“เมธี อมรวุฒิกุล” อดีตดารา-นายแบบหุ่นสมาร์ท ที่ผันตัวเข้าไปสู่แวดวงการเมือง แต่ทว่ายังไปไม่ถึงดวงดาว เขากลับถูกจับกุมและถูกดำเนินคดีในข้อหาหนักหลายข้อหา วันนี้ เมธี อมรวุฒิกุล ยังคงอยู่ในฐานะ “พยาน” ที่ต้องถูกควบคุมและเฝ้าติดตามตัวอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงจากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ต้องทำหน้าที่คุ้มครองพยาน และวันนี้ เมธี อมรวุฒิกุล เจาะจงเลือก ASTVสุดสัปดาห์ ระบายความในใจถึงการต่อสู้ของเขากับกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะ จตุพร พรหมพันธุ์
คุณเมธีมีอะไรจะพูดไปถึงกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนที่ยังเข้าใจว่าคุณเมธีทรยศหักหลังบ้างครับ
อย่างที่บอกไปแล้วว่า ผมก็ถูกดำเนินคดีอาญาหลายข้อหาเช่นกัน คือ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ข้อหารับของโจร และร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืน ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต โทษประหารชีวิตและจำคุก 20 ปี ผมได้ประกันตัวเองออกมาเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2553 ด้วยเงินจำนวน 200,000 บาท คดีนี้ยังอยู่ที่ศาล ถ้าตนเป็นอย่างที่นายจตุพรพูด คดีนี้ก็ต้องไม่มีหรือมีก็ต้องเบาสิครับ แต่นี่โดนคดีหนักทั้งอาวุธปืนสงครามของทหาร ซึ่งไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ส่วนกรณีเป็นพยานของดีเอสไอในคดีก่อการร้ายนั้น ความจริงคดีนี้ผมพูดมากไม่ได้ เพราะต้องบอกเลยว่ามันเป็นเกมที่ตกอยู่ในสภาพเหมือนถังขยะ แต่บังเอิญว่าถังขยะใบนี้มันเป็นดารามีชื่อเสียง มีอะไรก็ไปลงที่ไอ้เมธีไว้ก่อน หาว่าเมธีรับสารภาพ เมธีโน่นนี่นั่น ความเป็นคนมีชื่อเสียงทำให้ผมถูกดีเอสไอจับเป็นคนแรกๆ เพราะถ้าจับนายหมูนายหมาก็คงไม่มีใครรู้จัก ฉะนั้นจึงควรเข้าใจว่าทำไมผมถึงถูกจับ
มันเป็นเกมการเมือง ดีเอสไอก็กันผมไว้เป็นพยาน ซึ่งเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่เขาจะทำ ผมก็เหมือนโดนมัดมือมัดเท้าจากทั้งสองฝ่าย ผมบอกเลยว่าคนเสื้อแดงเขาอ่านเกมตรงนี้ออก และเขาก็เห็นใจผม อย่างแกนนำเสื้อแดงโดนจับยังได้ประกันตัว ได้รับอิสรภาพ ขณะที่ผมโดนคุมตัวอยู่ 24 ชั่วโมง และอยู่ในค่ายทหารพรหมโยธี จ.ปราจีนบุรี สังกัดของเสธ.เปา หรือ พ.อ.ร่มเกล้า อยู่นาน 1 เดือน ตอนนี้ก็ยังอยู่ในควบคุมของดีเอสไอ เหมือนมีเวรมีกรรมต่อเนื่อง ซึ่งคนเสื้อแดงเขารู้เรื่องดี แต่มีนายจตุพรที่เสือกมาเบี่ยงประเด็นใส่ร้ายผม กล่าวหาว่าผมเอาคดีไปแลกเพื่อที่จะไม่ให้ได้รับโทษทางอาญา ใส่ร้ายคนเสื้อแดงว่าเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง แม้กระทั่งหาว่าผมเป็นตัวการให้เสธ.แดงโดนยิง นายจตุพรก็ยังโยนมาให้ผม
