xs
xsm
sm
md
lg

ตร. รอหมอมุกชี้ตัวคนผิดแท้จริง -คาด 2 วันรู้ผลตรวจเสื้อผ้า "พ.อ."

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

หมอมุกอาการดีขึ้นเป็นลำดับ คาดพรุ่งนี้ออกจากห้องไอซียูได้
รองผบก.น.1 คาด 2-3 วันจะได้ข้อสรุปผลตรวจสอบเสื้อผ้า "พ.อ." ตรงกับคนที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ในวันเกิดเหตุหรือไม่ พร้อมรอผลตรวจลายนิ้วมือลูกสาว ย้ำขอแค่หมอมุกสื่อสารบอกเล่าเหตุการณ์ได้ หรือชี้ตัวคนผิดที่แท้จริงได้ ทุกอย่างจะชัดเจน ยันไม่มีการช่วยปกปิด -เปลี่ยนแปลงแก้ไขคดีแน่ โดยการแจ้งข้อหาใดต้องอยู่ที่พยานหลักฐานข้อเท็จจริงเป็นหลัก ส่วนลูก "พ.อ." ยังไม่มาให้ปากคำ อ้างติดสอบ

วันนี้(30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.50 น. พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รองผบก.น.1 เปิดเผยความคืบหน้าคดีของพ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก แพทย์ประจำคลินิคผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฎเกล้า ว่า ขณะนี้การสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งเหลือเพียงรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐาน และการสอบปากคำลูกสาวของพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น และหมอมุกซึ่งเป็นพยานปากสำคัญ ส่วนลูกสาวของพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่ได้นัดหมายว่าจะเข้าให้ปากคำวันไหนและสถานที่ใด ซึ่งในการสอบปากคำสามารถสอบปากคำในสถานที่ที่เหมาะสมที่ใดก็ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมาที่สน.พญาไท โดยจะพิจารณาจากความเหมาะสม ความเป็นธรรม ความสะดวกและไม่ถูกรบกวน เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและยุติธรรม

พ.ต.อ.วีรวิทย์ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่ลูกสาวของพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่มาให้ปากคำนั้น เป็นเพราะติดสอบ ไม่มีเวลาเดินทางมา ประกอบกับมีผู้สื่อข่าวมารอถ่ายภาพทำข่าวจำนวนมาก เลยเกิดความกลัว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกันว่าจะเดินทางไปสอบปากคำที่ไหน เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ส่วนเรื่องการแจ้งข้อหาขณะนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาใดๆได้ เนื่องจากต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนพอสมควรว่าพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้กระทำความผิดจริง เนื่องจากในวันแรกที่เข้ามาให้ปากคำพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ บอกกับทางตำรวจว่าเป็นเพียงคนดูแลรถ ไม่ได้เป็นคนขับรถพุ่งชนหมอมุก แต่ภายหลังกลับคำให้การในวันเดินทางเข้ามอบตัว โดยบอกว่าเป็นผู้ขับรถในวันที่เกิดเหตุ ซึ่งคำให้การขัดกัน ตำรวจจึงต้องมีหน้าที่หาพยานหลักฐานมายืนยัน เพื่อให้เกิดความกระจ่าง แต่กระบวนการตรงนี้มันยังไม่สมบูรณ์ จะแจ้งข้อหาอะไรก็ต้องอยู่ที่ข้อเท็จจริง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานที่ขณะนี้ยังไม่มีความกระจ่าง เนื่องจากต้องรอหลักฐานลายนิ้วมือของลูกสาวพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ พ.ต.อ.วีรวิทย์ กล่าวว่า ตรงนี้ก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ซึ่งลูกสาวของพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ยังอายุไม่ถึง 20 ปี จึงต้องพิจารณาว่าจะสอบปาคำร่วมกับสหวิชาชีพหรือไม่ ซึ่งถึงอย่างไรก็ต้องรอความพร้อมของลูกสาวพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนหลักฐานอื่นๆ ขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) อยู่ระหว่างการใช้กระบวนการทางเทคนิคทำภาพจากกล้องวงจรปิดให้มีความชัดเจนขึ้น เพราะตอนแรกที่เอาภาพมาดูตำรวจเองก็ดูไม่รู้เรื่อง และหลังจากที่พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เอาเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุส่งไปให้ พฐ. ตรวจสอบ ซึ่งคาดว่า 2-3 วัน น่าจะสามารถสรุปได้ว่าเสื้อผ้าของพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ตรงกันกับบุคคลในภาพวงจรปิดหรือไม่ ทั้งนี้สุดท้ายคดีนี้คนที่สำคัญที่สุดคือหมอมุก ถ้าหมอมุกดีขึ้นสามารถสื่อความหมายและบอกเหตุการณ์ต่างๆได้ ก็จะปรึกษากับทีมแพทย์ว่าจะเข้าไปสอบปากคำหรือนำภาพไปให้หมอมุกชี้ได้หรือไม่ จะต้องมีการประเมินก่อนว่าสมองสมบูรณ์พอที่จะจำอะไรได้บ้าง

"ทุกอย่างต้องดำเนินไปตามขั้นตอน ไม่ได้มีการช่วยเหลือหรือปกปิดในทางคดีแต่อย่างใด ตำรวจไม่สามารถไปแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพราะทุกอย่างมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เมื่อวานที่ผ่านมา(29 มิ.ย.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. ก็ได้ให้สัมภาษณ์ไปชัดเจนแล้ว ไม่น่าจะทำให้เกิดข้อกังขากับสังคม หากหลักฐานออกมาครบถ้วนสมบูรณ์และได้คำให้การจากปากหมอมุก เมื่อนั้นก็จะเกิดความกระจ่างว่าอะไรเป็นอะไร" พ.ต.อ.วีรวิทย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น