หากพูดถึงชื่อ “จตุพร พรหมพันธุ์” ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 8 พรรคเพื่อไทย จำเลยในคดีก่อการร้าย และผู้ถูกกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูง เชื่อแน่ว่าหลายคนอยู่ระหว่างรอคำตอบสุดท้ายว่า"จตุพร"เขาจะได้การรับรองสิทธิให้เป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติหรือไม่? และหลังเขาได้รับสิทธิ เขาจะมีตำแหน่งใน ครม. “ยิ่งลักษณ์ 1” หรือไม่?
วันนี้ “จตุพร” เขาอยู่ระหว่างถูกคุมขังตามหมายศาลในคดีก่อการร้าย หลังจากเขาถูกศาลถอนประกัน เมื่อวันที่ 12 เม.ย.54 จากเหตุศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนแปลง กรณีเขาพูดปราศรัยบนเวที นปช.เมื่อวันที่ 10 เม.ย.54 ด้วยข้อความหมิ่นเหม่ เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง โดยมี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผบ.ทบ. คือผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ตำรวจดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
ช่วงเลือกตั้ง “จตุพร” เขาไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมทั้ง เขาถูกยกคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราวที่ทนายความยื่นต่อศาลในหลายครั้ง หลายครา ภายใต้เหตุผลของศาล เหตุผลเดียวกันคือ...“ความผิดที่ถูกกล่าวหามีโทษสถานหนัก พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง มีเหตุอันควรเชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลย จำเลยอาจก่อให้เกิดอันตรายกระทบต่อความสงบเรียบร้อย จึงยังไม่มีเหตุสมควรปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง”
ทันทีที่ผลการเลือกตั้ง ไพร่แดงยึดประเทศ พรรคเพื่อไทย ชนะถล่มทลาย และได้เป็นรัฐบาลชัวร์ๆ"จตุพร พรหมพันธุ์"เขาคือวีรบุรุษของคนเสื้อแดง โดยหัวโจกแดงผู้น้อง “นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถึงกับออกมาประกาศศักดาว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ “จตุพร พรหมพันธุ์” หัวโจกแดงผู้พี่ออกจากคุกให้ได้ รวมทั้งจะต้องได้การรับรองสิทธิความเป็น ส.ส.จาก กกต.โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
การทวงถามสิทธิความเป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เริ่มจาก 4 ก.ค.หลังเลือกตั้งเพียง 1 วัน “จตุพร พรหมพันธุ์” ได้มอบหมายให้ “นายวิญญัติ ชาติมนตรี” ทนายความไปยื่นคำร้องต่อสำนักงานเขตวังทองหลาง ในฐานะนายทะเบียนท้องถิ่น ถึงสาเหตุที่นายจตุพร ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ได้ เนื่องจากถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ระหว่างรอการพิจารณาคดีที่ตกเป็นจำเลยในคดีร่วมกันก่อการร้าย
ถัดมา 8 ก.ค.ผลการยื่นรักษาสิทธิ นายทะเบียนท้องถิ่นได้มีหนังสือตอบกลับมายังทนายความว่า นายจตุพร มีเหตุผลเพียงพอที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ จึงไม่เสียสิทธิในการเลือกตั้ง โดย ทนายความ นปช.ได้มองข้ามช็อตไปถึงการพิจารณาของ กกต.ว่าจะทำให้นายจตุพร ไม่เสียสิทธิความเป็น ส.ส.โดยเขาจะรอหนังสือการรับรองสิทธิความเป็น ส.ส.จาก กกต.ก่อนจะนำมาประกอบการยื่นขอประกันตัว นายจตุพร ต่อศาลอาญาอีกครั้ง
ใช่ประเด็นการเสียสิทธิหรือไม่? เรื่องนี้ถือว่ายังไม่จบแค่ นายทะเบียนท้องถิ่น และเรื่องนี้มีแนวโน้มสูง ที่จะถูกส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความไว้เป็นบรรทัดฐาน
แต่ที่ถือว่าแปลกสุดๆสำหรับประเทศไทย ก็คือเมื่อ... รัฐธรรมนูญมาตรา 100 กำหนดว่า ผู้ที่ถูกคุมขังโดยหมายของศาล หรือคำสั่งที่ชอบโดยกฎหมาย เป็นผู้ต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะที่มาตรา 26 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง กำหนดว่า ผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องเสียสิทธิการสมัครรับเลือกตั้ง แต่เหตุไฉน ท่านว่าที่ ส.ส.จตุพร พรหมพันธุ์ จึงไม่เสียสิทธิละครับ ท่านนายทะเบียนท้องถิ่น
จากเรื่องของ “จตุพร พรหมพันธุ์” ทำให้ประชาชนคนไทย ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า คนอยู่ในคุกที่กระทำความผิดสถานหนักปลุกระดมผู้คนเผาบ้านเผาเมือง พูดจาบจ้วงเบื้องสูง กลับมีสิทธิ แต่เหตุไฉนประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่มีสิทธิเลือกตั้ง และพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ให้กับประเทศเลย แต่ทำไมจึงถูกตัดสิทธิไม่ให้สิทธิในการกาบัตรลงคะแนนเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เพียงแต่มีปัญหาคลาดเคลื่อนเรื่องความเข้าใจผิด เกี่ยวกับการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตที่มีจำนวนประชาชนผู้เสียสิทธิมากนับ 1 ล้านคน หรือว่าเสียงผู้บริสุทธิ์ล้านเสียง แลกกับ 1 ที่นั่งของ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ “จตุพร พรหมพันธุ์” เรื่องนี้ กกต.โปรดชี้แจงด้วยว่า บ้านนี้เมืองนี้มันกำลังเกิดอะไรขึ้น!!?
