xs
xsm
sm
md
lg

“กษิต” รายงานตัวกองปราบฯ ลั่นจะขอความเป็นธรรม ชี้ข้อหาแรงเกินจริง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เดินทางรายงานตัวกองปราบฯ
“กษิต ภิรมย์” รมว.ต่างประเทศเข้ารายงานตัวกับกองปราบฯ หลังตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับพันธมิตรฯ ชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ และโดนแจ้งไป 7 ข้อกล่าวหาแต่ไม่มีข้อหาก่อการร้ายก่อนหน้านี้ โดยเจ้าตัวเผยเดินทางมาครั้งนี้เพื่อส่งฟ้องคดี และจะยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการ เพราะข้อหาที่แจ้งมารุนแรงเกินความเป็นจริง ขณะที่อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 15 ส.ค.นี้


วันนี้ (22 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ กองปราบปราม นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเข้ารายงานตัวต่อ พ.ต.ท.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวน (สบ 4) กก.1 บก.ป. หลังจากตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง โดยถูกดำเนินคดีฐาน 1.กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดอันไม่ใช่ความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความเห็นติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล 2.มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 3.กระทำการอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น 4.ฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งของผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 5.ทำลายหรือทำให้เสียหายต่อสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยาน หรือทำให้การบริการหยุดชะงัก

6.กระทำด้วยประการใดๆ ให้ทางสาธารณะอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตราย 7.กระทำการด้วยประการใดๆ ให้การสื่อสารสาธารณะทางไปรษณีย์ขัดข้อง และ 8.ทำให้เสียหาย เสื่อมค่าหรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย โดยไม่มีข้อหาก่อการร้าย ซึ่งนายกษิต ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดไปแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมกับให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เสร็จสิ้นแล้วจึงนำนายกษิต ไปส่งฟ้องต่ออัยการฝ่ายคดีอาญา โดยนายกษิตกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เดินทางมารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนเพื่อส่งฟ้องคดี ซึ่งตนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามจะยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ เนื่องจากข้อกล่าวหาที่ถูกแจ้งดำเนินคดีเป็นข้อหาที่รุนแรงเกินกว่าความเป็นจริง จากนั้นนายกษิตได้ขึ้นรถตู้เดินทางออกไปทันที

ทั้งนี้ สำหรับคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมหน้าสนามบินทั้งสองแห่งนั้น ทาง พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 114 ราย โดยบางรายพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องในข้อหาก่อการร้าย เช่น นายกษิต ต่อมาพนักงานสอบสวนได้นัดผู้ต้องหาให้เข้ารายงานตัวส่งฟ้องต่ออัยการ พร้อมสำนวนคดีดังกล่าว ก่อนหน้านี้มีผู้ต้องหาทั้งกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ และไม่ใช่แกนนำพันธมิตรฯ ได้เดินทางเข้ารายงานตัวและส่งฟ้องคดีต่ออัยการไปแล้ว คงเหลือผู้ต้องหาเพียงบางส่วน เช่น นายพินิจ สิทธิโห อดีต ส.ส.เลย กับนายสุชาติ ศรีสังข์ ที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว แต่ยังไม่มาเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนเพื่อส่งฟ้องคดี ซึ่งในส่วนนี้ทางอัยการจะแจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบถึงขั้นตอนการพิจารณาดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาในคดีที่ถูกออกหมายจับไว้อีก 17 รายที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ รวมทั้งยังไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัว โดยเป็นผู้ต้องหาที่มีรายชื่อ 3 ราย ประกอบด้วย นายปราโมทย์ นาครทรรพ นายสมชาย วงศ์เวช และนายไชยพร เกิดมงคล หรือจุ๋ม ด่านเกวียน ส่วนที่เหลืออีก 14 ราย เป็นการออกหมายจับบุคคลตามภาพ

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พนักงานสอบสวน กองปราบปราม ได้นำตัวนายกษิต พร้อมสำนวนความเห็นสั่งฟ้องในข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเดือน พ.ย.51 ส่งให้นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เพื่อพิจารณาสั่งคดีต่อไป โดยนายกษิตได้ยื่นหนังสือคำร้องขอความเป็นธรรมให้อัยการพิจารณาสอบพยานเพิ่มเติมด้วย

ทั้งนี้ อัยการรับคดีไว้พิจารณาและนัดผู้ต้องหามาฟังคำสั่งคดีในวันที่ 15 ส.ค.นี้
กษิต ภิรมย์ บอกจะยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการ เพราะข้อหาที่ถูกกล่าวหารุนแรงกว่าความเป็นจริง





กำลังโหลดความคิดเห็น