พนักงานสอบสวนนัด “พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์” นำกล้องถ่ายรูปมามอบให้ ตร. เพื่อส่งให้ พฐ.ตรวจหาลายนิ้วมือแฝง เร่งรัดผลตรวจ DNA-ลายนิ้วมือ พร้อมพยานแวดล้อม ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณา เรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาพยายามฆ่า ด้านอาการ “หมอมุก” สมองบวมน้อยลง ตอบสนองได้ดี ขณะที่แม่หมอมุกยกเรื่องคดีความให้เป็นของ ตร. ยอมรับไม่ได้ติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นในรอบวัน
วันนี้ (24 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สน.พญาไท พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท เปิดเผยว่า หลังจากที่ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น และนางสภาวัน ภู่กลั่น ได้เข้าให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี รวมทั้งได้นำภาพถ่ายหมอมุกมาให้พนักงานสอบสวนนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้นัดให้ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์นำกล้องที่บันทึกภาพมามอบให้พนักงานสอบสวน เพื่อจะส่งไปให้ พฐ.ตรวจลายนิ้วมือแฝงบนกล้องถ่ายภาพ และตรวจสอบข้อมูลในกล้องว่าภาพที่บันทึกตรวจกับวันเวลาเกิดเหตุหรือไม่ ส่วนทางด้านสำนวนการสอบสวนเบื้องต้นสอบพยานแวดล้อมไปได้หลายปากแล้ว มากถึง 6-7 ปาก ทั้งพยานแวดล้อม พยานคนกลาง และพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงหลักฐานพยานทางวิทยาศาสตร์
ผู้สื่อข่าวถามว่า บุตรสาวติดต่อเข้าให้การบ้างหรือไม่ พ.ต.ท.โชติบอกว่า ในส่วนของลูกสาว พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ที่จะเข้าให้การต่อพนักงานสอบสวนนั้น ทางบุตรสาวได้แจ้งต่อทางพนักงานสอบสวนว่าติดภารกิจด้านการศึกษาจึงต้องรอไปก่อน และอยู่ระหว่างติดต่อของเจ้าหน้าที่ตลอด ยังระบุไม่ได้ว่าจะเป็นวัน เวลาไหน ซึ่งกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก คงต้องขอเวลาอีก 2-3 วัน หากบุตรสาวและเพื่อนเข้ามาให้ถ้อยคำก็จะทำการเก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอเพื่อส่งตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบ
“วันนี้ได้สั่งการให้ ร.ต.ท.สุดประเสริฐ หลัดกอง พนักงานสอบสวนทำหนังสือขอเร่งรัดผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานในคดี ทั้งผลดีเอ็นเอของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ และนางสภาวัน ภรรยา รวมถึงผลการตรวจลายนิ้วมือที่ส่งไปตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน คาดว่าคงได้รับผลการตรวจพิสูจน์ในช่วงบ่ายวันนี้ และจะนำมารวบรวมกับพยานแวดล้อมที่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ และพยานวัตถุ ก่อนจะเสนอผู้บังคับบัญชาร่วมพิจารณาหลังจากรวบรวมพยานหลักฐานชัดเจนในทุกด้าน โดยให้ทางผู้บังคับบัญชา เป็นคนพิจารณาว่าจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาพยายามฆ่าได้เมื่อใดหากหลักฐานชัดว่าใครเป็นผู้กระทำผิด” รอง ผกก.สส.สน.พญาไทกล่าว
วันเดียวกัน ที่หออภิบาลผู้ป่วยหนัก (ICU) อาคารท่านผู้หญิงประภาศรี กำลังเอก โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก แพทย์ประจำคลินิคผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฎเกล้า พักรักษาตัวตลอดทั้งวันมีคนนำกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมพร้อมเซ็นหนังสือให้กำลังใจ บ้างก็นำวัตถุมงคล หนังสือธรรมะ ยาพื้นบ้านมาให้ โดย พญ.พรรณกรกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าทุกวันนี้ไม่ได้ติดตามข่าวลูกเพราะกว่าจะกลับบ้านก็ 4 ทุ่มไปแล้ว เรื่องคดีท่ามีความคืบหน้าทางตำรวจจะโทร.มาบอก มั่นใจลูกหายเป็นปกติแน่นอนเพราะเฝ้าดูลูกเห็นอาการดีขึ้นก็ดีใจ ตอนนี้ร่างกายซีกขวาไม่ค่อยมีแรงก็ช่วยบีบนวดให้
