ผบช.น.ได้รับรายงานผลสุรปตรวจหาบ่อนในท้องที่ 88 สน.ไม่พบมีการเปิดบ่อน พร้อมส่งให้ ผบ.ตร.พิจารณาแล้ว อ้างข้อมูลข่าวครึกโครมทำให้บ่อนที่เปิดเล่นอยู่ไหวตัวทันตามจับยาก เชื่อ ตำรวจจับตาอยู่คงไม่มีเปิดเล่น ขณะเดียวกัน จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแต่ละท้องที่ละเลยปล่อยเล่นพนันจริงหรือไม่ หากพบว่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะจัดการเด็ดขาด ด้านจเร ตร.ตรวจสอบบ่อนย่านโชคชัย 4 ไม่พบอุปกรณ์การเล่น ยันเป็นสาขา “เฮียตือ” แต่ปิดตัวลง 1 เดือนที่ผ่านมา
วันนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบบ่อนการพนันในพื้นที่นครบาลทั้ง 88 สน.หลังจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าเบื้องต้นได้รับรายงานจากทั้ง 88 สน.เรียบร้อยแล้ว และผลการตรวจสอบได้ส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาแล้ว
พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ผลการตรวจสอบบ่อนการพนันในพื้นที่นครบาลจากที่ได้รับรายงานไม่พบว่ามีการเปิดบ่อน แต่ทั้งนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่ เพื่อทำการตรวจสอบว่าแต่ละท้องที่มีการปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นการพนันจริงหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่พบบ่อนตามรายงานที่ได้รับ รวมถึงการตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับบ่อนพนันด้วย ถ้าพบว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางเราจะดำเนินการทันทีเช่นกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากรายงานยืนยันไม่พบบ่อนพนันในแต่ละท้องที่ หากหลังจากนี้ตรวจสอบพบจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ต้องจับกุมและดำเนินการทันที หากพบว่าตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องต้องพิจารณาโทษขั้นเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม นโยบายของ บช.น.มีความชัดเจนอยู่แล้วเรื่องการปราบปรามจับกุมบ่อนพนัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะไม่ละเลยอย่างเด็ดขาด
“อย่างที่เคยบอกไปแล้วนั้น ทางเราตรวจสอบแล้วไม่พบ เพราะเกิดความลำบากในการทำงาน เนื่องจากมีการให้ข้อมูลตามข่าวที่ออกมาทำให้บ่อนแห่งต่างๆ ที่เปิดเล่นไหวตัวทัน ตามจับยาก แต่ผมเชื่อว่าจากนี้ไปคงไม่มีการเล่นพนันแน่นอน เพราะตำรวจได้จับตาดูไว้อยู่แล้ว” พล.ต.ท.วินัย กล่าว
ในวันเดียวกันเวลา 13.30 น. พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบอาคาร 2 ชั้น ใช้ชื่อเดิมว่า “เลดี้ผับ” เปิดเป็นสถานบันเทิง ตั้งอยู่ที่ ถ.โชคชัย 4 ซอย 72 ซอยย่อยสตรีวิทย์ 2 แยก 20 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.หลัง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาแฉบ่อนในพื้นที่ตำรวจนครบาล พร้อมทั้งมอบหลักฐานให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าตรวจสอบ
พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า ภายหลังเข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าวได้ปิดตัวอยู่ระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซม เพื่อเปิดเป็นร้านคาราโอเกะ และอาบอบนวด โดยบริเวณชั้นที่ 2 ของร้านพบเป็นห้องว่างเปล่าไม่พบวัสดุอุปกรณ์ที่ผิดกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับการพนัน โดยมีเพียงจอทีวี 2 เครื่อง และโต๊ะเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่ ซึ่งผู้ดูแลอาคารดังกล่าวอยู่ทราบชื่อ น.ส.ลำไย อายุประมาณ 36 ปี โดยอ้างว่าเช่าต่อมาจากเจ้าของเดิม เพื่อปรับเป็นคาราโอเกะ ส่วนชั้นล่างพบแบ่งเป็นห้องจำนวน 10 ห้องย่อยเพื่อใช้เป็นห้องนวด ซึ่งปิดล็อกทั้งหมดไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้
พล.ต.อ.สถาพร กล่าวอีกว่า จากข้อมูลทราบว่าสถานที่แห่งนี้ได้เปิดมานานหลายเดือน และเพิ่งปิดตัวไปประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งแม้ว่าการตรวจสอบจะไม่พบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน แต่พบร่องรอยที่เชื่อว่าเคยเปิดเป็นลักษณะบ่อนการพนันเครือข่าย “เฮียตือ” ซึ่งเป็นข้อูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับมา แต่อุปกรณ์ต่างๆ ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปแล้ว โดยอาคารนี้สามารถจุคนได้ประมาณ 50-100 คน