หลายคนมองว่าเป็นคู่ปรับกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ มีเรื่องโกรธเคืองอะไรกัน
สาเหตุที่นายจตุพรโกรธแค้นผม เพราะว่าผมไปอยู่กับ เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ช่วงการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ผม พี่แดง และลูกน้องอีกคน เรา 3 คนอยู่ด้วยกันตลอด พี่แดงเขารักผม บอกว่าผมใจถึง บู๊ และเป็นคนจริง ผมรู้สึกเท่ที่สุดเลย ขนาดผมอยู่กับพี่แดงเป็นช่วงเวลาสั้นๆ นะ ส่วนนายจตุพรก็ด่าพี่แดงเป็นหมาเน่า เป็นของปลอมตลอด เพราะเขาเกลียด เสธ.แดงซึ่งเป็นลูกพี่ผม ขณะที่นายจตุพรก็มักจะฉวยโอกาสเสนอหน้า โดยประกาศบนเวทีปราศรัยที่เวทีราชประสงค์เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ปีที่แล้วว่าตอนนี้แกนนำสามเกลอได้เจรจากับหัวหน้าทหารให้ทหารล่าถอย ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง เป็นเรื่องโกหก เขาต้องการจะเอาหน้าว่าเป็นผลงานของพวกเขา
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมขึ้นไปพูดบนเวทีปราศรัยที่เวทีผ่านฟ้าฯ วันที่ 11 เม.ย.ปีที่แล้วว่า ขอบคุณกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่มาช่วยพวกเรา ทำให้เขาเสียหน้ามาก แล้วทุกคนก็รู้ดีว่าถ้าการเจรจาสำเร็จ แล้วทำไม พ.อ.ร่มเกล้าต้องตายล่ะ นี่แสดงว่าคุณไม่ได้เจรจา จึงทำให้เขาเสียหน้ามาก และตั้งแต่นั้นมานายจตุพรก็ตามจงเกลียดจงชังผมและพี่แดง เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ผมก็ได้ขึ้นไปพูดบนเวทีครั้งสุดท้าย นายจตุพรก็โทรศัพท์ไปบอกนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน หลังเวที ให้ปิดสวิตช์ไฟฟ้าไม่ให้ผมพูด มีการโวยวายกันหลังเวที แต่สุดท้ายก็ปิดไฟเวทีไม่ได้
“วันนั้นคนเสื้อแดงที่ผ่านฟ้าฯ เขารู้ดีว่า สามเกลอไม่ได้เจรจา ไม่อย่างนั้น พ.อ.ร่มเกล้าจะตายด้วยสาเหตุอะไร ถ้าเจรจาทหารล่าถอย ทุกอย่างก็จบไม่มีใครเสียชีวิต นายจตุพร เพียงแอบอ้างเอาความดีความชอบให้กับตัวเอง ทั้งที่สามเกลอไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลย ทั้งโกงเงินคนเสื้อแดง 4 ปีที่ผ่านมาไม่เคยแสดงบัญชีใดๆ ว่าเงินบริจาคของคนเสื้อแดงไปใช้อะไรบ้าง เหลือกี่บาท ไม่เคยแสดงทรัพย์สินใดๆทั้งสิ้น ได้แต่มุบมิบทำกัน นายอริสมันต์หรือกี้ร์ เคยจะเข้าไปขอตรวจบัญชีก็โวยวายไม่ยอม
แล้วรู้สึกอย่างไรที่เห็นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ติดคุก
ถ้าใครเป็นนักเลง จะดูฟอร์มออกเลยว่านายจตุพรเป็นคนใจมด และใจแคบด้วย สังเกตดูเขาจะสกัดจุดทุกคน ตั้งแต่จักรภพ เพ็ญแข, สุรชัย แซ่ด่าน, เสธ.แดง, พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี คุณว่าของปลอมเหรอพัลลภ ยังโดนจตุพรด่าซะเสียคน หาว่าเป็นม้าแก่ รวมทั้งตัวผมและอีกหลายคนก็โดนด้วย
