ชาวบ้านจังหวัดอุดรธานี ร้องขอความเป็นธรรมกระทรวงยุติธรรม หลังตกเป็นเหยื่อถูกเจ้าหน้าที่สินเชื่อแบงก์ออมสินหลอกว่าจะช่วยกู้เงินโครงการสินเชื่อไทรทองได้ แต่ต้องเสียค่านายหน้า รวมค่าเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ขณะที่ "ทวี สอดส่อง" เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอลงรวบรวมหลักฐานเอาผิดเจ้าหน้าที่ธนาคารต่อไป
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นางทองขาว กองดี อายุ 44 ปี อาชีพแม่ค้า อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 2 ต.ศรีสำราน อ.น้ำโสม และชาวบ้านใน จ.อุดรธานี ประมาณ 50 คน ได้เข้าพบขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านบริหารความยุติธรรม และ พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม หลังตกเป็นเหยื่อถูกเจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคารออมสินหลอกสูญเงินกว่า 20 ล้านบาท
พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า สำหรับประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ จำนวน 50 ราย เป็นคนในอำเภอน้ำโสม อำเภอบ้านผือ อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี เสียทรัพย์สินเงินทองไปกว่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้ ก่อนที่ชาวบ้านจะตกเป็นเหยื่อช่วงปี 2547 ธนาคารออมสินได้จัดตั้งโครงการสินเชื่อไทรทองอเนกประสงค์ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่มีรายได้แน่นอน หลังจากโครงการเปิดตัวขึ้นได้มีนายสมบัติ พลเยี่ยม อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารออมสิน สาขาน้ำโสม จ.อุดรธานี ได้เข้ามาติดต่อชาวบ้านในอำเภอที่มีที่นาให้ไปยื่นขอกู้เงินของโครงการดังกล่าว โดยออกอุบายว่าถ้ากู้กับตนแค่สัปดาห์เดียวก็อนุมัติแล้ว แต่ต้องเสียค่านายหน้า ซึ่งชาวบ้านจึงหลงเชื่อยอมเซ็นชื่อยินยอมนำโฉนดที่ดินมาจำนอง บางรายจำนองได้ 6 แสนบาท ก็ต้องให้นายสมบัติ 2 แสนบาทเป็นค่าวิ่งเต้น บางรายถูกหลอกได้เงินมา 6-7 แสนบาท ถูกหลอกนำไปลงทุนสร้างบ้านขาย ซึ่งสุดท้ายแล้วนายสมบัติก็เชิดเงิน
รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยขอร้องให้ชาวบ้านรวมตัวกันพร้อมกับให้ข้อมูลและหลักฐานในการกู้ยืมอย่างครบถ้วน เพื่อจะได้นำเอกสารหลักฐานยื่นฟ้องนายสมบัติ เจ้าหน้าที่สินเชื่อที่หลอกลวงในการช่วยเหลือชาวบ้านได้ให้กองทุนยุติธรรมเข้ามาดูเรื่องเงินค่าจ้างทนายความ ส่วนทางธนาคารออมสินได้ส่งตัวแทนมาเจรจารับข้อมูลทั้งหมดของชาวบ้านไว้แล้ว ซึ่งขอเวลา 3 เดือน เพื่อนำไปพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณช่วงเดือนมกราคม 2554 ทางชุดทำงานของดีเอสไอ ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลกับชาวบ้านมาแล้วพร้อมกับเคยคุยกับผู้จัดการธนาคารออมสินสาขานี้แล้ว ซึ่งมีการรับปากว่าจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจ จนเวลาล่วงเลยผ่านไป 6 เดือน ก็ยังไม่มีการช่วยเหลือชาวบ้านแถมชาวบ้านบางรายถูกธนาคารออมสินฟ้องศาลอีกต่างหาก จึงทำให้พวกชาวบ้านเดือดร้อนจึงเดินทางมากระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมอีกครั้ง ส่วนนายสมบัติ เจ้าหน้าที่ธนาคารได้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ขณะนี้เรื่องอยู่ที่อัยการจังหวัดอุดรธานี
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นางทองขาว กองดี อายุ 44 ปี อาชีพแม่ค้า อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 2 ต.ศรีสำราน อ.น้ำโสม และชาวบ้านใน จ.อุดรธานี ประมาณ 50 คน ได้เข้าพบขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านบริหารความยุติธรรม และ พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม หลังตกเป็นเหยื่อถูกเจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคารออมสินหลอกสูญเงินกว่า 20 ล้านบาท
พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า สำหรับประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ จำนวน 50 ราย เป็นคนในอำเภอน้ำโสม อำเภอบ้านผือ อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี เสียทรัพย์สินเงินทองไปกว่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้ ก่อนที่ชาวบ้านจะตกเป็นเหยื่อช่วงปี 2547 ธนาคารออมสินได้จัดตั้งโครงการสินเชื่อไทรทองอเนกประสงค์ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่มีรายได้แน่นอน หลังจากโครงการเปิดตัวขึ้นได้มีนายสมบัติ พลเยี่ยม อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารออมสิน สาขาน้ำโสม จ.อุดรธานี ได้เข้ามาติดต่อชาวบ้านในอำเภอที่มีที่นาให้ไปยื่นขอกู้เงินของโครงการดังกล่าว โดยออกอุบายว่าถ้ากู้กับตนแค่สัปดาห์เดียวก็อนุมัติแล้ว แต่ต้องเสียค่านายหน้า ซึ่งชาวบ้านจึงหลงเชื่อยอมเซ็นชื่อยินยอมนำโฉนดที่ดินมาจำนอง บางรายจำนองได้ 6 แสนบาท ก็ต้องให้นายสมบัติ 2 แสนบาทเป็นค่าวิ่งเต้น บางรายถูกหลอกได้เงินมา 6-7 แสนบาท ถูกหลอกนำไปลงทุนสร้างบ้านขาย ซึ่งสุดท้ายแล้วนายสมบัติก็เชิดเงิน
รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยขอร้องให้ชาวบ้านรวมตัวกันพร้อมกับให้ข้อมูลและหลักฐานในการกู้ยืมอย่างครบถ้วน เพื่อจะได้นำเอกสารหลักฐานยื่นฟ้องนายสมบัติ เจ้าหน้าที่สินเชื่อที่หลอกลวงในการช่วยเหลือชาวบ้านได้ให้กองทุนยุติธรรมเข้ามาดูเรื่องเงินค่าจ้างทนายความ ส่วนทางธนาคารออมสินได้ส่งตัวแทนมาเจรจารับข้อมูลทั้งหมดของชาวบ้านไว้แล้ว ซึ่งขอเวลา 3 เดือน เพื่อนำไปพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณช่วงเดือนมกราคม 2554 ทางชุดทำงานของดีเอสไอ ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลกับชาวบ้านมาแล้วพร้อมกับเคยคุยกับผู้จัดการธนาคารออมสินสาขานี้แล้ว ซึ่งมีการรับปากว่าจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจ จนเวลาล่วงเลยผ่านไป 6 เดือน ก็ยังไม่มีการช่วยเหลือชาวบ้านแถมชาวบ้านบางรายถูกธนาคารออมสินฟ้องศาลอีกต่างหาก จึงทำให้พวกชาวบ้านเดือดร้อนจึงเดินทางมากระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมอีกครั้ง ส่วนนายสมบัติ เจ้าหน้าที่ธนาคารได้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ขณะนี้เรื่องอยู่ที่อัยการจังหวัดอุดรธานี