xs
xsm
sm
md
lg

“เพรียวพันธ์” ตรวจแหล่งซุกสารประกอบระเบิด ยันไม่ได้เตรียมก่อการร้ายในไทย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

กำลังตำรวจเข้าค้นอาคารพาณิชย์ แหล่งซุกซ่อนระเบิด คาดเตรียมก่อการร้าย
ผบ.ตร.พร้อมกำลังนายตำรวจบุกค้นแหล่งซุกซ่อนระเบิดในตึกพาณิชย์ย่านมหาชัย หลังจับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ได้ เผยพบระเบิดเตรียมก่อการร้ายจริง



วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจวัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ อีโอดี จนท.ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.), สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.สส.บชน.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 สนธิกำลังร่วมกันกว่า 200 นาย บุกเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 52/14-15 หมู่ 2 ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นสถานที่ซุกซ่อนสารประกอบระเบิดขององค์กรก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการขยายผลสอบปากคำ นายอาทริส ฮุสเซน (Atris Hussein) ชาวเลบานอน ผู้ต้องหาก่อการร้าย ที่สามารถจับกุมตัวได้ในกรุงเทพมหานคร พร้อมนำตัวผู้ต้องหามาชี้จุดเกิดเหตุ

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาตามหลักสากล ผู้ต้องหาได้ให้การเป็นประโยชน์ พร้อมเปิดเผยจุดซุกซ่อนของกลาง ซึ่งเป็นสารประกอบวัตถุระเบิด ประกอบด้วย ปุ๋ยยูเรีย จำนวน 337 ลัง ภายในลังบรรจุถุงพลาสติกใส่ จำนวน 4 ถุง ๆ ละ 7 กก. รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 4,380 กิโลกรัม, แอมโมเนียไนเตรต บรรจุแกลลอนขนาด 20 ลิตร จำนวน 10 แกลลอน, แอมโมเนียไนเตรตละลายผสมแล้ว บรรจุลังพลาสติกขนาด 90 ลิตร จำนวน 2 ลัง, เครื่องซีนถุงพลาสติก 1 เครื่อง เครื่องซีนถุงสูญญากาศอีก 1 เครื่อง โดยของกลางทั้งหมดพบอยู่บน ชั้น 2 ของตัวอาคาร, ส่วนชั้นล่างพบรองเท้าแตะ จำนวน 600 คู่, กระดาษ เอ4 จำนวน 300 ลัง และ พัดลม 400 ตัว

จากการสอบสวนทราบว่า สารประกอบวัตถุระเบิดดังกล่าวไม่ได้นำมาใช้ก่อเหตุในประเทศไทย เนื่องจากมีการบรรจุในลังกระดาษอย่างมิดชิด จำนวน 337 ลัง เพื่อเตรียมลำเลียงออกนอกประเทศโดยทางเรือ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเป็นประเทศใด

“ซึ่งจากการตรวจสอบยังทราบว่า ผู้ต้องหาได้เช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าว เพื่อเก็บสารประกอบระเบิดมาเป็นเวลานานกว่า 1 ปีแล้ว โดยจากการสอบปากคำเจ้าของอาคาร เบื้องต้นทราบว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องต่อการก่อการร้าย และยืนยันคนไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการก่อการร้ายครั้งนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการอายัดของกลางทั้งหมด พร้อมส่งต่อไปยังกองพลาธิการสำนักงานส่งกำลังบำรุง เพื่อนำไปตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง และสำหรับตัวผู้ต้องหานั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปดำเนินคดีในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณท์ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ผบ.ตร. กล่าว

ขณะที่ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ตำรวจยังคงควบคุมตัวนายอาทริส ฮุสเซน ชาวเลบานอน ผู้ต้องสงสัยจะเข้ามาก่อการร้ายเดินทางมายังไทย ซึ่งยังไม่ส่งตัวผลักดันออกนอกประเทศ เพราะยังต้องสอบปากคำเพิ่มเติม โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้ผลักดันออกนอกประเทศเมื่อใด








กำลังโหลดความคิดเห็น