เมื่อมีข่าวนายจตุพรโดนจับ วันรุ่งขึ้น ส.ส.เพื่อไทยได้ยกโขยงกันไปเชิญนายเสนาะ เทียนทอง กลับมาอยู่พรรคเพื่อไทย ส.ส.ในพรรคหลายคนแฮปปี้ อย่างที่นายสุนัย จุลพงศธร กระซิบบอกผมว่า เขาถีบจตุพรไปตาย เพราะเขารู้ว่านายจตุพรเหมือนปลาหมอ ต้องตายเพราะปาก คนอย่างนายจตุพรไม่มีทางยิ่งใหญ่หรอก เพราะเป็นคนใจคอแคบ และขี้กลัว อย่างการชุมนุมที่ผ่านฟ้าฯ ผมโทรศัพท์ไปหานายจตุพรว่าให้หาคนมาช่วยหน่อย ตรงนี้ไม่มีแกนนำเลย ทหารเขาสลายที่นี่แยกผ่านฟ้าฯ “มึงไปหลบอะไรที่ราชประสงค์” นายจตุพรอ้างอะไรรู้ไหม “ทำงานใต้ดินอยู่ เอ๊อ”
พวกแกนนำเสื้อแดงเขามีสายข่าว รู้ว่าตรงไหนอันตรายก็จะไม่ไป ส่งให้พวกสาวกเสื้อแดง อย่างผมเนี่ยไปตายกัน โดยไม่รับผิดใดๆ ทั้งสิ้น และแกนนำสามเกลอ เขานำม็อบมาแล้ว 4-5 ปี แพ้แล้วแพ้อีก ตายแล้วตายอีก ก็ยังจะมาขอนำ ไม่มีการปรับกลยุทธ์ ไม่มียุทธวิธี ยุทธศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น
นายจตุพรเขาใส่ร้ายผมแบบนี้ มันยุติธรรมหรือไม่ ผมจึงฟ้องนายจตุพรทั้งสองศาล ทั้งศาลโลกและศาลนรกด้วย ได้สาบานกับศาลหลักเมือง เมื่อ 4 เดือนก่อนว่า ถ้าผมกลั่นแกล้ง หรือเป็นอย่างนายจตุพรกล่าวหาว่าเอาคดีไปแลก ก็ขอให้ผมมีชีวิตที่ฉิบหาย เดือดร้อน แต่ถ้านายจตุพรกลั่นแกล้งผม ก็ขอให้มีชีวิตที่วิบัติเช่นกัน ก็คิดดูละครับ หลังจากนั้นสัก 4 เดือน นายจตุพรเป็น ส.ส.อยู่แท้ๆ ยังต้องติดคุก
ก็ไม่นึกว่านายจตุพรจะมีวันนี้ และผมก็ได้ไปแก้บนที่ศาลหลักเมืองเรียบร้อยแล้วว่าผมโดนใส่ร้ายและตอนนี้กรรมได้ตามสนองนายจตุพร พรหมพันธุ์แล้ว ตอนนี้ก็เหลืออีกศาล คือศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งผมไปฟ้องนายจตุพรคดีหมิ่นประมาทอีกหนึ่งคดี กรณีไปปราศรัยหมิ่นประมาทผมที่จังหวัดอยุธยา ซึ่งศาลได้รับฟ้องไว้แล้วเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา แม้จะเป็นคดีเล็กๆ แต่อย่างน้อยก็สัก 4-5 ปี ผมจะสู้ให้ถึงที่สุด ไม่ยอมไกล่เกลี่ยแน่นอน โดยให้ทนายความแจ้งความจำนงต่อศาลแล้ว
“ถ้าจะไกล่เกลี่ย มึงก็ถอนฟ้องไปสิ แต่ผมไม่ถอน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและกัดไม่ปล่อยด้วย บอกได้เลยว่าเหนื่อยและน้ำลายเหนียวคอแน่ๆ สู้กับเมธี ชนะได้ไหม ชนะได้ เพราะคุณนำม็อบเป็นหมื่นๆคน แต่ตอนนี้ ศาล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้ติดคุกแล้ว จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ซึ่งต่อไปก็เหลือแต่ศาลยุติธรรมที่อยู่บนโลกมนุษย์นี่แหละ”
