xs
xsm
sm
md
lg

DSI ยังรอ “กี้ร์-เจ๊เพ็ญ” มอบตัว - 17 สิงหานัดโจกแดงแจ้งข้อหาล้มเจ้า

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

อธิบดีเอสไอพร้อมรับการเข้ามอบตัวของแกนนำ นปช.กลุ่มฮาร์ดคอร์ “ไอ้กี้ร์-เจ๊เพ็ญ” แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากแกนนำที่หลบหนีแม้แต่คนเดียว พร้อมย้ำ 17 ส.ค.นี้เป็นวันนัดหมายแกนนำ นปช.19 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีล้มเจ้า เผยแกนนำที่เป็น ส.ส.จะเข้ารายงานตัวหรือไม่ ถือเป็นสิทธิแต่ละคน เพราะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองตามกฎหมาย

วันนี้ (4 ส.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย และจะได้รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยในเร็วๆ นี้นั้น ล่าสุดทางแกนนำคนสำคัญของ นปช.ที่ยังหลบหนีคีดก่อการร้าย โดยตั้งแต่เกิดเหตุสลายการชุมนุม 19 พ.ค.53 เช่น นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายจักรภพ เพ็ญแข นั้น ยังไม่มีการติดต่อขอมอบตัวกับดีเอสไอแม้แต่คนเดียว ซึ่งทางตนเองก็พร้อมรับการมอบตัวในฐานะเจ้าพนักงานอยู่แล้ว

นอกจากนี้ นายธาริตกล่าวถึงความคืบหน้าการแจ้งข้อกล่าวหาคดีหมิ่นเบื้องสูง (ล้มเจ้า) กับแกนนำ นปช.ทั้ง 19 คนว่า ดีเอสไอได้นัดให้แกนนำ นปช.ทั้งหมดเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 17 ส.ค.นี้เช่นเดิม ส่วนแกนนำ นปช.รายใดที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)และมีหนังสือรับรองอย่างเป็นทางการแล้วจะมารายงานตัวต่อดีเอสไอหรือไม่ก็ได้ ถือว่าเป็นสิทธิของแต่ละท่าน เพราะการเป็น ส.ส.จะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อหานายอริสมันต์ถูกหมายจับ 4 หมายจับ และพ่วงด้วยคดีล้มละลายอีก 1 คดี โดย 13 มี.ค.53 ถูกออกหมายจับ ฐานผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่ก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 กรณีที่ปราศรัยในการชุมนุมคนเสื้อแดงที่กองทัพบก เมื่อวันที่ 29 ม.ค.53 และที่เวทีความจริงสัญจร ลานน้ำพุบึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ม.ค.53 โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นการชี้ชวนประชาชนให้ก่อความไม่สงบตามสถานที่ราชการ องค์กรอิสระ และบุคคลสำคัญ ตามที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเสนอ

8 เม.ย.53 ถูกออกหมายจับ ฐานผิด พ.ร.ก.การบริหารราชการภายในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตรา 11 (1 ) และความผิดข้อหาร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ กักขังหน่วงเหนี่ยว และข่มขู่ กรณีบุกรุกรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ตามที่กองปราบปรามเสนอ

6 พ.ค.53 ศาลออกหมายจับ ข้อหาความผิดก่อการร้าย ขู่บังคับรัฐบาล ประทุษร้ายต่อประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ และการกระทำต่ออาวุธยุทธภัณฑ์ของทางราชการ ข้อหาสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามที่ดีเอสไอเสนอ

26 พ.ค.53 ศาลอาญาออกหมายจับฐานหนีคดี ที่ถูกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฟ้องฐานหมิ่นประมาท กรณีขึ้นปราศรัยเวทีชุมนุมคนเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และที่ทำเนียบรัฐบาล กล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์เป็นต้นเหตุทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระอาการประชวร และเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการปล้นอำนาจประชาชน เป็นผู้สั่งการให้ฆ่าประชาชน

นอกจากนั้น นายอริสมันต์ยังมีคดีล้มละลายติดตัว กรณีที่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย เจ้าหนี้ ยื่นฟ้องเรื่องขอให้พิทักษ์ทรัพย์ มูลค่า 17 ล้านบาท

ส่วนของนายจักรภพ เพ็ญแข โดยวันที่ 24 มี.ค. 2551 พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางมด ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล พนักงานสอบสวน (สบ 2) กลุ่มงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีที่ นายจักรภพ แถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟทีทีซี) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง มีการกล่าวถึงระบบราชาธิปไตยเปรียบเทียบกับประชาธิปไตย ระบบอุปถัมภ์กับสังคมไทย มีเนื้อหาว่า “ตนอยากให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแบบไม่มีพระมหากษัตริย์” โดยนำแผ่นดีวีดีบันทึกการแถลงข่าวพร้อมกับเอกสารคำแปลภาษาจากอังกฤษเป็นภาษาไทยตามเนื้อหาในแผ่นดีวีดีดังกล่าว มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ คดีของนายจักรภพยังอยู่ในชั้นพิจารณาในชั้นศาล
(แฟ้มภาพ) ไอ้กี้ร์ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ในวันที่หลบหนีการจับกุม
นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นพระมหากษัตริย์
กำลังโหลดความคิดเห็น