ด้าน พ.อ.นพ.พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า วันนี้อาการหมอมุกดีขึ้นไข้ลดลงเหลือ 37.5 องศาปรอท ดีกว่าเมื่อวานมีอาการซึมเล็กน้อย การตอบสนองได้มากขึ้น เรียกชื่อแล้วลืมตา หันหน้าไปตามเสียงที่เรียกชื่อได้ สั่งให้กำมือและขยับร่างกายสามารถทำได้ สัญญาณชีพจรก็ดีขึ้น ที่ต้องระวังคือโรคแทรกซ้อนโดยเฉพาะการติดเชื้อ เพราะขณะนี้ใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่จะทำให้ปอดติดเชื้อได้ง่าย ขณะนี้แพทย์ต้องคอยควบคุมเกลือแร่ที่ให้ต้องสมดุลแก่ร่างกาย คอยสังเกตอาการเมื่อลดการใช้เครื่องช่วยหายใจถ้ามีอาการหอบเหนื่อยก็กลับมาให้ใหม่ เพื่อให้หมอมุกสามารถปรับสภาพปรับมาหายใจได้ด้วยตนเอง แต่อาการฟกช้ำดำเขียวตามร่างกายนั้นไม่มีพบแต่รอยช้ำที่บริเวณข้อมือซ้ายเท่านั้น ส่วนอาการที่ร่างกายซีกขวามีแรงน้อยกว่าข้างซ้ายนั้นเป็นเรื่องปกติเพราะสมองด้านซ้ายซึ่งสั่งการร่างกายด้านขวาได้รับการกระทบ ส่วนกะโหลกที่เปิดไว้เมื่ออาการบวมและความดันลดลงก็ใส่กลับเข้าไปใหม่
ส่วนนายกอสล้าง วรรณรสพากย์ ลูกพี่ลูกน้องของหมอมุก กล่าวว่า สงสาร พญ.พรรณกร หรืออาแดง ต้องนั่งรถประจำทางจากบ้านแต่เช้าเพื่อมาโรงพยาบาลเยี่ยมลูกทุกวัน หากลูกยังไม่หลับ อาแดงก็จะไม่กลับบ้าน ไม่ได้ให้ความสนใจหรืออยากรู้เรื่องเกี่ยวกับคดีด้วยซ้ำ ตอนนี้แกห่วงแต่ลูกสาวซึ่งกำลังเจ็บหนักอยู่เท่านั้น
ต่อมา พระอาจารย์ระพิน ปัญญานันทโภ เลขานุการเจ้าอาวาส วัดสกุลปักษี จ.สุพรรณบุรี ได้เดินทางมาเยี่ยมหมอมุก พร้อมมอบเหรียญหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม ให้ พญ.พรรณกรนำไปฝากเก็บไว้ใกล้เตียงพักฟื้นของหมอมุก โดยพระอาจารย์ระพินกล่าวว่า รู้จักกับหมอแดงและหมอมุกมานานเนื่องจากเป็นคนใจบุญชอบทำบุญ หากที่วัดมีงานทั้งคู่จะเดินทางไปช่วยตลอดพอทราบข่าวว่าหมอมุก ตกอยู่ในสภาพนี้จึงเดินทางนำวัตถุมงคลมามอบให้พร้อมอวยพรให้หายจากอาการบาดเจ็บไวๆ
ในช่วงบ่าย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา นำกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมอาการป่วยของหมอมุก โดยเซ็นสมุดเยี่ยมว่า ขอให้หมอมุกหายเป็นปกติโดยเร็ว คนดีคุณพระต้องคุ้มครอง “ลงชื่อ พ่อน้องหญิง ขจรประศาสน์” ก่อน พล.ต.สนั่นจึงเดินเข้าไปเฝ้ามองอาการของหมอมุกหน้าห้องผู้ป่วยไอซียู พร้อมสอบถามความคืบหน้าด้านการรักษาจากพยาบาลเจ้าของไข้นานประมาณ 10 นาที ก่อนเดินทางกลับ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ตนมาเยี่ยมหมอมุกในฐานะที่เป็นทหารด้วยกัน และลูกสาวตนเป็นรุ่นพี่ รุ่นที่ 23 ที่จิตรลดา จากการสอบถามอาการจากพยาบาลผู้ดูแลทราบว่าหมอมุกอาการดีขึ้น ถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง ใครที่ลงมือก่อเหตุถือว่าเป็นคนใช้ไม่ได้ ยิ่งเป็นผู้ก่อเหตุแล้วไม่ยอมรับผิดนั้นถือว่าเลวร้ายที่สุด ตนขอสาปแช่ง และเชื่อว่ากองทัพหรือองค์กรใดๆ ก็จะไม่ให้การช่วยเหลือคนคนนั้น เชื่อว่าความจริงที่เกิดขึ้นต้องปรากฏออกมาสักวัน หนีกันไม่พ้นแน่นอน อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนช่วยทำหน้าที่ติดตามคดีนี้ให้ถึงที่สุดด้วย
คุณครูจินตนา อามระดิษ พร้อมคณะครูอาจารย์จากโรงเรียนจิตรลดา ประมาณ 10 คน ได้เดินทางมาเยี่ยมและลงชื่อในสมุดให้กำลังใจหมอมุก โดยคณะครูยังได้นำแผ่นลงลายมือชื่อพร้อมคำอวยพรของนักเรียนจิตรลดา รุ่นที่ 45 ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.3 ในปัจจุบัน มามอบให้ พญ.พรรณกร เก็บไว้ให้ลูกสาวอีกด้วย
พิรุธ! “พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์” กลับคำไม่ได้โต้เถียง “หมอมุก” ก่อนชน
เมีย “พ.อ.แพะ” ให้ปากคำคดีชน “หมอมุก” ยันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
เมีย พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์จะเข้าให้ปากคำ ตร.คดีชน “หมอมุก” บ่ายนี้
“สมเด็จพระราชินี” พระราชทานดอกไม้-ผ้าห่ม เยี่ยม “หมอมุก”
ตร.ยังไม่แจ้งข้อหา “พ.อ.” รอหลักฐานชัด! หวั่นสวมคนผิด-ทำให้ศาลยกฟ้องได้
ตร.ยันทำคดีหมอมุกรัดกุม-รับได้เห็นแต่ข่าวว่ามีแพะ
ปล่อยตัว พ.อ.-ตร.ไม่เชื่อคำให้การ-วงจรปิดมัดพุ่งชน!
“พ.อ.” ขับรถพุ่งชนหมอมุกมอบตัว อ้างหมอกระโดดชนรถเอง!
ตร.พร้อมล่าทหารเลวขับเก๋งพุ่งชนแพทย์หญิงเจ็บสาหัส!