คิดว่าที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ติดคุก เกี่ยวกับที่ได้บนบานไว้หรือไม่
ถ้าสำหรับผม ผมก็ว่าน่าจะเกี่ยวบ้างนะ เพราะไม่นึกไม่ฝันว่านายจตุพร จะติดคุก มันแปลกมากเลย คิดดูก่อนหน้านี้ แกนนำเสื้อแดงเขาติดคุกคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กันหมด 1 เดือน ส่วนผมโดนจับไปอยู่ในค่ายทหาร ก็คุกทหารนี่แหละ มีแต่นายจตุพร คนเดียวที่ไม่โดน แต่จู่ๆ นายจตุพร ซึ่งเป็น ส.ส.ก็มาติดคุก อย่างน้อยก็คง 3 เดือน ถือว่าชดใช้เวรกรรมก็แล้วกัน ถ้านายจตุพร ออกมาจากคุกแล้วสำนึก ขอโทษผม ผมก็จะให้อภัย โดยมาเจอหน้าผมหรือแจ้งความประสงค์ไปยังดีเอสไอ ก็ได้ว่าขอพบและเจออย่างเป็นทางการ จะแอบๆ ขอโทษกันก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องให้นักข่าวรู้ก็ได้ แต่ต้องมาขอโทษด้วยตัวเองนะ ให้คุณทักษิณมาคุยผมก็ไม่ยอม เพราะเขาต้องมาสำนึกด้วยตัวเอง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ
ผมถือว่าเป็นลูกผู้ชาย ทำผิดแล้วขอโทษ ไม่ต้องมีดอกไม้ธูปเทียน ถือว่าให้เกียรติก็แล้วกัน ไม่ต้องถึงขนาดนั้น
รู้สึกสะใจไหม ที่วันนี้นายจตุพรอยู่ในคุก
ผมบอกได้เลยครับว่า ผมหัวเราะได้อย่างน้ำตาไหล จริงๆ ตั้งแต่ผมโดนจับมา ผมมีความทุกข์ที่อยู่ในใจมากมาย ไม่เคยหัวเราะสะใจเท่าครั้งนี้ และเป็นเวลาหลายวันด้วย คือมีเพื่อนผมโทร.มาแสดงความยินดี ผมก็หัวเราะทุกครั้ง จนน้ำตาเล็ด นี่ผมให้ดูเพื่อนส่งข้อความมาว่าจตุพรเข้ากรงหมาไปแล้ว มันเป็นเรื่องจริง คือ ญาติๆ เพื่อนๆ ผมเขารู้นิสัยผมดีว่าผมเป็นคนแบบไหน เป็นคนตรงไปตรงมา และที่นายจตุพรโกหก ใส่ความผม มันทำให้พวกเขาเดือดร้อนด้วย เพราะคนเสื้อแดงก็ไปกดดันเพื่อนผม ญาติผม ว่าทำไมเมธีทำอย่างนี้ เพื่อนผมก็ต้องนั่งอธิบาย แล้วเรื่องมันก็ไม่จบ เพราะว่าไม่ได้ออกมาจากปากผมเอง นี่คือความทุกข์ทรมานที่มันเกิดขึ้น บัดนี้นายจตุพรได้ชดใช้กรรมไปแล้ว ผมเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง แต่ไม่อาฆาตแค้นนะ ปล่อยให้ชดใช้กรรมในนั้นไป อุ๊ย..สะดุ้ง นี่เวลาบ่าย 3 โมง ขึ้นนอนแล้วนิ (หัวเราะ) ดีใจด้วยนะครับคุณจตุพร ใหญ่คับประเทศเหลือเกิน
อย่างที่ผมบอกครับ ถ้าไปใครถาม บอกว่าให้ผมสู้กับจตุพร ร้อยทั้งร้อยบอกว่าอย่าไปสู้กับนายจตุพร แพ้แน่ๆ กระดูกคนละเบอร์ เขามีมวลชน เขาเป็น ส.ส. แล้วยังไงผมเป็นนักสู้ ผมไม่เกี่ยงหรอกว่าผมจะแพ้หรือจะชนะ ขอให้ได้สู้ แต่อย่างที่บอกสู้กับผมก็น้ำลายเหนียวครับ
ไม่กลัวคนเสื้อแดงเขากล่าวหาว่าเป็นการซ้ำเติมคนจตุพรหรือ
ถ้าใครได้อ่าน ฟังคำพูดที่ผมอธิบายตั้งแต่ต้นจนจบ ก็น่าจะเข้าใจแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นสาวกจตุพร โงหัวไม่ขึ้น หน้ามืดตามัว ผมก็จะไม่เสียเวลาคุยกับพวกคุณ
