xs
xsm
sm
md
lg

สองพี่น้องฝาแฝดผู้ตะบันหน้า “วรเจตน์” มอบตัว! อ้างเห็นต่างทางความคิด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สองพี่น้องฝาแฝด
สองพี่น้องฝาแฝดที่ชกหน้า “วรเจตน์ นิติเรด” เข้ามอบตัว อ้างที่ทำลงไป เพราะไม่พอใจและเห็นต่างทางความคิด ไม่ชอบความวุ่นวายในสังคม ยันไม่ได้สังกัดกลุ่มใด ขณะที่พบประวัติคู่แฝดคนน้อง “สุพัฒน์” เคยถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะเป็นคนใจร้อน ถ้าไม่พอใจชอบแสดงออกด้วยการชกต่อย



วันนี้ (1 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ สน.ชนะสงคราม นายสุพจน์ และนายสุพัฒน์ ศิลารัตน์ อายุ 30 ปี พี่น้องฝาแฝด ผู้ที่ก่อเหตุชกหน้านายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในแกนนำคณะนิติราษฎร์ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.จักรภพ สุคณธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม

ทั้งนี้ ทันทีที่เดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบนำตัวนายสุพจน์ และนายสุพัฒน์ เข้าห้องสอบสวนเพื่อสอบปากคำทันที จากนั้นใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 30 นาที โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวทั้งคู่ไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อให้ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น.สอบปากคำอีกครั้งต่อไป

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. แถลงการเข้ามอบตัวของนายสุพจน์ ศิลารัตน์ อายุ 30 ปี และนายสุพัฒน์ ศิลารัตน์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/382 ม.4 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญญบุรี จ.ปทุมธานี สองพี่น้องฝาแฝด อาชีพขายเสื้อผ้าและน้ำหอม อยู่ในย่าน จ.ปทุมธานี โดยทั้งสองได้เดินทางเข้ามอบตัวที่ สน.ชนะสงคราม เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ที่ผ่านมา ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยไตร่ตรองไว้

พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 29 ก.พ. เวลาประมาณ 15.39 น. มีชายไทยตามภาพกล้องวงจรปิดจำนวน 2 คน ได้เข้าไปดักรอในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งเห็นนายวรเจตน์เดินทางมาภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในช่วงบ่าย จึงตรงเข้ามาชกต่อยนายวรเจตน์จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ทะเบียน มธง 684 กรุงเทพฯ หลบหนีไป กระทั่งในเช้าวันนี้ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม

พล.ต.ท.วินัยกล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่า มูลเหตุที่จูงใจให้ก่อเหตุในครั้งนี้เกิดจากความไม่พอใจและเห็นต่างในความคิดเห็น โดยที่ทั้งสองไม่ได้สังกัดกลุ่มใดทั้งสิ้น ซึ่งเพียงแต่ไม่ชอบให้เกิดความวุ่นวายในสังคม จึงเกิดความไม่พอใจไปดักทำร้ายนายวรเจตน์ โดยไม่ทราบด้วยว่าเป็นมหาวิทยาลัยฯ ที่มีการสอนแบบทั้งวันจนถึงดึก จึงรีบมาดักในช่วงเช้าซึ่งคิดว่านายวรเจตน์น่าจะมาสอนตั้งแต่ช่วงเช้า เพราะตนขายของอยู่ย่านปทุมธานี ไม่เคยเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์มาก่อน ซึ่งเพิ่งเดินทางมาครั้งแรก

จากการตรวจสอบประวัตินายสุพัฒน์ น้องชาย พบว่าเคยถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกายในท้องที่ สน.สายไหม สน.ดอนเมือง สน.ธัญญบุรี มาก่อน เนื่องจากเป็นคนมีนิสัยใจร้อน ไม่พอใจอะไรก็จะแสดงออกด้วยการชกต่อยอยู่บ่อยครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และหากมีใบแพทย์ระบุว่าทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ให้ได้รับบาดเจ็บ จะมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ดำเนินการสอบสวนต่อไป

วันเดียวกัน พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า หลังจากนำตัวไปแถลงข่าวที่ บช.น. ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คนกลับมามาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ชนะสงคราม พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยไตร่ตรองไว้ก่อน รวมทั้งพิมพ์ลายนิ้วมือและทำการลงบันทึกประวัติไว้เป็นหลักฐาน แต่เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ต้องถูกควบคุมตัวไว้ โดยหลังจากนี้ก็จะปล่อยตัวชั่วคราวให้ผู้ต้องหากลับไป อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลได้ เพราะจะต้องรอผลตรวจรับรองอาการบาดเจ็บของผู้เสียหายจากแพทย์ก่อน จากนั้นจะนัดและนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งฟ้องต่อศาลแขวงดุสิตดำเนินคดีต่อไป




ยังยิ้มได้


กำลังโหลดความคิดเห็น