“ผู้การแต้ม” ยอมรับได้เห็นแต่ข่าวว่ามีแพะในคดี “พันเอก” ขับรถพุ่งชนหมอมุก ยันแนวทางสอบสวนยังคงดำเนินไปต่อเนื่อง ทุกอย่างอยู่ที่หลักฐาน ย้ำลงคุมเอง ใครที่ถูกพาดพิงถึงต้องเรียกมาสอบทั้งหมด รวมทั้งลูกสาว พ.อ.ที่กล่าวอ้างถึงด้วย พร้อมทำคดีรัดกุมเต็มที่
วันนี้ (22 มิ.ย.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยถึงกรณีที่ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ผอ.กองกลาง สำนักงานบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ว่าเป็นผู้กระทำความผิดขับรถชน พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก แพทย์ประจำคลินิกผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฎเกล้า บริเวณหน้าเสาวรสคลินิก ใกล้สถานีรถไฟสามเสน เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองบวม อาจเป็นการจับแพะนั้นว่า ตนได้เห็นแต่ข่าวว่ามีแพะ แต่ทางการสอบสวนของตำรวจก็ต้องทำการสอบสวนต่อเนื่อง และรอหลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งการสอบสวนพยานแวดล้อมยังดำเนินต่อไปให้หมดเสียก่อนว่าตรงกันหรือไม่อย่างไร
“ตำรวจต้องสอบพยานแวดล้อมให้หมดก่อนว่าตรงกันหรือเปล่า หรืออย่างไร เช่น คุณหมอกระโดดชนรถนั้นจริงหรือไม่ เพราะการให้การขัดแย้งกับหลักฐานที่เห็น ยืนยันว่าได้สอบพยานแวดล้อมทั้งพนักงานในร้านอาหารสามเสนวิลล่าทั้งหมดแล้ว โดยผมสอบสวนด้วยตัวเอง” พล.ต.ต.วิชัยกล่าว
ผบก.น.1 กล่าวต่อว่า ส่วนหลักฐานที่กองพิสูจน์หลักฐานระบุมานั้น เป็นเพียงการระบุเบื้องต้นเท่านั้น ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องตรวจสอบ ส่วนการสอบสวนคนไหนที่เกี่ยวข้องและถูกพาดพิงนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเรียกมาสอบสวนทั้งหมด ทั้งลูกสาวของ พ.อ.ที่กล่าวอ้างถึง ซึ่งต้องเรียกมาสอบปากคำให้หมด และยืนยันว่าจะทำคดีนี้ให้รัดกุมเต็มที่
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.กล่าววานนี้ (21 มิ.ย.) ถึงแนวทางในการดำเนินคดีว่า เบื้องต้นผู้เข้ามอบตัวนั้นยังเป็นเพียงผู้เข้าให้ปากคำ ไม่ใช่ผู้กระทำผิด ซึ่งหากให้การเท็จก็จะมีความผิด ขั้นตอนต่อไปหากพิสูจน์ว่ากระทำความผิดจริงจะส่งศาลทหารดำเนินการต่อไป
ปล่อยตัว พ.อ.-ตร.ไม่เชื่อคำให้การ-วงจรปิดมัดพุ่งชน!
“พ.อ.” ขับรถพุ่งชนหมอมุกมอบตัว อ้างหมอกระโดดชนรถเอง!
ตร.พร้อมล่าทหารเลวขับเก๋งพุ่งชนแพทย์หญิงเจ็บสาหัส!
