“เฉลิม” อุ้มลูกวัน ตระเวนขอบคุณตำรวจนครบาล ช่วยปัดเป่าผู้มีอิทธิพลรีดไถ่วิน จยย.ย้ำ เมื่อลูกชายมีภารกิจ และพ่อมีภารกิจต่อเนื่อง ต้องช่วยกันเพื่อสังคม โวเป็นคนเข้าใจตำรวจดีกว่านักการเมืองคนอื่นๆ เยินยอนครบาลทำงานดี ไม่มีข้อเสีย
วันนี้ (10 ก.พ.) เวลา 14.00 น.ที่ห้องประชุมใหญ่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาพร้อมนายวัน อยู่บำรุง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อมาขอบคุณตำรวจและประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานข้าราชการตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และผู้กำกับทุก สน.เข้าร่วมประชุม
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวก่อนเข้าประชุม ว่า ที่มาวันนี้อยากจะมาขอบคุณตำรวจที่มาช่วยเหลือทำงาน โดยเฉพาะที่เขตนครบาล ที่ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ดูแล โดยสร้างผลงานเป็นที่ชื่นชมชื่นชอบของพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและการจัดระเบียบสังคม ซึ่งเมื่อให้กำลังใจแล้ว ตนอยากจะบอกว่าเมื่อตำรวจทำงานต้องโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่าหวั่นไหว เพราะตนหนักแน่นเข้าใจตำรวจดีกว่านักการเมืองคนอื่นๆ ซึ่งที่มาดูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกตัวอย่าง เรื่องบ่อน คำว่าบ่อนต้องเล่นประจำในสถานที่หนึ่งสถานที่ใด ปล่อยปละละเลยโดยมีผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม หากเป็นเช่นนั้นตำรวจต้องรับผิดชอบ แต่กรณีบ่อนวิ่งเล่น หนีเล่น เล่นที่โน่นวันเล่นที่นี่วัน แล้วตำรวจไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่มีส่วนได้ผลประโยชน์ไม่เรียกว่าบ่อน และสังคมไทยจับบ่อนการพนันแยกจากกันไม่ได้ เพราะว่าแอบเล่นที่โน่นที่นั่น พอเล่นไม่สะดวกก็แอบไปเล่นชานเมือง สามวันหลบ สองวันไป เล่นไม่เลือกสถานที่ อย่างนี้ไม่เรียกบ่อน จับได้ก็จับ จับไม่ได้ก็แล้วไป ที่แน่ๆ บ่อนเตาปูน บ่อนลอยฟ้า พล.ต.ท.วินัยจับมาแล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อไปว่า สำหรับการพนันต้องจับขณะลักลอบเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าเตรียมทำบ่อนมีอุปกรณ์ กฎหมายไม่ได้เขียนระบุว่า มีอุปกรณ์การพนันแล้วผิดกฎหมาย มีโต๊ะคาบาร่า มีชิป มันไม่ผิด เมื่อไม่ผิดตำรวจจะไปจับได้อย่างไร ซึ่งเมื่อวิพากษ์วิจารณ์มาตนก็ต้องดูแลตำรวจให้ขวัญและกำลังใจตำรวจ ซึ่งเรื่องสุดท้ายขอความกรุณาผู้บัญชาการและตำรวจทุกพื้นที่ให้ช่วยดูแลเรื่องวินจักรยานยนต์ เพราะกระทรวงคมนาคมมอบนายวันไปดูแลวิน จยย.ซึ่งเมื่อลูกชายมีภารกิจ และพ่อมีภารกิจต่อเนื่องต้องช่วยกันเพื่อสังคม
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า การปฏิบัติงานของตำรวจนครบาลที่ผ่านมาถือว่าสอบผ่าน ทำงานดีมาก ไม่มีข้อเสีย ซึ่งตนทำงานกับตำรวจ และอยู่ในวงการนี้มานานย่อมรู้ดี โดยภาพรวมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลในขณะนี้ทุกด้านถือว่าทำงานได้ดี
ขณะเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ รอง ผบช.น. ในฐานะประธานคณะกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบ่อนการพนันในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบบ่อนการพนันมารายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริง
พล.ต.ต.นเรศ กล่าวภายหลังการประชุมว่า คณะกรรมการสืบสวนที่ดำเนินการตรวจสอบได้รายงานถึงข้อเท็จจริงผลการตรวจสอบแล้วเป็นอย่างไร และมีปัญหาตรงจุดใดบ้าง หลังจากนั้นจะให้คณะกรรมการชุดนี้เข้ามารายงานผลวันที่ 20 ก.พ. อีกครั้ง นอกจากนี้ยังทราบว่า พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปผลการตรวจสอบให้กับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. รับทราบ และผบ.ตร. สั่งการให้พล.ต.อ.สถาพร ส่งสำเนาผลการตรวจสอบมารวมกับคณะกรรมการสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งบช.น.ได้รับเอกสารดังกล่าวมาจาก พล.ต.อ.สถาพร เรียบร้อยแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าผลการรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบกับจเรตำรวจแห่งชาติมีความสอดคล้อง หรือใกล้เคียงกันหรือไม่ พล.ต.ต.นเรศ กล่าวว่า ส่วนใหญ่สอดคล้องกันแต่มีเพียงบางจุดที่จะต้องลงไปตรวจสอบในเชิงลึก และเปิดโอกาสให้เจ้าของพื้นที่ชี้แจงด้วย เพราะขณะที่จเรตำรวจแห่งชาติลงไปตรวจสอบอาจไม่มีเวลาการเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการตรวจค้นจับกุมที่ผ่านมา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากตรวจสอบพบว่า ข้อมูลตรงกันกับจเรตำรวจแห่งชาติ และมีการปล่อยปละละเลยจริง คณะกรรมการชุดของบช.น.สามารถดำเนินการลงโทษตำรวจพื้นที่ได้เลยหรือไม่ รอง ผบช.น. กล่าวว่า ต้องเสนอให้ทาง พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. เป็นผู้ดำเนินการพิจารณาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า สำหรับการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ตรวจท้องที่ โดยการให้พักราชการ ตามที่พล.ต.อ.สถาพร จเรตำรวจแห่งชาติเสนอแล้วต้องดำเนินการตามหรือไม่ พล.ต.ต.นเรศ กล่าวอีกว่า เรื่องการลงโทษต้องดูว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ สั่งการลงมาอย่างไร เพราะเป็นการใช้อำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับการประชุมชี้แจงข้อเท็จจริงที่มีการนำมาเสนอนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากยังมีอีกหลายประเด็นที่ไม่ครอบคลุม จะต้องสอบปากคำบุคคลให้ครบถ้วน โดยเฉพาะกลุ่มคนในละแวกใกล้เคียงดังกล่าว