วานนี้ (31 ม.ค) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) แถลงภายหลัง การประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งแรก โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีสำคัญ 5 คดี ในส่วนคดีของ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมนั้น จากการถอดรหัสสายรัดเงินพบว่ามีบริษัทที่เกี่ยวข้องประมาณ5- 6 บริษัทซึ่ งเป็นบริษัทรับประมูลโครงการก่อสร้างหลายโครงการและหลายพื้นที่ทางภาคอิสาน รวมถึงบริษัทที่อยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ในการชี้มูลความผิด
“ขณะนี้ได้ให้พนักงานรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยยังไม่ได้อายัดบัญชีของนายสุพจน์ แต่อย่างใด ต้องรอให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลนายสุพจน์ก่อน” พ.ต.อ.สีหนาทกล่าว
นอกจากนี้ คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเลขาธิการปปง.หลอกเงินข้าราชการเกษียณอายุ เหตุเกิดตั้งแต่ปลายปี 2554 โดย ปปง.ได้อายัดบัญชีต้องสงสัยไปแล้ว 85 บัญชีในครั้งแรก และหลังตรวจสอบเครือข่ายผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม 5 ราย ปปง.ได้อายัดบัญชีเพิ่มอีก 96 บัญชี ซึ่งในขณะนี้ ปปง.ได้ตรวจสอบพบผู้ต้องสงสัยชาวไทยที่อยู่เบื้องหลังการรับโอนเงินจากบัญชีทั้งหมดประมาณ 170 ล้านบาทไ ปให้เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศจีน และไต้หวัน
ภายใน 2 วันนี้จะมีการออกหมายจับคนร้ายกลุ่มนี้ได้เพิ่มเติมและขณะนี้ทราบเบาะแสของคนร้ายแล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งเป็นคนไทยที่ร่วมมือกับชาวไต้หวัน ส่วนจากการตรวจสอบบัญชีใหญ่นี้พบว่ามีความเคลื่อนไหวของเงินเข้า-ออกบัญชีวันละไม่ต่ำว่า2-3ล้านบาทต่อวัน
คณะกรรมการธุรกรรมได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่เป็นการปล้นทรัพย์กันเองของกลุ่มคนร้ายในแก็งคอลเซ็นเตอร์, คดีก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และคดีการจับกุมบ่อนการพนันย่านเตาปูนที่พบว่าผู้ต้องสงสัยมีทรัพย์สินหลายรายการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดคณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบซึ่งหากพบความเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ต่อไป
“ขณะนี้ได้ให้พนักงานรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยยังไม่ได้อายัดบัญชีของนายสุพจน์ แต่อย่างใด ต้องรอให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลนายสุพจน์ก่อน” พ.ต.อ.สีหนาทกล่าว
นอกจากนี้ คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเลขาธิการปปง.หลอกเงินข้าราชการเกษียณอายุ เหตุเกิดตั้งแต่ปลายปี 2554 โดย ปปง.ได้อายัดบัญชีต้องสงสัยไปแล้ว 85 บัญชีในครั้งแรก และหลังตรวจสอบเครือข่ายผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม 5 ราย ปปง.ได้อายัดบัญชีเพิ่มอีก 96 บัญชี ซึ่งในขณะนี้ ปปง.ได้ตรวจสอบพบผู้ต้องสงสัยชาวไทยที่อยู่เบื้องหลังการรับโอนเงินจากบัญชีทั้งหมดประมาณ 170 ล้านบาทไ ปให้เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศจีน และไต้หวัน
ภายใน 2 วันนี้จะมีการออกหมายจับคนร้ายกลุ่มนี้ได้เพิ่มเติมและขณะนี้ทราบเบาะแสของคนร้ายแล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งเป็นคนไทยที่ร่วมมือกับชาวไต้หวัน ส่วนจากการตรวจสอบบัญชีใหญ่นี้พบว่ามีความเคลื่อนไหวของเงินเข้า-ออกบัญชีวันละไม่ต่ำว่า2-3ล้านบาทต่อวัน
คณะกรรมการธุรกรรมได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่เป็นการปล้นทรัพย์กันเองของกลุ่มคนร้ายในแก็งคอลเซ็นเตอร์, คดีก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และคดีการจับกุมบ่อนการพนันย่านเตาปูนที่พบว่าผู้ต้องสงสัยมีทรัพย์สินหลายรายการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดคณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบซึ่งหากพบความเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ต่อไป