วันนี้ “จตุพร” เขาอยู่ระหว่างถูกคุมขังตามหมายศาลในคดีก่อการร้าย หลังจากเขาถูกศาลถอนประกัน เมื่อวันที่ 12 เม.ย.54 จากเหตุศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนแปลง กรณีเขาพูดปราศรัยบนเวที นปช.เมื่อวันที่ 10 เม.ย.54 ด้วยข้อความหมิ่นเหม่ เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง โดยมี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผบ.ทบ. คือผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ตำรวจดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
ช่วงเลือกตั้ง “จตุพร” เขาไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมทั้ง เขาถูกยกคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราวที่ทนายความยื่นต่อศาลในหลายครั้ง หลายครา ภายใต้เหตุผลของศาล เหตุผลเดียวกันคือ...“ความผิดที่ถูกกล่าวหามีโทษสถานหนัก พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง มีเหตุอันควรเชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลย จำเลยอาจก่อให้เกิดอันตรายกระทบต่อความสงบเรียบร้อย จึงยังไม่มีเหตุสมควรปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง”
ทันทีที่ผลการเลือกตั้ง ไพร่แดงยึดประเทศ พรรคเพื่อไทย ชนะถล่มทลาย และได้เป็นรัฐบาลชัวร์ๆ"จตุพร พรหมพันธุ์"เขาคือวีรบุรุษของคนเสื้อแดง โดยหัวโจกแดงผู้น้อง “นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถึงกับออกมาประกาศศักดาว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ “จตุพร พรหมพันธุ์” หัวโจกแดงผู้พี่ออกจากคุกให้ได้ รวมทั้งจะต้องได้การรับรองสิทธิความเป็น ส.ส.จาก กกต.โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
การทวงถามสิทธิความเป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เริ่มจาก 4 ก.ค.หลังเลือกตั้งเพียง 1 วัน “จตุพร พรหมพันธุ์” ได้มอบหมายให้ “นายวิญญัติ ชาติมนตรี” ทนายความไปยื่นคำร้องต่อสำนักงานเขตวังทองหลาง ในฐานะนายทะเบียนท้องถิ่น ถึงสาเหตุที่นายจตุพร ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ได้ เนื่องจากถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ระหว่างรอการพิจารณาคดีที่ตกเป็นจำเลยในคดีร่วมกันก่อการร้าย
ถัดมา 8 ก.ค.ผลการยื่นรักษาสิทธิ นายทะเบียนท้องถิ่นได้มีหนังสือตอบกลับมายังทนายความว่า นายจตุพร มีเหตุผลเพียงพอที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ จึงไม่เสียสิทธิในการเลือกตั้ง โดย ทนายความ นปช.ได้มองข้ามช็อตไปถึงการพิจารณาของ กกต.ว่าจะทำให้นายจตุพร ไม่เสียสิทธิความเป็น ส.ส.โดยเขาจะรอหนังสือการรับรองสิทธิความเป็น ส.ส.จาก กกต.ก่อนจะนำมาประกอบการยื่นขอประกันตัว นายจตุพร ต่อศาลอาญาอีกครั้ง
ใช่ประเด็นการเสียสิทธิหรือไม่? เรื่องนี้ถือว่ายังไม่จบแค่ นายทะเบียนท้องถิ่น และเรื่องนี้มีแนวโน้มสูง ที่จะถูกส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความไว้เป็นบรรทัดฐาน
แต่ที่ถือว่าแปลกสุดๆสำหรับประเทศไทย ก็คือเมื่อ... รัฐธรรมนูญมาตรา 100 กำหนดว่า ผู้ที่ถูกคุมขังโดยหมายของศาล หรือคำสั่งที่ชอบโดยกฎหมาย เป็นผู้ต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะที่มาตรา 26 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง กำหนดว่า ผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องเสียสิทธิการสมัครรับเลือกตั้ง แต่เหตุไฉน ท่านว่าที่ ส.ส.จตุพร พรหมพันธุ์ จึงไม่เสียสิทธิละครับ ท่านนายทะเบียนท้องถิ่น
จากเรื่องของ “จตุพร พรหมพันธุ์” ทำให้ประชาชนคนไทย ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า คนอยู่ในคุกที่กระทำความผิดสถานหนักปลุกระดมผู้คนเผาบ้านเผาเมือง พูดจาบจ้วงเบื้องสูง กลับมีสิทธิ แต่เหตุไฉนประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่มีสิทธิเลือกตั้ง และพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ให้กับประเทศเลย แต่ทำไมจึงถูกตัดสิทธิไม่ให้สิทธิในการกาบัตรลงคะแนนเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เพียงแต่มีปัญหาคลาดเคลื่อนเรื่องความเข้าใจผิด เกี่ยวกับการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตที่มีจำนวนประชาชนผู้เสียสิทธิมากนับ 1 ล้านคน หรือว่าเสียงผู้บริสุทธิ์ล้านเสียง แลกกับ 1 ที่นั่งของ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ “จตุพร พรหมพันธุ์” เรื่องนี้ กกต.โปรดชี้แจงด้วยว่า บ้านนี้เมืองนี้มันกำลังเกิดอะไรขึ้น!!?