xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ตามรวบ 2 โจรขึ้นบ้าน “ปุ้ย พิมลวรรณ”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาโดยมี ปุ้ย พิมลวรรณ พิธีกรรายงารผู้หญิงถึงผู้หญิงมาร่วมการแถลงข่าวด้วย
ตำรวจตามจับกุมตัว 2 คนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ภายใน บริษัทชัช นักเก็ต จำกัด ของพิธีกรสาว “ปุ้ย พิมลวรรณ” พร้อมของกลางหลายรายการ สารภาพก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งเพื่อแลกยาบ้ามาเสพ

วานนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ สน.โคกคราม พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.กรณกิตฐ์ คำชู รอง ผกก.ปป.สน.โคกคราม พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม พ.ต.ต.จุมพลสินศิริพงษ์ สว.สส.สน.โคกคราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 ประกอบด้วย พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรมัย ผกก.กก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.คณาวิทย์ ถานะวุฒิพงษ์ พ.ต.ต.เผด็จ งามละม่อม สว.กก.สส.บก.น.2 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวรมิตร ชื่อเดิม ศักดิ์ชาติ บุญช่วย หรือหนุ่ย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ซ.หัวหมาก 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1346/2554 ลงวันที่ 23 ส.ค. 2554 ส่วนผู้ต้องหาอีกคน คือ น.ส.สุกานดา ทาอาสา หรืออุ๋ย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 ม.4 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ทั้งสองเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์บ้านของ ปุ้ย-พิมลวรรณ หุ่นทองคำ โดยถูกจับได้พร้อมของกลางหน้าจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์ขนาด 17 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ซีพียูยี่ห้อซัมซุง สีดำ จำนวน 1 เครื่อง จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ สีเหลือง ทะเบียน 485 กทม.จำนวน 1 คัน ไขควงปากแบน 2 อัน คีมเล็กและคีมล็อกปากตายจำนวน 2 อัน

โดย พ.ต.อ.สราวุธกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 04.25 น.วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งสองได้ร่วมกันเข้าไปทำการก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบริษัท ชัช นักเก็ต จำกัด เลขที่99/2 ถ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. ซึ่งผู้ต้องหาได้ทรัพย์สินเป็นของกลางดังกล่าวแล้วหลบหนีไป จากการตรวจสอบภาพคนร้ายด้วยกล้องวงจรปิดภายในบริษัทฯ ที่สามารถจับภาพ และตำหนิรูปพรรณของนายวรมิตรได้ จึงเป็นแนวทางในการสืบสวนหา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยื่นขออนุมัติออกหมายจับนายวรมิตร หมายจับของศาลอาญา ที่ 1346/2554 ลงวันที่ 23 ส.ค. 2554 จากนั้นจึงทำการสืบสวนหาข่าวจากสายลับเรื่อยมา และได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ประกอบด้วย พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.ธารา เครือละม้าย สว.สส.สน.หัวหมาก และพ.ต.ท.หัสดินทร์ นพวงศ์ ณ อยุธยา สว.สส.สน.หัวหมาก ในการร่วมกันสืบหาข่าวจนในที่สุดได้พบบุคคลที่มีรูปพรรณสัณฐาน คล้ายนายวรมิตร ซึ่งปรากฏตัวอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมอินคา ซ.รามคำแหง 53 แขวงหัวหมาก เขตหัวหมาก กทม. จึงวางแผนและเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจสอบแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงนำภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดมาให้นายวรมิตรดู จึงยอมรับสารภาพว่าคนในภาพดังกล่าวเป็นตนจริง โดยได้เข้าไปลักทรัพย์ร่วมกับ น.ส.สุกานดา และขณะนี้ น.ส.สุกานดาได้หลบหนีไปอยู่ที่อำเภอคลองลาน จ.กำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้ที่ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การับสารภาพว่าเข้าไปลักทรัพย์จริง และนำของที่ได้ไปแลกยาเสพติดมาเสพ

พ.ต.อ.สราวุธกล่าวต่อว่า สำหรับนายวรมิตรนั้นเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีข้อหารับของโจร ท้องที่ สน.บางชัน เมื่อปี 2540 และถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.หัวหมาก เมื่อปี 2553 และยังยอมรับว่าเคยร่วมกับ น.ส.สุกานดาก่อเหตุลักทรัพย์ร้านอาหารบริเวณหน้าสถานทูตกัมพูชามาแล้วด้วย

จากการสอบสวนนายวรมิตให้การับสารภาพว่า เคยลักทรัพย์มาหลายครั้งแล้ว และทุกครั้งที่ได้สิ่งของมีค่ามาก็จะนำไปแลกยาเสพติดมาเสพ ส่วนสาเหตุที่ตนเลือกบ้านหลังดังกล่าวเนื่องจากเหมาะกับการลงมือ เพราะด้านหลังบ้านมืด มีต้นไม้ปกคลุมปิดบัง ประกอบกับโซ่ที่คล้องประตูก็ไม่แข็งแรงจึงตัดสินใจลงมือ ส่วน น.ส.สุกานดานั้นได้รู้จักกับตนที่ร้านขายคอมพิวเตอร์ และตนได้ชักชวนมาร่วมก่อเหตุด้วย และต้องขอโทษเจ้าของบ้านด้วยที่ได้สร้างความเดือดร้อนให้

ด้านปุ้ย พิมลวรรณ หุ่นทองคำ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้นำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีจนได้ และขอฝากเตือนถึงประชาชนทั่วไปด้วยว่าอยากให้ดูแลและป้องกันทรัพย์สินของแต่ละคนเอาไว้ให้ดี เพราะหากเกิดเหตุขึ้นก็อาจมีเหตุซ้ำซากตามมาเหมือนตนก็ได้

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้งสองไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริษัท ชัช นักเก็ต จำกัด เลขที่ 99/2 ถ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. โดยใช้เวลาในการทำแผนประมาณ 30 นาที

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากับทั้งสองในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ และนำตัวไปดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น