อยากจะไปเยี่ยมนายจตุพรหรือไม่
ไม่เยี่ยมหรอกครับ ผมตรงไปตรงมา เกลียดก็บอกว่าเกลียด ผมไม่ได้มานั่งเล่นละคร ผมแสดงละครมาเยอะแล้ว 64 เรื่อง ผมพอแล้ว ชีวิตจริงก็คือชีวิตจริง แล้วเป็นคำพูดที่จริงที่สุดแล้วของผมไม่โหก ไม่เบี่ยงประเด็น
ทำไมถึงหลุดโผ ไม่ได้ลงสมัครเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย
จริงๆ จะบอกว่าหลุดโผก็ไม่เชิง แต่ว่าอาจจะสะดุด ตรงที่ผมถูกใส่ร้าย ตั้งแต่การชุมนุมคนเสื้อแดงที่แยกผ่านฟ้า เช่น หลังจากที่ผมโดนคดี นายจตุพรก็ใช้ความเจนจัดพูดเบี่ยงประเด็น ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคหลายคนระแวงในตัวผม ซึ่งผมเป็นคนตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ถ้าระแวงผม ก็โอเค ถ้าเกมง่ายๆ แบบนี้อ่านไม่ออกก็ไม่เป็นไร และอย่างที่บอก บางคนกลัวจตุพรไม่อยากยุ่ง เพราะกลัวปากของเขา กลัวว่าถ้ามาปกป้องหรือเข้าข้างผม เดี่ยวจะโดนด่าเสียคน เพราะนายจตุพร ปากหมา เพราะฉะนั้นบางคนก็ไม่อยากยุ่ง บางคนก็ระแวงว่าผมจะเป็นสายสืบให้กับดีเอสไอหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ ถ้าคนที่เป็นผู้ใหญ่ หัวกะทิ หรือมีวุฒิภาวะ เขาก็จะอ่านเกมออก
ความเป็นอยู่ในฐานะพยานคดีก่อการร้าย ของดีเอสไอเป็นอย่างไรบ้าง
อึดอัด เพราะมีคนคอยติดตามประกบเราตลอดเวลา ดีเอสไอเขาต้องทำรายงาน ว่าวันนี้เมธี ทำอะไรบ้าง โทรศัพท์กี่ครั้ง ไปไหนมาไหน กินอะไร แต่นี่มันตั้ง 1 ปีมาแล้ว ก็ชิน มันเป็นความเคยชิน บอกว่าชอบไหม ก็ไม่ชอบ
แต่ถามว่าดีกว่าอยู่ในคุกไหม ดีกว่าแน่นอน ผมไม่ต้องไปเข้าโรงนอน ตอนบ่าย 3 โมงเหมือนใครบางคน ก็เช่าห้องอยู่ บางทีก็เป็นรายวัน เพราะเขามีมาตรการว่า ถ้าเช่าเป็นรายเดือน ก็ไม่เกิน 3 เดือน ต้องเปลี่ยนย้านสถานที่ นอกจากนี้ก็มีทีมรักษาความปลอดภัยให้ มาช่วยดูแลคุ้มกัน ช่วงไหนที่มีข่าวกับจตุพรเยอะก็เข้มงวดหน่อย จะโทรศัพท์ก็ไม่ได้ ต้องขออนุญาตและอีกหลายเรื่อง
บางคนบอกว่าดีเอสไอให้เงินเมธี ผมบอกเลยว่าไม่มีหรอกครับ อยู่กันอย่างอัตคัดขัดสน เมื่อก่อนผมมีเงินใช้ ถ่ายแบบ ถ่ายละคร ไปโชว์ตัว ร้องเพลง เดือนละหลายแสนบาท “ทุกวันนี้ดีเอสไอให้เงินเบี้ยเลี้ยงพยาน 12,000 บาท ต้องไปเช่าบ้าน อะไรต่างๆ นานา” นายเมธีหัวเราะเสียงดัง
ถามว่าทำไมเขาถึงต้องให้ เหตุผลคือเขาไม่ต้องการให้พยานทุกคนไม่เฉพาะผมต้องไปทำงานข้างนอก เพราะกลัวว่า ศัตรูหรือคู่อาฆาตจะตามมาทำร้ายได้ จึงต้องการให้อยู่เฉยๆ ให้เบี้ยพอยังชีพ ตามเศรษฐกิจ นี่ก็ลดมาอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ผมบอกโอย ผมจะตายอยู่แล้ว ผมเคยโดนศอฉ.อายัดทรัพย์เป็นลำดับที่ 68 เพื่อตรวจสอบบัญชีว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงหรือไม่ ตั้ง 9 เดือน ทำอะไรไม่ได้เลย กินมาม่าจนผมร่วงหมดเลย บ้าชิบเป๋ง
