กล่าว

ด้านนายเดชา สมบูรณ์พงษ์กิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนพุทธชินราชพิทยา จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า วันนี้(22 ก.พ.) มีการประชุมประจำเดือนที่โรงเรียนและแจ้งกับกลุ่มครูที่โรงเรียนถึงสถานการณ์ ข้อสอบเก็บคะแนนเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยระหว่างเสื้อแดงกับทหารนั้นมีผลกระทบต่อโรงเรียน แม้บุคลากรของโรงเรียนไม่มีจุดประสงค์เป็นอย่างอื่นนอกจากต้องการให้เด็กนักเรียนมัธยมปีที่ 4 รู้จักวิเคราะห์ กระทั่งทราบว่าวันนี้ (23 ก.พ.) กลุ่มเสื้อแดงจะเดินทางไปมอบหนังสือที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 39 (สพม.39) ในช่วงเวลา 09-10.00 น.แน่นอน

"ส่วนโรงเรียนพุทธชินราชพิทยานั้นไม่แน่ชัด แต่ก็ทราบว่ากลุ่มเสื้อแดงจะมายื่นหนังสือ แต่ทางโรงเรียนก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก เมื่อเสื้อแดงมายื่นหนังสือก็รับหนังสือ"

ผู้สื่อข่าวรายงายว่า ในวันนี้ (23 ก.พ.) กลุ่มเสื้อแดงได้นัดรวมตัวกันที่วัดนางพญา ข้างวัดใหญ่ โดยจัดกำลังกลุ่มเสื้อแดงไปยื่นหนังสือ 2 แห่งคือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 39 (สพม.39) บริเวณทางเข้าโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก และโรงเรียนพุทธชินราชพิทยา ถนนธรรมบูชา อ.เมือง จ.พิษณุโลกตามเวลาดังกล่าว

ทางด้านนายอนันต์ ระงับทุกข์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว แต่กรณีดังกล่าวนี้สามารถดำเนินการได้ในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) อาจจะตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สืบย้อนหลังถึงภูมิหลังของครูว่ามีทัศนคติ หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างไร และมีผลต่อการนำใช้ในการเรียนการสอนหรือไม่ ซึ่งหากเจตนาของครูเพียงเพื่อต้องการนำสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในสังคมมาให้เด็กฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์ โดยไม่ได้ชี้นำว่าสิ่งที่เด็กคิดวิเคราะห์มานั้นถูกหรือผิด ก็ไม่ถือเป็นความผิดเพราะตามหลักแล้ว สพฐ.ก็มุ่งส่งเสริมให้สถานศึกษาฝึกฝนและพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ให้เด็กมากขึ้น เพื่อให้รู้จักการใช้เหตุและผล

“ถ้าครูกระทำด้วยเจตนาต้องการชี้นำเด็กแบบนี้ ก็เข้าข่ายจะมีความผิดแต่โทษไม่ได้ร้ายแรง อาจจะเพียงแค่ภาคทัณฑ์หรือว่ากล่าวตักเตือนเพื่อไม่ให้กระทำแบบนี้ต่อไป แต่หากทำตามหลักวิชาการตามหลักสูตรก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด และผมมองว่าการที่ครูจะสอนเพื่อให้เด็กได้คิดรู้จักคิดวิเคราะห์ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง” นายอนันต์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น