จากการเปรียบเทียบลักษณะห้องกับภาพถ่ายที่ได้มาเป็นหลักฐานพบว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกัน หลังจากนี้จะเรียกเจ้าของอาคารดังกล่าวมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือปล่อยให้มีคนมากระทำผิดกฎหมายในอาคารแห่งนี้หรือไม่ รวมทั้งต้องดูพยานแวดล้อมอย่างอื่นประกอบนอกจากตรวจสอบสถานที่จริงเพื่อหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
“จากข้อมูลที่ได้มาพบว่ามีบ่อนการพนันในพื้นที่นครบาลทั้งหมดจำนวน 18 บ่อน ส่วนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 มีจำนวน 6 บ่อน ในพื้นที่ จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี โดยในพื้นที่นครบาลเฉพาะพื้นที่ บก.น.4 ซึ่งมีอยู่จำนวน 5-6 บ่อน ในพื้นที่ของ 4 สน.ประกอบด้วย สน.โชคชัย สน.ลาดพร้าว สน.วังทองหลาง และ สน.หัวหมาก ขณะเดียวกัน ตำรวจได้เข้าตรวจสอบสถานที่ทั้ง 21 แห่งแล้ว แต่ไม่พบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน แต่เข้าข่ายว่ามีการเปิดให้เล่นการพนัน ซึ่งบางแห่งไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้เนื่องจากศาลไม่อนุมัติหมายค้น โดยให้เหตุผลว่ายังไม่น่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้น” พล.ต.อ.สถาพร กล่าว
พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า จะเรียก ผกก.ทั้ง 4 สน.มาประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก่อนจะสรุปผลเพื่อรายงานให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.รับทราบภายใน 7 วัน หากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ใดที่มีการปล่อยปละละเลย นายตำรวจตั้งแต่ระดับ ผบก.-ผกก.ในท้องที่นั้นจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ โดยจะมีการพิจารณาโทษด้วยการสำรองราชการ
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สถาพร ได้นำทีมเข้าตรวจอาคารพาณิชย์เลขที่ 118/27-28 ซอยรามคำแหง 24 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ซึ่งเป็นอาคาร 5 ชั้น โดยชั้นที่ 1-2 อยู่ระหว่างการปรับปรุงสียังไม่แห้ง และชั้นที่ 3 แบ่งเป็นห้องจำนวนหลายห้องมีโต๊ะกลมขนาดใหญ่ซึ่งไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้วางอยู่ 1 ตัว โดยผู้เช่าตึกดังกล่าวอ้างว่าเคยเปิดเป็นร้านอาหารจีน เจ้าของได้มาเช่า เพื่อเปิดเป็นร้านอินเทอร์เน็ต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สถาพร เข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าว เนื่องจากมีข้อมูลว่าอาคารแห่งนี้เปิดเป็นบ่อนจริงและเพิ่งมีการขนย้ายอุปกรณ์เล่นการพนันออกไปเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยชุดของจเรตำรวจที่เข้าตรวจสอบได้สอบถามกับ พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สน.หัวหมาก ได้ยืนยันว่า อาคารดังกล่าวไม่สามารถเปิดเป็นบ่อนได้อย่างแน่นอน เนื่องจากมีสายตรวจมาดูตลอด และเป็นพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่าน โดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ส่งชุดสืบสวนมาตรวจสอบพบว่ามีการย้ายอุปกรณ์การก่อสร้างมาที่อาคารนี้ ซึ่งไม่ใช่การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการพนันอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญ นายชลธี วัชระเรืองสันติ อายุ 33 ปี ที่รับเป็นผู้เช่าอาคารดังกล่าวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.หัวหมาก โดยจากการสอบสวน นายชลธี ให้การว่า ได้ทำการเช่าอาคารดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา และเริ่มปรับปรุงตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.เพื่อทำเป็นร้านอินเตอร์เน็ต โดยวันนี้ที่ชุดของจเรตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบ ตนก็เข้ามาที่ร้านเพื่อคุมงานการติดตั้งกระจกพอดี และยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่องที่อาคารนี้เคยเปิดเป็นบ่อนแต่อย่างใด เพราะเพิ่งมาเช่าเปิดกิจการส่วนตัวเท่านั้น