ตร.ภูธรภาค 1 โชว์จับทีมสังหารพร้อมผู้จ้างวานฆ่าสองแม่ลูก ใน จ.ลพบุรี โหดเกินมนุษย์ยิง 2 แม่ลูกดับ ขณะนั่งคุกเข้าร้องขอชีวิต สาเหตุจากขัดแย้งผลประโยชน์ที่ดิน นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์-ลักทรัพย์ ได้อีกหลายคดี
วันนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบัญชาการบัญชาการตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.1) พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง จตร.(สบ 7) ปฏิบัติการ ภ.1 พล.ต.ต.ปิยะ สอยตระกูล พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบก.สสภ.1 ร่วมแถลงผลการจับกุม นายบำรุง ยิ่งยง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/5 ม.7 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และ นางบุญส่ง สลุงอยู่ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/6 ม.4 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้น ขนาด 11 มม.จำนวน 1 กระบอก กระสุนขนาด 11 มม. 25 นัด และจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีแดง
พล.ต.ต.คเชนทร์กล่าวว่า จากกรณีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นางทัศนีย์ สินรักษา อายุ 40 ปี และ ด.ช.ชัยพร สุขมั่น อายุ 14 ปี บุตรชายจนเสียชีวิต ในพื้นที่ ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงเร่งติดตามมือปืนที่ก่อเหตุได้คือนายบำรุง พร้อมอาวุธปืน และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ และทำการสอบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมนางบุญส่ง ผู้จ้างวานให้ก่อเหตุ โดยนายบำรุงให้การสารภาพว่า รับว่าจ้างจากนางบุญส่งให้ไปฆ่านางทัศนีย์ ในราคา 100,000 บาท ก่อนลงมือได้วางแผนหลอกล่อผู้ตายออกไปดูที่ดินที่จะบอกขาย แต่ผู้ตายได้พาบุตรชายไปด้วย นายบำรุง เกรงว่า จะจำหน้าได้จึงใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตทั้งแม่และลูกเสียชีวิตในสภาพนั่งขุกเข่าร้องขอชีวิตอย่างโหดเหี้ยม โดยสาเหตุมาจากความขัดแย้งผลประโยชน์เรื่องที่ดิน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ยังสามารถจับกุมสองสามีภรรยาลวงรถแท็กซี่ก่อนใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ ประกอบด้วย นายแดง ทรงศิลป์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 280/5 ต.ตลาดกระทุ่มแบน องกระทุ่มแบ จ.สมุทรสาคร และ น.ส.สิรินทรา ศิลาเลิศ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.16 ต.บ้านฝาง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางรถแท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีชมพู ทะเบียน ทม 5874 กทม. กุญแจรถแท็กซี่ 1 ดอก มีดคัตเตอร์ 1 เล่ม
พล.ต.ต.คเชนทร์กล่าวว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจาก นายศามิต เงินหลวง คนขับรถแท็กซี่ ว่าถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ภายในซอยแบริ่ง 48 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงทำการสืบสวนจนทราบที่อยู่ของคนร้ายว่าพักใน ซ.ด่านสำโรง 18 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จนสามารถจับกุมสามีภรรยาที่ก่อเหตุได้ ซึ่งทั้งคู่ให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมเผยว่า ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้วถึง 3 ครั้งโดยจะทำทีล่อลวงให้แท็กซี่ไปส่งในที่เปลี่ยวจากนั้นก็จะนำอาวุธมีดจี้บังคับเพื่อชิงทรัพย์สิน
สำหรับ สภ.คลองหลวง ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์ในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้อีก 2 ราย ได้แก่ นายสมบัติ เพี้ยงแกว อายุ 50 ปี ลักขโมยเรือพร้อมเครื่องยนต์ และพายรวมมูลค่า 15,000 บาทของผู้ประสบภัยไปขายที่ท่าเรือปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในราคา 5,500 บาท อีกราย คือ นายไกรวรรณ คชทอง อายุ 30 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบพายเรือแสดงท่าทีพิรุธอยู่ภายในชุมชนสุขสมบูรณ์ ม.9 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงขอทำการตรวจค้น แต่นายไกรวรรณกลับกระโดดหนีลงน้ำ แต่ตำรวจก็ตามจับได้ในที่สุด เมื่อสอบสวนจึงทราบว่าลักเรือลำดังกล่าวมาจากในชุมชนจริงจึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
