นครบาลเข้มชู 4 มาตรการเร่งปราบปรามอาชญากรรม และยาเสพติด โดยเน้นจับกุมพ่อค้ายารายย่อย พร้อมขยายผลไปสู่ผู้ร่วมขบวนการรายใหญ่ เพื่อสกัดต้นตอของปัญหาให้หมดสิ้นไป
วันนี้ (3 ก.พ.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.ปรีดา สถาวร โฆษก บช.น. เปิดเผยถึงมาตรการเชิงรุกป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด และจัดระเบียบสังคมของ บช.น. ว่า เนื่องจากปัจจุบันการแก้ไขปัญหายาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งพื้นที่กรุงเทพฯเป็นพื้นที่แพร่ระบาดสำคัญ นอกจากนี้ปัญหายาเสพติดยังมีความเกี่ยวเนื่องกับปัญหาอาชญากรรม และส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในสังคม บช.น. จำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน ซึ่งพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. เน้นให้ทำด้วยจิตสำนึก เพื่อประคับประคองสังคม เด็กและเยาวชน คืออนาคตของชาติ จึงได้กำหนดกรอบการดำเนินงานออกเป็น 4 ด้าน และมอบหมาย รอง ผบช.น. รวมทั้งประชุมข้าราชการตำรวจทุกหน่วยเพื่อนำไปปฎิบัติต่อไป อย่างไรก็ตามได้วางกรอบการทำงานดังนี้
1.การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมพื้นฐานและงานสืบสวน โดย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ผู้ช่วยงานปราบปรามฯ และพล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. หัวหน้างานสืบสวน (ผช.ปส.) หัวหน้ารับผิดชอบฝ่ายป้องกันปราบปราม และฝ่ายสืบสวน โดยจะเน้นการควบคุมระบบสายตรวจ ตั้งจุดตรวจค้น ฝึกทบทวนยุทธวิธีในการระงับเหตุ จับกุมคนร้าย เก็บรวบรวมข้อมูลจากกล้อง CCTV เพื่อเป็นข้อมูลของ สน. ขณะเดียวกัน เร่งป้องกันคดีลักรถ อีกทั้งเร่งรัดหมายจับค้างเก่า โดยมอบหมาย กก.สส.บก.น.1-9 รับผิดชอบคดี
2.การปราบปรามยาเสพติด ในระดับสน. เน้นจับกุมผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ พร้อมทั้งสืบสวนขยายผลจากผู้เสพเก็บรวบรวมข้อมูลไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรม และขอความร่วมมือบ้านเช่า อพาร์ตเม้นต์ คอนโดมิเนียม คอยสอดส่องดูแล
3.การจัดระเบียบสังคม มีเป้าหมายได้แก่ สถานบริการ, สถานประกอบการ ที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ จำหน่ายอาหารและสุรา ที่อาจเป็นแหล่งมั่วสุมของผู้กระทำผิดใช้ลักลอบเล่นการพนัน เป็นแหล่งพนันทายผลฟุตบอล ค้าประเวณี เป็นแหล่งซ่องสุมของขบวนการค้ามนุษย์ หรือการใช้แรงงานเด็กโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งจำหน่ายสุราที่ตั้งอยู่บริเวณรอบสถานศึกษา, ร้านเกมส์-อินเตอร์เน็ต, โต๊ะสนุกเกอร์, หอพัก อพาร์ต์เมนต์ บ้านเช่า, แหล่งมั่วสุมในที่สาธารณะ, สถานที่มั่วสุมแข่งรถ, ย่านที่พักอาศัย แหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง รวมทั้งกวดขันปราบปรามบ่อนการพนันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ บก.น.1-9 บูรณาการระดับ บก. ให้ปิดล้อมตรวจค้น สถานบริการ 20 กว่าแห่ง 1 ครั้ง/สัปดาห์ และชุมชน 1 ครั้ง/สัปดาห์
4.งานตำรวจชุมชนและมวลชนสัมพันธ์มุ่งเน้นงาน กต.ตร.สน., โครงการ 1 ตำรวจ 4 อาสา, การมีส่วนร่วมในการแจ้งข้อมูลเบาะแสยาเสพติด อาชญากรรม
พ.ต.อ.ปรีดา กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ต้องแบ่งออกเป็น 4 ด้านดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาจากผลการจับกุมและขยายผลผู้ต้องหาได้หลายราย ซึ่งปรากฏว่าคดีอาชญากรรมมีความเกี่ยวเนื่องกันกับยาเสพติด รวมทั้งเรื่องการจัดระเบียบสังคมโดยเน้นสถานบริการ และบ่อนการพนันต่างๆ จึงมีการกำหนดนโยบาย เพื่อให้ดำเนินการควบคู่ไปพร้อม ๆกัน ส่วนเรื่องชุมชนและมวลชนสัมพันธ์เป็นการแสวงหาความร่วมมือกับภาคประชาชน โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดหากได้รับการแจ้งเบาะแสก็จะทำให้การปราบปรามมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เปิดรับสมัครข้าราชการตำรวจชั้นประทวนต้องการเลื่อนยศเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร มีโควต้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 772 อัตรา จะแบ่งเป็นสองส่วน โดยส่วนแรกระดับชั้นประทวนจ่าสิบตำรวจ และดาบตำรวจไม่ต้องมีวุฒิปริญญาตรี เปิดรับจำนวน 174 อัตรา ส่วนที่สองสำหรับผู้ที่ไปเรียนเพิ่มเติมได้วุฒิปริญญาตรี เปิดรับจำนวน 598 อัตรา ได้มีการเปิดรับสมัครมาแล้วตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.- 3 ก.พ.55 เป็นวันสุดท้าย ซึ่งยอดรวมวันสุดท้ายวันนี้ในช่วงเช้าประมาณ 6,730 นาย และคาดว่าในช่วงเย็นก่อนปิดรับสมัครยอดน่าจะเป็น จำนวน 7 พันนาย หรือ จำนวน 10ต่อ1 โดยจะมีการสอบข้อเขียนในวันที่ 11 มี.ค.55 นี้ ซึ่งจะเน้นในเรื่องความโปร่งใส และเข้มงวดเรื่องการทุจริตด้วย