จะลบข้อครหาเรื่องการทรยศต่อคนเสื้อแดงได้อย่างไร
ผมก็ภาวนาขอให้ผู้ใหญ่ในพรรค เห็นถึงจิตใจผมที่สู้มาถึงขนาดนี้ และช่วยออกมาพูดให้ผมบ้าง คงไม่เสียอะไรมากมั้ง หรือถ้าอยากจะรู้ความเป็นจริง ผมก็มีหลักฐานถูกจับกุม คดีผมก็ยังอยู่ในศาล แต่ผมก็เข้าใจว่า ตอนนี้เรื่องคดีมันร้ายแรงมาก ทุกคนก็เอาตัวรอดกันหมด ถามว่าหวังไหม ก็หวังว่าจะมีฮีโร่มาช่วยผม เหมือนที่ผมไปช่วยคนอื่นบ้าง
คุณเมธีมีอะไรจะพูดไปถึงกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนที่ยังเข้าใจว่าคุณเมธีทรยศหักหลังบ้างครับ
อย่างที่บอกไปแล้วว่า ผมก็ถูกดำเนินคดีอาญาหลายข้อหาเช่นกัน คือ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ข้อหารับของโจร และร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืน ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต โทษประหารชีวิตและจำคุก 20 ปี ผมได้ประกันตัวเองออกมาเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2553 ด้วยเงินจำนวน 200,000 บาท คดีนี้ยังอยู่ที่ศาล ถ้าตนเป็นอย่างที่นายจตุพรพูด คดีนี้ก็ต้องไม่มีหรือมีก็ต้องเบาสิครับ แต่นี่โดนคดีหนักทั้งอาวุธปืนสงครามของทหาร ซึ่งไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ส่วนกรณีเป็นพยานของดีเอสไอในคดีก่อการร้ายนั้น ความจริงคดีนี้ผมพูดมากไม่ได้ เพราะต้องบอกเลยว่ามันเป็นเกมที่ตกอยู่ในสภาพเหมือนถังขยะ แต่บังเอิญว่าถังขยะใบนี้มันเป็นดารามีชื่อเสียง มีอะไรก็ไปลงที่ไอ้เมธีไว้ก่อน หาว่าเมธีรับสารภาพ เมธีโน่นนี่นั่น ความเป็นคนมีชื่อเสียงทำให้ผมถูกดีเอสไอจับเป็นคนแรกๆ เพราะถ้าจับนายหมูนายหมาก็คงไม่มีใครรู้จัก ฉะนั้นจึงควรเข้าใจว่าทำไมผมถึงถูกจับ
มันเป็นเกมการเมือง ดีเอสไอก็กันผมไว้เป็นพยาน ซึ่งเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่เขาจะทำ ผมก็เหมือนโดนมัดมือมัดเท้าจากทั้งสองฝ่าย ผมบอกเลยว่าคนเสื้อแดงเขาอ่านเกมตรงนี้ออก และเขาก็เห็นใจผม อย่างแกนนำเสื้อแดงโดนจับยังได้ประกันตัว ได้รับอิสรภาพ ขณะที่ผมโดนคุมตัวอยู่ 24 ชั่วโมง และอยู่ในค่ายทหารพรหมโยธี จ.ปราจีนบุรี สังกัดของเสธ.เปา หรือ พ.อ.ร่มเกล้า อยู่นาน 1 เดือน ตอนนี้ก็ยังอยู่ในควบคุมของดีเอสไอ เหมือนมีเวรมีกรรมต่อเนื่อง ซึ่งคนเสื้อแดงเขารู้เรื่องดี แต่มีนายจตุพรที่เสือกมาเบี่ยงประเด็นใส่ร้ายผม กล่าวหาว่าผมเอาคดีไปแลกเพื่อที่จะไม่ให้ได้รับโทษทางอาญา ใส่ร้ายคนเสื้อแดงว่าเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง แม้กระทั่งหาว่าผมเป็นตัวการให้เสธ.แดงโดนยิง นายจตุพรก็ยังโยนมาให้ผม
