ปปง.เร่งติดตามเส้นทางธุรกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังตามอายัดบัญชีได้ 100 กว่าบัญชี พบมีการโอนเงินให้ตัวการใหญ่ที่จีนและไต้หวันไม่ต่ำกว่า 170 ล้าน เผยภายใน 1-2 วันจะร่วมกับกองปราบเข้าจับกุมตัวการใหญ่ชาวไทย ส่วนคดีอดีตปลัดคมนาคมเตรียมสอบบัญชีผู้ที่เกี่ยวข้องและยังพบว่าสายรัดเงินเกี่ยวพัน 5-6 บริษัทเอกชนที่รับประมูลงานก่อสร้างในหลายจังหวัด
วันนี้ (31 ม.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในฐานะกรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการธุรกรรม แถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 1/2555 ว่าคณะกรรมการธุรกรรมมีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีซึ่งอยู่ในความสนใจของประชาชนรวม 5 เรื่อง คือ แก๊งคดีคอลเซ็นเตอร์ (call center)ที่แอบอ้างหมายเลขโทรศัพท์สำนักงาน ปปง.ซึ่งล่าสุดมีอดีตข้าราชการครูเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเงินไปเกือบ 30 ล้านบาท ต่อมา ปปง.อายัดบัญชี 85 บัญชี จับกุมคนร้ายได้ 5 คน หลังจับกุมคนร้ายก็ได้อายัดเพิ่มอีก 96 บัญชี ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีเงินผ่านบัญชีคนไทยที่อยู่เบื้องหลัง และโอนเงินไปให้ตัวการใหญ่ที่ปลายทางประเทศจีน และไต้หวัน เป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 170 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ภายใน 1-2 วัน ปปง.จะร่วมกับตำรวจกองปราบปรามเข้าจับกุมตัวการใหญ่ชาวไทย ส่วนตัวการใหญ่ชาวไต้หวัน ตำรวจทราบตัวแล้วแต่ขอปิดเป็นความลับ
พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวต่อว่า คณะกรรมการธุรกรรม ปปง.ยังได้เสนอคดีที่เข้าข่ายมูลฐานความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นคดีที่เชื่อมโยงกับแก็งคอลเซนเตอร์ การกรรโชกทรัพย์ และฉ้อโกงประชาชนด้วย นอกจากนี้ยังมีคดีความผิดเกี่ยวการก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามความผิดมูลฐานก่อการร้ายเรื่องสะสมอาวุธระเบิดและใช้พื้นที่ฝึกผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งบอร์ด ปปง.มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย
สำหรับคดีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม มีความผิดมูลฐานต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการนั้น พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวว่า จากการตรวจสอบรหัสสายรัดเงินพบว่าเกี่ยวพัน 5-6 บริษัทเอกชนที่รับประมูลงานก่อสร้างในหลายจังหวัดในพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนจะมีนักการเมืองเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ โดย ป.ป.ช.จะทำการตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินที่ได้มาว่าผิดปกติหรือไม่ และได้มาอย่างไร นอกจากนี้ ปปง.จะทำการตรวจสอบไปถึงผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายสุพจน์ด้วย
รักษาการเลขาธิการ ปปง.ยังกล่าวถึงการจับกุมคดีบ่อนเตาปูนว่า บ่อนดังกล่าวเคยถูกจับปี 2543 จับนักพนันได้ 160 คน ปลายปีที่ผ่านมาจับนักพนันได้199 คน และพบทรัพย์สินพร้อมหลักฐานการกระทำความผิด ดังนั้น บอร์ด ปปง.มีมติให้ตรวจสอบเพิ่มเติม และให้ดำเนินการอายัดทรัพย์เจ้าของบ่อนหรือผู้รับสมอ้างต่อไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการธุรกรรมยังมีคำสั่งมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดียาเสพติด จำนวน 15 เรื่อง โดยยึดทรัพย์ได้จำนวน 11 เรื่อง เป็นเงินสด 917,915 บาท เป็นทองคำ 62 บาท มูลค่า 1,612,000 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่นที่ยังไม่ได้มีการประเมินอีก 12 รายการ
สำหรับผลการดำเนินคดีตามที่คณะกรรมการได้มีคำสั่งยึดและอายัดตั้งแต่ ต.ค. 2543 ถึง ธ.ค. 2554 ตามความผิดมูลฐาน 701 เรื่อง มูลค่า 4,127,664,518.97 บาท และสามารถขายทอดตลาด ได้ 2,046 รายการ เป็นมูลค่า 291,886,250 บาท ซึ่งสามารถนำทรัพย์สินที่ศาลสั่งตกเป็นของแผ่นดินส่งกระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 2544-31 ธ.ค. 2554 รวม 265 คดี มูลค่า 457,418,783.45 บาท