จเรตำรวจแห่งชาติ เผย ได้ข้อมูลการตรวจสอบบ่อนการพนัน ตามโพย “ชูวิทย์” แฉเกือบครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว คาด ส่งให้ ผบ.ตร.พิจารณาได้ภายในสัปดาห์นี้ ยอมรับหนักใจกับการสืบสวนเรื่องนี้ ย้ำ ได้ทำตรงไปตรงมา เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์องค์กรให้ดีขึ้น
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานสืบสวนสอบสอนบ่อนการพนันในเขตพื้นที่ตำรวจนครบาล และ ตำรวจภูธรภาค 1 ตามที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย นำมาเปิดโปง เปิดเผยว่า หลังจากได้รับคำสั่งให้ดำเนินการในเรื่องนี้ตนได้สั่งการให้หน่วยสืบสวนของกองตรวจราชการลงพื้นที่หาข้อมูลบ่อนทั้ง 22 แห่ง ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และในสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลา
จากการสอบถามพยานที่มีส่วนรู้เห็น พร้อมเข้าไปตรวจสอบสถานที่ที่คาดว่าน่าจะมีการลักลอบเปิดบ่อน ซึ่งล่าสุด ได้ข้อมูลเกือบครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยจะสามารถส่งข้อมูลให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.พิจารณาได้ภายในสัปดาห์นี้
พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า แนวทางการสืบสวนและพิจารณาความบกพร่องได้ดำเนินการเช่นเดียวกับการสืบสวนบ่อนการพนันย่านสุทธิสาร ซึ่งได้เชิญนายตำรวจมาให้ปากคำทั้ง บช.น.และ บช.ภ.1 พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน
เมื่อถามว่า รู้สึกหนักใจหรือไม่กับการทำงาน พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า หนักใจบ้าง เนื่องจากกรณีสืบสวนเรื่องนี้เราได้ทำอย่างตรงไปตรงมา เพื่อต้องการให้ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติดีขึ้น จึงมีความคิดว่าจเรตำรวจควรมีบทบาทในการตรวจสอบไม่ให้มีบ่อนการพนันเกิดขึ้นโดยเข้าไปกำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีการทำงานที่รัดกุมมากขึ้น
ด้านพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รรท.ผบก.กองสารนิเทศ (สท.) เปิดเผยในเรื่องเดียวกันว่า ขณะที่กำลังรอผลสรุปจาก บช.น. และบช.ภ.1 เพื่อให้ผบ.ตร. พิจารณา คาดว่าเย็นวันนี้จะรู้ผลการสอบสวนว่าเป็นอย่างไร โดยเบื้องต้นข้อมูลที่ได้จากนายชูวิทย์ นั้นเป็นประโยชน์มาก ซึ่งบางบ่อนเป็นข้อมูลเก่าที่ปิดตัวไปแล้ว บางแห่งกำลังจะเปิดให้บริการ และบางแห่งก็เคลื่อนย้ายไปแล้ว ทางผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการ แลtสถานีตำรวจเองก็ปฏิเสธที่จะไม่รู้ไม่ได้ หากปล่อยปละละเลยต้องรับผิดชอบตามระเบียบของตร. แต่ต้องดูว่า ตำรวจทำงานเต็มที่หรือยัง ถ้าทำเต็มที่ก็ว่ากันไป เป้าหมายหลักคือตรวจสอบว่ามีความบกพร่องตรงไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณาความบกพร่องของตำรวจท้องที่คราวก่อน สั่งการให้ช่วยราชการทันที แต่คราวนี้ขอตรวจสอบก่อน ถือว่าเป็นการทำให้เกิด 2 มาตรฐานหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ไม่ใช่ 2 มาตรฐานแต่อย่างไร ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ที่นายชูวิทย์ให้ข้อมูล บางอย่างได้ตรงกัน และเป็นข้อมูลที่ประชาชนแจ้งให้ตำรวจทราบเช่นกัน โดยมีบ่อนเล็ก หรือบ่อนชาวบ้าน ซึ่งตำรวจก็ทราบอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะเลือกเฉพาะบ่อนที่นายชูวิทย์ ชี้แจงเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นที่น่าสังเกตหรือไม่ว่าที่นายชูวิทย์ออกมาเปิดเผยช่วงก่อนการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับรองผบก.-สว.พร้อมระบุท้องที่ชัดเจน เพื่อหวังผลการแต่งตั้งหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เรื่องการปล่อยปละเลยให้มีบ่อนการพนัน ไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวที่จะมีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้าย การแต่งตั้งต้องดูอย่างอื่นด้วย เช่น ผลงานการปราบปรามอาชญากรรม การบริการประชาชนตามโครงการโรงพักเพื่อประชาชน และเป็นปกติก่อนการแต่งตั้งโยกย้ายจะมีการออกมาเปิดโปงข้อมูลดังกล่าว