หลายคนมองว่าเป็นคู่ปรับกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ มีเรื่องโกรธเคืองอะไรกัน
สาเหตุที่นายจตุพรโกรธแค้นผม เพราะว่าผมไปอยู่กับ เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ช่วงการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ผม พี่แดง และลูกน้องอีกคน เรา 3 คนอยู่ด้วยกันตลอด พี่แดงเขารักผม บอกว่าผมใจถึง บู๊ และเป็นคนจริง ผมรู้สึกเท่ที่สุดเลย ขนาดผมอยู่กับพี่แดงเป็นช่วงเวลาสั้นๆ นะ ส่วนนายจตุพรก็ด่าพี่แดงเป็นหมาเน่า เป็นของปลอมตลอด เพราะเขาเกลียด เสธ.แดงซึ่งเป็นลูกพี่ผม ขณะที่นายจตุพรก็มักจะฉวยโอกาสเสนอหน้า โดยประกาศบนเวทีปราศรัยที่เวทีราชประสงค์เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ปีที่แล้วว่าตอนนี้แกนนำสามเกลอได้เจรจากับหัวหน้าทหารให้ทหารล่าถอย ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง เป็นเรื่องโกหก เขาต้องการจะเอาหน้าว่าเป็นผลงานของพวกเขา
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมขึ้นไปพูดบนเวทีปราศรัยที่เวทีผ่านฟ้าฯ วันที่ 11 เม.ย.ปีที่แล้วว่า ขอบคุณกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่มาช่วยพวกเรา ทำให้เขาเสียหน้ามาก แล้วทุกคนก็รู้ดีว่าถ้าการเจรจาสำเร็จ แล้วทำไม พ.อ.ร่มเกล้าต้องตายล่ะ นี่แสดงว่าคุณไม่ได้เจรจา จึงทำให้เขาเสียหน้ามาก และตั้งแต่นั้นมานายจตุพรก็ตามจงเกลียดจงชังผมและพี่แดง เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ผมก็ได้ขึ้นไปพูดบนเวทีครั้งสุดท้าย นายจตุพรก็โทรศัพท์ไปบอกนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน หลังเวที ให้ปิดสวิตช์ไฟฟ้าไม่ให้ผมพูด มีการโวยวายกันหลังเวที แต่สุดท้ายก็ปิดไฟเวทีไม่ได้
“วันนั้นคนเสื้อแดงที่ผ่านฟ้าฯ เขารู้ดีว่า สามเกลอไม่ได้เจรจา ไม่อย่างนั้น พ.อ.ร่มเกล้าจะตายด้วยสาเหตุอะไร ถ้าเจรจาทหารล่าถอย ทุกอย่างก็จบไม่มีใครเสียชีวิต นายจตุพร เพียงแอบอ้างเอาความดีความชอบให้กับตัวเอง ทั้งที่สามเกลอไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลย ทั้งโกงเงินคนเสื้อแดง 4 ปีที่ผ่านมาไม่เคยแสดงบัญชีใดๆ ว่าเงินบริจาคของคนเสื้อแดงไปใช้อะไรบ้าง เหลือกี่บาท ไม่เคยแสดงทรัพย์สินใดๆทั้งสิ้น ได้แต่มุบมิบทำกัน นายอริสมันต์หรือกี้ร์ เคยจะเข้าไปขอตรวจบัญชีก็โวยวายไม่ยอม
แล้วรู้สึกอย่างไรที่เห็นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ติดคุก
ถ้าใครเป็นนักเลง จะดูฟอร์มออกเลยว่านายจตุพรเป็นคนใจมด และใจแคบด้วย สังเกตดูเขาจะสกัดจุดทุกคน ตั้งแต่จักรภพ เพ็ญแข, สุรชัย แซ่ด่าน, เสธ.แดง, พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี คุณว่าของปลอมเหรอพัลลภ ยังโดนจตุพรด่าซะเสียคน หาว่าเป็นม้าแก่ รวมทั้งตัวผมและอีกหลายคนก็โดนด้วย
