ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด มอบสินน้ำใจจำนวน 3 แสนบาท ให้ “แพะ” คดียาเสพติด ที่ถูกตำรวจจับผิดตัว จนต้องถูกส่งเข้าไปอยู่ในเรือนจำถึง 23 วัน ระบุเป็นความผิดพลาดคดีแรกของ บช.ปส. พร้อมสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบชุดจับกุมแล้วเช่นกัน โดยเชื่อข้อผิดพลาดน่าจะมาจากเรื่องทะเบียนราษฎร ที่ผู้ต้องหาตัวจริงมีชื่อซ้ำกับเหยื่อ
วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมพรหมนอก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน ผบก.ปส.3 ได้ร่วมกันมอบเงินจำนวน 300,000 บาท ให้แก่นายสมใจ แซ่ลิ้ม อายุ 39 ปี หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.จับกุมดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด เมื่อวันที่ 26 พ.ค.54 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากทำการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเป็นการจับผิดตัว จึงดำเนินการช่วยเหลือพร้อมกับมอบเงินเยียวยาโดยมีนางสุรินทร์ พิกุลขาว ภรรยาของนายสมใจ และข้าราชการตำรวจ บช.ปส.ร่วมเป็นสักขีพยาน
พล.ต.ท.อติเทพเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คน ส่วนอีก 2 คนหลบหนีไป ต่อมาได้สืบสวนขยายผลจนทราบชื่อผู้ต้องหาที่หลบหนี และได้ทำการออกหมายจับ โดย 1 ในผู้ต้องหาที่หลบหนีคือ นายสมใจ แซ่ลิ้ม เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมตัวนายสมใจมาดำเนินคดี แต่เมื่อควบคุมตัวมาแล้ว ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมาก่อนหน้าได้ยืนยันว่าไม่ใช่นายสมใจ ผู้ต้องหาตัวจริง ชุดจับกุมจึงทำการตรวจสอบอย่างละเอียด จนกระทั่งพบว่าเป็นการจับผิดตัว ซึ่งขณะนั้นทางตำรวจได้สรุปสำนวนส่งให้อัยการไปแล้ว และศาลได้มีคำสั่งฟ้อง ตนจึงแนะนำและช่วยเหลือนายสมใจในการยื่นร้องเรียน
พล.ต.ท.อติเทพกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เพิ่งเคยเกิดขึ้นกับกรณีของนายสมใจเป็นคนแรก และทำให้นายสมใจถูกควบคุมตัวอยู่ 23 วัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ต้องขอโทษและขอมอบเงินช่วยเหลือนายสมใจ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป และอยากวอนขอผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าได้เข้ามานำเงินของนายสมใจไปใช้ เพราะนายสมใจจะได้เก็บเอาไว้ใช้ในสิ่งที่จำเป็น และสำหรับเหตุการณ์นี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนชุดจับกุมแล้ว เพื่อจะได้ลงโทษไปตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นน่าจะมามาจากการตรวจสอบทะเบียนราษฏร์ ซึ่งมีบุคคลที่มีชื่อซ้ำกันจำนวนมาก และยังมีใบหน้าที่คล้ายกันด้วย แต่ทั้งนี้ ก็จะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาจุดบกพร่องที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ส่วนเรื่องการเพิ่มความเข้มวงดในการจับกุมตัวผู้ต้องหาเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดนั้น ทางบช.ปส.มีขั้นตอนที่รัดกุมอยู่แล้ว ตนต้องขอโทษและขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไมเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ด้าน นายสมใจกล่าวว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มอบเงินช่วยเหลือ หลังจากนี้จะนำเงินไปใช้หนี้ที่ตนและครอบครัวหยิบยืมมาใช้ในการวิ่งเต้นเรื่องคดีความ และจะนำไปซื้อของแก้บน เพราะก่อนหน้านี้ได้บนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หนองหญ้าปล้องเอาไว้ ส่วนที่เหลือก็จะเก็บไว้รักษาภรรยาที่เป็นโรคทาลัสซีเมีย และใช้จ่ายในครอบครัว นอกจากนี้ในวันที่ 10 ก.ค.54 จะทำการบวชที่วัดพุพูล อ.หนองหญ้าปล้อง เพื่อสะเดาะเคราะห์ให้ตัวเองด้วย
วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมพรหมนอก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน ผบก.ปส.3 ได้ร่วมกันมอบเงินจำนวน 300,000 บาท ให้แก่นายสมใจ แซ่ลิ้ม อายุ 39 ปี หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.จับกุมดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด เมื่อวันที่ 26 พ.ค.54 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากทำการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเป็นการจับผิดตัว จึงดำเนินการช่วยเหลือพร้อมกับมอบเงินเยียวยาโดยมีนางสุรินทร์ พิกุลขาว ภรรยาของนายสมใจ และข้าราชการตำรวจ บช.ปส.ร่วมเป็นสักขีพยาน
พล.ต.ท.อติเทพเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คน ส่วนอีก 2 คนหลบหนีไป ต่อมาได้สืบสวนขยายผลจนทราบชื่อผู้ต้องหาที่หลบหนี และได้ทำการออกหมายจับ โดย 1 ในผู้ต้องหาที่หลบหนีคือ นายสมใจ แซ่ลิ้ม เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมตัวนายสมใจมาดำเนินคดี แต่เมื่อควบคุมตัวมาแล้ว ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมาก่อนหน้าได้ยืนยันว่าไม่ใช่นายสมใจ ผู้ต้องหาตัวจริง ชุดจับกุมจึงทำการตรวจสอบอย่างละเอียด จนกระทั่งพบว่าเป็นการจับผิดตัว ซึ่งขณะนั้นทางตำรวจได้สรุปสำนวนส่งให้อัยการไปแล้ว และศาลได้มีคำสั่งฟ้อง ตนจึงแนะนำและช่วยเหลือนายสมใจในการยื่นร้องเรียน
พล.ต.ท.อติเทพกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เพิ่งเคยเกิดขึ้นกับกรณีของนายสมใจเป็นคนแรก และทำให้นายสมใจถูกควบคุมตัวอยู่ 23 วัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ต้องขอโทษและขอมอบเงินช่วยเหลือนายสมใจ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป และอยากวอนขอผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าได้เข้ามานำเงินของนายสมใจไปใช้ เพราะนายสมใจจะได้เก็บเอาไว้ใช้ในสิ่งที่จำเป็น และสำหรับเหตุการณ์นี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนชุดจับกุมแล้ว เพื่อจะได้ลงโทษไปตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นน่าจะมามาจากการตรวจสอบทะเบียนราษฏร์ ซึ่งมีบุคคลที่มีชื่อซ้ำกันจำนวนมาก และยังมีใบหน้าที่คล้ายกันด้วย แต่ทั้งนี้ ก็จะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาจุดบกพร่องที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ส่วนเรื่องการเพิ่มความเข้มวงดในการจับกุมตัวผู้ต้องหาเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดนั้น ทางบช.ปส.มีขั้นตอนที่รัดกุมอยู่แล้ว ตนต้องขอโทษและขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไมเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ด้าน นายสมใจกล่าวว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มอบเงินช่วยเหลือ หลังจากนี้จะนำเงินไปใช้หนี้ที่ตนและครอบครัวหยิบยืมมาใช้ในการวิ่งเต้นเรื่องคดีความ และจะนำไปซื้อของแก้บน เพราะก่อนหน้านี้ได้บนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หนองหญ้าปล้องเอาไว้ ส่วนที่เหลือก็จะเก็บไว้รักษาภรรยาที่เป็นโรคทาลัสซีเมีย และใช้จ่ายในครอบครัว นอกจากนี้ในวันที่ 10 ก.ค.54 จะทำการบวชที่วัดพุพูล อ.หนองหญ้าปล้อง เพื่อสะเดาะเคราะห์ให้ตัวเองด้วย