xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก 4 ปี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงเหยื่อติดหนี้บัตรเครดิต

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
จำคุกคนละ 8 ปี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวันโทร.ลวงเหยื่ออ้างติดหนี้บัตรเครดิตให้ไปลบข้อมูลที่ตู้เอทีเอ็มสูญเงินกว่า 2 แสน รับสารภาพเหลือคุกคนละ 4 ปี ศาลชี้เป็นภัยร้ายแรง ไม่รอลงอาญา

วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายชู ไพ เคน (MR. HSU PEI KEN) อายุ 33 ปี และ นาย เชน ชวน ชิ (MR.SHEN SHUAN CHI ) อายุ 25 ปี ทั้งสองเป็นชาวไต้หวัน เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานร่วมกันมีและใช้บัตรอิเลกทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ

คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.53 จำเลยกับพวกได้กระทำผิดกฎหมายโดยใช้บัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ จำนวน 2 ใบ แล้วโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหาย 2 ราย ออกอุบายแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ว่า ผู้เสียหายค้างชำระค่าบัตรเครดิตจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า มีผู้แอบอ้างนำบัตรประชาชนของผู้เสียหายไปเปิดบัญชีธนาคาร และทำบัตรเอทีเอ็มธนาคารพาณิชย์อื่นๆ เพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นมากระทำผิดได้ จึงให้ผู้เสียหายไปลบข้อมูลเกี่ยวกับการเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งเมื่อผู้เสียหายดำเนินการตามขั้นตอนตามที่จำเลยแนะนำ กลับกลายเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่จำเลยทั้งสองเปิดไว้โดยทุจริต จำนวน 99,968 บาท และ จำนวน 150,000 บาท ตามลำดับรวมเป็นเงิน 249,968 บาท เหตุเกิดที่แขวงเขตห้วยขวาง กทม.และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ให้การรับสารภาพในชั้นศาล

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/5, 269/6, 269/7, 335(7) วรรคแรก ประกอบมาตรา 83 ให้ลงโทษทุกกรรม ฐานร่วมกันมีไว้ซึ่งบัตรเครดิตจำคุกจำเลยคนละ 2 กระทงๆ 2 ปี และฐานร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบจำคุกจำเลยคนละ 2 กระทงๆ 2 ปี รวมจำคุกจำเลยคนละ 8 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 4 ปี การกระทำของจำเลยทั้งสองนับเป็นเรื่องร้ายแรงเสียหายต่อประชาชน ไม่สมควรรอการลงโทษ และให้ใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย ริบสมุดโน้ต และกระดาษจดบันทึกวิธีการกดเอทีเอ็ม
กำลังโหลดความคิดเห็น