xs
xsm
sm
md
lg

“อำนวย” เผยผู้ชายขับชน รอหมอมุกหายดียืนยันคนทำผิด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“อำนวย” เผย น่าจะชัดแล้วว่าคนขับรถพุ่งชนหมอมุกเป็นผู้ชาย อีก 2 วันกองพิสูจน์หลักฐานจะยืนยันความชัดเจนอีกครั้ง ย้ำ ได้นัดลูกสาว “พ.อ” สอบปากคำแล้ว แต่เปิดเผยสถานที่ให้ทราบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของสิทธิเด็กและสตรี ยันกุญแจดอกสำคัญรอแค่วันที่หมอมุกพูดได้ แล้วยืนยันตัวผู้กระทำผิด ขณะนี้ต้องดูหลักฐานให้ละเอียดว่า ประมาทชนให้บาดเจ็บสาหัส หรือพยายามฆ่า ชี้ คดีนี้พยานชัดเจน แต่ยอมรับกระแสแรงเหมือนคดีแพรวา ขณะที่หมอมุกดีขึ้นยืนได้นาน 5 นาที แม่วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อแก๊งขอรับบริจาค

วันนี้ (29 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.กล่าวถึงความคืบหน้าของคดี พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก ได้รับบาดเจ็บจากถูกรถพุ่งชน โดย พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น เข้ามอบตัว และอ้างว่า ตนเองเป็นผู้ขับรถชนหมอมุก นั้น ว่า หลังจากมีการประชุมติดตามเร่งรัดสำนวนการสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชน และสื่อมวลชนให้ความสนใจ พนักงานสอบสวนได้สอบสวนรวบรวบพยานหลักฐานเป็นไปตามลำดับ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากถึง 85 เปอร์เซ็นต์ และเชื่อว่า อีก 1-2 วันนี้ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.ตร.จะนัดพนักงานสอบสวนไปดูผลการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากที่มีการส่งภาพต่างๆ จากกล้องวงจรปิดของ กทม.ที่จับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ไปตรวจสอบ เพื่อจัดทำรายละเอียด ซึ่งจะสามารถแยกแยะเห็นตัวละครได้ โดยน่าจะชัดเจนอย่างหนึ่งแล้วว่าคนขับเป็นผู้ชาย

“ส่วนการที่มีความสับสนว่าใครเป็นคนขับนั้นจริงๆ ลึกๆ ในส่วนตัวรู้ตั้งนานแล้วแต่ยังไม่อยากสรุป ซึ่งจะสรุปได้ก็ต่อเมื่อหลักฐานทุกอย่างชัดเจน และเริ่มชัดเจนขึ้นแล้ว ผมว่าอีกสองวันทางกองพิสูจน์หลักฐานจะยืนยันในสิ่งนี้” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวด้วยว่า นอกจากภาพวงจรปิดที่ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบไปแล้ว ซึ่งก็มีการตรวจสอบดีเอ็นเอ ลายพิมพ์นิ้วมือที่เขียนข้อความปรากฏบนกระจกรถ พยานแวดล้อม ซึ่งได้สอบปากคำพยาน 2 ปาก ที่เห็นคนขับและเห็นเหตุการณ์ โดยในขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทดลองภาพจำลองว่าขับรถในลักษณะนี้ความเร็วขนาดนี้ มีการกระชากออกตัวแบบนี้ บาดแผลบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ และจะดูไปถึงเรื่องของความผิด ว่า มีเจตนา หรือเพียงแค่ประมาทชนคนได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือพยายามฆ่า ซึ่งขณะนี้ก็ชัดเจนแล้วระดับหนึ่ง

ส่วนเมื่อใดจะสอบปากคำบุตรสาวของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ นั้น พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ได้มีการนัดหมายแล้ว แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยวันเวลาสถานที่ได้ เพราะว่าเป็นเรื่องสิทธิเด็กและสตรี ซึ่งทางด้านคดีที่ผ่านมาทางฝ่ายกองทัพ และฝ่ายผู้เสียหายให้ความร่วมมือดี โดยคดีนี้น่าจะจบไปด้วยดีอีกทั้งอาการหมอมุกก็ดีขึ้นตามลำดับ

