xs
xsm
sm
md
lg

จำคุกสัปเหร่อวัดไผ่เงิน 3 ปี 4 เดือน ชี้ซากทารกมาจากการทำแท้ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุเทพ หรือรอด ชะบางบอน
ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก “สุเทพ ชะบางบอน” สัปเหร่อวัดไผ่เงิน 3 ปี 4 เดือน ทำลายซากทารกทำแท้ง ขณะที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ตัดสินจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา “ลัญฉกร” อดีตผู้ช่วยพยาบาลเปิดคลินิกทำแท้ง


วันนี้ (29 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ด.362/2554 ที่นายฤชา ไกรฤกษ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ หรือรอด ชะบางบอน อายุ 47 ปี สัปเหร่อวัดไผ่เงินโชตนาราม เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิดฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 อัตรา โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยคดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 31 ม.ค.54 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 52 จนถึงวันที่ 13 พ.ย.53 เวลากลางคืน จำเลยและนายสุชาติ หรือชาติ ภูมี ผู้ช่วยสัปเหร่อวัดไผ่เงินฯ ที่เป็นจำเลยคดีหมายเลขแดงที่ ด.307/2544 ได้ร่วมกันเอาไว้ซึ่งซากทารกจำนวน 1 ถุง แล้วนำไปซ่อนไว้ภายในช่องเก็บศพ บริเวณด้านหลังวัดไผ่เงินฯ เพื่อไม่ให้เจ้าพนักงานและบุคคลอื่นพบเห็น ซึ่งจำเลยได้กระทำการดังกล่าวต่อเนื่องกัน รวมจำนวน 348 ครั้ง เหตุเกิดที่แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. ซึ่ง พ.ต.ท.ดิลก รื่นเนตร สารวัตรสืบสวน สน.วัดพระยาไกร สามารถจับกุมได้ โดยจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน แต่ภายหลังให้การปฏิเสธในชั้นศาล อ้างว่าอ่านหนังสือไม่ออกซึ่งถูกหลอกให้ลงชื่อในบันทึกการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าจะกันไว้เป็นพยาน

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่สองฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่า โจทก์มีเจ้าอาวาสวัดไผ่เงิน ฯ เป็นพยาน เบิกความว่าก่อนพบซากศพเมื่อวันที่ 16 พ.ย.53 ได้รับการร้องเรียนว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าจากห้องเก็บศพ จึงสั่งให้จำเลยไปตรวจดูก็พบถุงพลาสติกจำนวนมาก จึงได้แจ้งความไว้ นอกจากนี้โจทก์ยังมีแพทย์ผู้ทำการตรวจซากศพ ระบุว่า แม้ซากศพจะเหม็นเน่า แต่ก็ยังสามารถนำมาตรวจพิสูจน์ได้ ขณะที่จำเลยเคยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่า รับซากทารกมาจาก น.ส.ลัญฉกร จันทมนัส อดีตผู้ช่วยพยาบาลไปเก็บ ได้ค่าตอบแทนครั้งละ 200-500 บาท และจำเลยยังพานำชี้ที่เกิดเหตุด้วย ขณะที่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม น.ส.ลัญฉกร อดีตผู้ช่วยพยาบาล และได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุก็พบอุปกรณ์ทำแท้งจำนวนมาก จึงเห็นว่าแม้จะไม่มีประจักษ์พยาน แต่ลักษณะการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำผิดกฎหมายซึ่งต้องปกปิดจึงยากที่จะมีผู้ใดล่วงรู้ ประกอบกับขณะเกิดเหตุจำเลยก็เป็นสัปเหร่อ มีหน้าที่ดูแลช่องเก็บศพ และแม้รายงานการตรวจซากศพทารกจะไม่ได้ระบุว่าถูกทำแท้ง แต่พยานแวดล้อมและหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจพบบ่งชี้ได้ว่าซากนั้นเกิดจากทำแท้ง ขณะที่พยานหลักฐานในส่วนของจำเลย ประกอบคำรับสารภาพในชั้นสอบสวน ได้ความว่าจำเลยกระทำการต่อเนื่องรับซากศพจาก น.ส.ลัญฉกร มาไว้รวม 15 ซากศพ

จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิดฯ ให้จำคุก 15 กระทง ๆ ละ 4 เดือน คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนมีประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้างเห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 15 กระทงๆ ละ 2 เดือน 20 วัน เมื่อรวมโทษแล้วให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน

ภายหลังญาติของนายสุเทพ จำเลย ได้เตรียมหลักทรัพย์มูลค่า 100,000 บาทเพื่อยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดีด้วย

ด้านนายฤชา อัยการเจ้าของสำนวน กล่าวว่า แม้ศาลลงโทษนายสุเทพ เพียง 15 กระทง เนื่องจากนายสุเทพ รับสารภาพในชั้นสอบสวนว่ารับซากเพียงบางส่วน แต่ส่วนตัวก็เห็นว่าศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว ส่วนจะอุทธรณ์หรือไม่ก็ต้องหารือกับผู้ใหญ่อีกครั้ง

ขณะที่ น.ส.บุศยภา เมณฑา พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 กล่าวว่า คดีนี้ยื่นฟ้องจำเลย รวม 348 กระทง แต่เหตุที่ศาลลงโทษเพียง 13 กระทง เนื่องจากหลักฐานชั้นสอบสวนจำเลยรับสารภาพว่ารับซากศพจาก น.ส. ลัญฉกร ครั้งแรก 2-3 ถุง เพียง 5 ครั้ง ส่วนนายสุชาติ ผู้ช่วยสัปเหร่อที่ถูกพิพากษาลงโทษก่อนหน้านี้ได้รับสารภาพไม่ได้ต่อสู้คดีในชั้นศาล จึงรับโทษทุกกระทง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ น.ส.ลัญฉกร หรือ โกะ อายุ 34 ปี อดีตผู้ช่วยพยาบาลซึ่งเปิดคลินิกทำแท้งเถื่อน ย่านหนองแขมนั้น อัยการฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 (ตลิ่งชัน) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน เป็นคดีหมายเลขดำ ด.25/2554 ในความผิดฐาน ประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต และทำให้หญิงอื่นแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 16 และ 57, พ.ร.บ.ประกอบวิชาเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 26 และ 43 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 302 ประกอบมาตรา 33 และ 91

โดยศาลจังหวัดตลิ่งชัน มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ส.ค.54 ว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องให้จำคุก 4 กระทงๆ ละ 2ปี ฐานทำให้หญิงอื่นแท้งลูกฯ, ฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุก 1 ปี และฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมฯ จำคุก 1 ปี รวมจำคุกทั้งสิ้น 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์ประกอบรายงานการสืบเสาะจำเลยแล้ว เห็นว่า เป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย กระทบต่อศีลธรรมอันดีในสังคม และยังก่อให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพอนามัยและชีวิตของผู้ทำแท้ง พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ

ส่วนนายสุชาติ ภูมี อายุ 39 ปี ผู้ช่วยสัปเหร่อวัดไผ่เงินฯ นั้น ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ให้จำคุก 2,002 กระทงๆ ละ 4 เดือน รวมจำคุก 8,008 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา เห็นควรลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกเป็นเวลา 4,004 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุก 20 ปี ตามมาตรา 91
กำลังโหลดความคิดเห็น