“บิ๊กแป๊ะ” อิงหลักป้องปราม อ้างกล้องหลอกไม่ใช่เรื่องผิด ยก “จ่าเฉย” เปรียบเทียบ!

เลขาฯ รมว.ยุติธรรม เผยดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบโครงการติดตั้งกล้อง CCTV ของ กทม. พร้อมขอข้อมูลจาก กทม.มาพิจารณาประกอบด้วย โดยจะตรวจสอบมีการฮั้วประมูลหรือไม่ มีข้าราชการและนักการเมืองปฏิบัติหน้าที่มิชอบหรือไม่ ชี้กล้องหลอก หากอิงตามหลักอาชญาวิทยาไม่ใช่เรื่องผิด สามารถทำได้เช่นเดียวกับ “จ่าเฉย” ที่ตั้งตามสี่แยกไฟแดง

วันนี้ (28 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการ รมว.ยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้ากรณีโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ของกรุงเทพมหานคร ว่าขณะนี้ดีเอสไอได้เข้าไปหาข้อมูลต่อ กทม.แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่มีความสลับซับซ้อน และยังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบ เพราะต้องการนำข้อเท็จจริงทั้งหมดมาแถลงให้ประชาชนทราบ เนื่องจากเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจ

เมื่อถามว่าจะเรียกผู้ว่าฯ กทม. หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง หรือทีโออาร์ มาให้สอบถามหรือไม่ พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวว่า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษของดีเอสไอ ได้ไปยื่นหนังสือให้ทาง กทม.ส่งข้อมูลมาให้ดีเอสไอ โดยหลักแล้วต้องให้เกียรติหน่วยราชการด้วยกัน

ทั้งนี้ เมื่อสังคมตั้งข้อสงสัยเราก็ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น แต่ยังไม่เป็นคดี โดยจะมุ่งพิจารณาประเด็นมีการฮั้วประมูลหรือไม่ มีการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องชอบธรรมตามระเบียบราชการหรือไม่ มีข้าราชการของรัฐและข้าราชการการเมือง รายใดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่

นอกจากนี้ มีการสืบสวนบริษัทที่เกี่ยวข้องและพลเมืองดีเข้ามาให้ข้อมูลบ้างเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการใช้กล้องดัมมี่ หรือกล้องหลอกนั้น ตามหลักการอาชญาวิทยาที่เป็นการป้องปรามนั้นไม่ใช่เรื่องผิด สามารถทำได้เช่นเดียวกับ “จ่าเฉย” ที่ตำรวจตั้งไว้ตามสี่แยกไฟแดง แต่เราจะเน้นตรวจสอบเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างว่าตรงไปตรงมาหรือไม่ ซึ่งทราบว่าทาง ป.ป.ช.ก็ได้รับเรื่องเดียวกันนี้ไว้ตรวจสอบเช่นกัน