“กุญแจดอกสำคัญ ผมกำลังให้พนักงานสอบสวนติดต่อกับทางโรงพยาบาล เพราะอาการหมอมุกดีวันดีคืน แพทย์ยืนยันว่าสามารถให้ปากคำได้เมื่อใด ความจำกลับคืนมาปกติแล้ว พนักงานสอบสวนจะเข้าสอบปากคำทันที เพราะเป็นกุญแจดอกสำคัญยืนยันตัวผู้กระทำความผิด รวมถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นอีก 15 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือในส่วนนี้ คดีจะไม่บุ่มบ่ามเป็นอันขาด” รองผบช.น.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพวงจรปิดเห็นชัดว่า เป็นผู้ชายใช่ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ทางกองพิสูจน์หลักฐานจะมีการนัดไปดูผลการตรวจสอบอีก 2 วันข้างหน้า แต่คร่าวๆ ว่ามีความชัดเจน โดยมีภาพทำไว้ 40 กว่าชอร์ต เห็นภาพชัดเลยว่า ใครอยู่ตรงไหน ใครขึ้นรถทางซ้าย ใครขึ้นฝั่งคนขับ ใครเขียนอะไรตรงไหน และยืนคุยกันตรงไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่า พยานระบุว่า ใครขับรถพุ่งชนหมอมุกหรือไม่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ส่วนนี้ชัดเจนแล้ว หรือรอตกผลึกสุดท้าย ซึ่งพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน โดยเหลือการยืนยันเรื่องความเร็วของรถ ว่า ออกตัวตามปกติ หรือออกตัวแบบกระชาก ซึ่งจะรอผู้เชี่ยวชาญยืนยันอีกครั้ง และเรื่องของบาดแผลต้องสอบปากคำแพทย์ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า แพทย์บอกว่า กว่าจะสอบปากคำหมอมุกได้ต้องรอ 6 เดือน นั้น พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า คงไม่ถึงขนานนั้น เพราะขณะนี้ลุกขึ้นนั่งได้แล้ว ขยับแขน ขา และเคี้ยวน้ำแข็งได้ ซึ่งถ้าแพทย์ผู้รักษายืนยันสติสัมปชัญญะปกติก็จะเข้าสอบปากคำโดยให้ดูจากภาพก็ได้

พล.ต.ต.อำนวย ยังกล่าวอีกว่า คดีนี้ชัดเจนทั้งพยานบุคคล วัตถุ และภาพวงจรปิด ด้านนิติวิทยาศาสตร์ ดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือ ส่วนการประเด็นที่อาจจะมีการรับผิดแทนคนอื่นนั้น ตนไม่ทราบว่ามาจากไหน ซึ่งบางครั้งกระแสเหมือนกับคดีแพรวากระแสถาโถมมารุนแรงเหลือเกิน โดยท้ายที่สุดคดีก็จบอัยการก็สั่งฟ้องไปแล้ว ซึ่งคดีนี้ง่ายๆไม่มีอะไรซับซ้อนมีภาพวงจรปิดชัดเจนเหมือนกับคดีแพรวา อีกทั้งคดีนี้มีพยานบุคคลเห็นเหตุการณ์ตั้งหลายคน โดยขอความร่วมมือคนที่ปล่อยข่าวเล่นอินเตอร์เน็ตโพสต์ข้อความอย่าทำให้พยานหลักฐานเสียหาย หรือทำให้สังคมเข้าใจผิดต่อไป

หมอมุกยืนแล้ว-แม่วอนอย่าเชื่อแก๊งขอบริจาค
ในวันเดียวกัน เวลา 10.30 น.ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลพระมงกุฎ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าบรรยากาศการเข้าเยี่ยมอาการของ พ.ต.พญ.หทัยพร หรือ หมอมุก อิ่มวิทยา ว่า ตลอดทั้งวันมีประชาชนนำกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยม พร้อมเซนต์หนังสือให้กำลังใจไม่ขาดสาย นอกจากนี้ ยังมีทหารรักษาการมาเฝ้ารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.และยังมีตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท มาเฝ้าสังเกตการณ์ด้วย ส่วนการรักษาอาการของหมอมุก วันนี้นักกายภาพได้ทำกายภาพบำบัดให้หมอมุกวอกเกอร์ลุกขึ้นยืนประมาณ 5 นาที จำนวน 2 ครั้ง โดยมีพญ.พรรณกร อิ่มวิทยา แม่หมอมุกยืนให้กำลังใจลูกอยู่ข้างหน้า เพื่อคอยกระตุ้นให้หมอมุกเงยหน้าขึ้นมอง ซึ่งเมื่อหมอมุกยิ้มให้แม่ก็ตรงเข้าสวมกอดลูกสาวด้วยความดีใจ

ต่อมา พญ.พรรณกร เปิดเผยว่า อาการล่าสุดหมอมุกดีขึ้นมาก ซึ่งสามารถทานน้ำแข็งเองได้ โดยตักจากกระบอกน้ำแข็งเองแล้วเคี้ยว เพราะโดยปกติหมอมุกเป็นคนชอบทานน้ำแข็งมาก ซึ่งวันนี้นักกายภาพมาช่วยเหลือหมอมุก โดยพยุงให้จับเครื่องช่วยพยุงตัวเอง ซึ่งหมอมุกก็สามารถยืนได้ และยืนเต็มฝ่าเท้า ฉะนั้นโอกาสที่จะเดินได้นั้นมีสูงมาก เพราะคนไข้กลุ่มนี้ก่อนที่จะเดินก็ต้องหัดยืนก่อน ซึ่งทางนักกายภาพจะมาฝึกให้ทุกเช้า วันละครึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ในช่วงบ่ายวันนี้จะมีแพทย์มาช่วยฝังเข็มกระตุ้นให้อีกทางด้วย ซึ่งหมอมุกสามารถฟื้นตัวได้เร็วมาก เพราะจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่จับมือแม่แค่เบาๆ แต่วันนี้สามารถลุกยืนได้ ซึ่งเพียงแค่นี้แม่ก็ดีใจมากแล้ว ส่วนเรื่องเขียนหนังสือยังไม่เคยให้หมอมุกลอง ซึ่งตอนนี้ทางแพทย์กำลังประเมินอาการหมอมุก เพื่อจะให้ย้ายออกจากห้องไอ.ซี.ยู.เพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน

“ดิฉันอยากจะประกาศว่าทางดิฉัน และครอบครัวไม่เคยประกาศเรี่ยไรเงิน หรือรับบริจาคใดๆ จากประชาชน เพราะตอนนี้ก็ได้รับความช่วยเหลือจากทางโรงพยาบาลฯ ทางกลุ่มเพื่อนจิตรลดาด้วยกัน และกลุ่มเพื่อนหมอมุก จึงสามารถช่วยเหลือตนเองได้ ซึ่งหากมีใครไปรับบริจาคหรือแอบอ้างชื่อหมอมุกนั้นก็ไม่เป็นความจริง และดิฉันก็ขอขอบคุณสื่อมวลชน ประชาชนทุกๆ ท่าน ที่คอยให้กำลังใจมาตลอด ซึ่งเป็นกำลังอย่างดีในยามนี้ค่ะ” พญ.พรรณกร กล่าว

ด้าน พ.อ.พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน เปิดเผยว่า ในวันนี้หมอมุกสดใสขึ้นมาก หลังจากเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) สามารถลุกนั่งได้ โดยวันนี้มีโปรแกรมให้ลุกขึ้นมายืนข้างเตียง ซึ่งหมอมุกสามารถยืนได้นานประมาณ 5 นาที โดยไม่มีอาการเหนื่อย และจะพยายามให้ยืนได้มากขึ้นในวันต่อๆ ไป พร้อมทั้งจะหัดเดินในลำดับต่อไป ซึ่งเบื้องต้นพบว่าแขน และขาไม่มีอาการอ่อนแรง จึงคาดว่าจะสามารถเดินได้ตามปกติ

พ.อ.พีระพล กล่าวอีกว่า ส่วนอาการสมองนั้น ไม่มีการอักเสบแล้วรอเพียงให้เวลาฟื้นตัวเท่านั้น ซึ่งที่น่าเป็นห่วงมีเพียงอาการไข้ที่ยังคงมี แต่ก็เล็กน้อยเท่านั้น โดยต่อไปจะทำการประเมินอาการ เพื่อทำการย้ายหมอมุกออกจากห้องไอ.ซี.ยู.ไปรักษาต่อในห้องผู้ป่วยอื่นต่อไป ซึ่งทางคณะแพทย์ผู้ทำการรักษา ได้ทำรายงานอาการป่วยของหมอมุก ส่งไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อกราบบังคมทูลฯ ถวายรายงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามพระบรมราชกุมารี ที่ทรงได้มีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงมีความสนพระทัยต่ออาการบาดเจ็บของหมอมุก พร้อมทั้งทรงได้รับสั่งว่าให้คณะแพทย์รายงานความคืบหน้าของการรักษาพยาบาลมาโดยตลอด
นักกายภาพ ทำกายภาพบำบัดให้หมอมุกตอบรับได้ดี

หมอมุกยืนได้นาน 5 นาที



กำลังโหลดความคิดเห็น