เมื่อมีข่าวนายจตุพรโดนจับ วันรุ่งขึ้น ส.ส.เพื่อไทยได้ยกโขยงกันไปเชิญนายเสนาะ เทียนทอง กลับมาอยู่พรรคเพื่อไทย ส.ส.ในพรรคหลายคนแฮปปี้ อย่างที่นายสุนัย จุลพงศธร กระซิบบอกผมว่า เขาถีบจตุพรไปตาย เพราะเขารู้ว่านายจตุพรเหมือนปลาหมอ ต้องตายเพราะปาก คนอย่างนายจตุพรไม่มีทางยิ่งใหญ่หรอก เพราะเป็นคนใจคอแคบ และขี้กลัว อย่างการชุมนุมที่ผ่านฟ้าฯ ผมโทรศัพท์ไปหานายจตุพรว่าให้หาคนมาช่วยหน่อย ตรงนี้ไม่มีแกนนำเลย ทหารเขาสลายที่นี่แยกผ่านฟ้าฯ “มึงไปหลบอะไรที่ราชประสงค์” นายจตุพรอ้างอะไรรู้ไหม “ทำงานใต้ดินอยู่ เอ๊อ”
พวกแกนนำเสื้อแดงเขามีสายข่าว รู้ว่าตรงไหนอันตรายก็จะไม่ไป ส่งให้พวกสาวกเสื้อแดง อย่างผมเนี่ยไปตายกัน โดยไม่รับผิดใดๆ ทั้งสิ้น และแกนนำสามเกลอ เขานำม็อบมาแล้ว 4-5 ปี แพ้แล้วแพ้อีก ตายแล้วตายอีก ก็ยังจะมาขอนำ ไม่มีการปรับกลยุทธ์ ไม่มียุทธวิธี ยุทธศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น
นายจตุพรเขาใส่ร้ายผมแบบนี้ มันยุติธรรมหรือไม่ ผมจึงฟ้องนายจตุพรทั้งสองศาล ทั้งศาลโลกและศาลนรกด้วย ได้สาบานกับศาลหลักเมือง เมื่อ 4 เดือนก่อนว่า ถ้าผมกลั่นแกล้ง หรือเป็นอย่างนายจตุพรกล่าวหาว่าเอาคดีไปแลก ก็ขอให้ผมมีชีวิตที่ฉิบหาย เดือดร้อน แต่ถ้านายจตุพรกลั่นแกล้งผม ก็ขอให้มีชีวิตที่วิบัติเช่นกัน ก็คิดดูละครับ หลังจากนั้นสัก 4 เดือน นายจตุพรเป็น ส.ส.อยู่แท้ๆ ยังต้องติดคุก
ก็ไม่นึกว่านายจตุพรจะมีวันนี้ และผมก็ได้ไปแก้บนที่ศาลหลักเมืองเรียบร้อยแล้วว่าผมโดนใส่ร้ายและตอนนี้กรรมได้ตามสนองนายจตุพร พรหมพันธุ์แล้ว ตอนนี้ก็เหลืออีกศาล คือศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งผมไปฟ้องนายจตุพรคดีหมิ่นประมาทอีกหนึ่งคดี กรณีไปปราศรัยหมิ่นประมาทผมที่จังหวัดอยุธยา ซึ่งศาลได้รับฟ้องไว้แล้วเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา แม้จะเป็นคดีเล็กๆ แต่อย่างน้อยก็สัก 4-5 ปี ผมจะสู้ให้ถึงที่สุด ไม่ยอมไกล่เกลี่ยแน่นอน โดยให้ทนายความแจ้งความจำนงต่อศาลแล้ว
“ถ้าจะไกล่เกลี่ย มึงก็ถอนฟ้องไปสิ แต่ผมไม่ถอน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและกัดไม่ปล่อยด้วย บอกได้เลยว่าเหนื่อยและน้ำลายเหนียวคอแน่ๆ สู้กับเมธี ชนะได้ไหม ชนะได้ เพราะคุณนำม็อบเป็นหมื่นๆคน แต่ตอนนี้ ศาล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้ติดคุกแล้ว จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ซึ่งต่อไปก็เหลือแต่ศาลยุติธรรมที่อยู่บนโลกมนุษย์นี่แหละ”
คิดว่าที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ติดคุก เกี่ยวกับที่ได้บนบานไว้หรือไม่
ถ้าสำหรับผม ผมก็ว่าน่าจะเกี่ยวบ้างนะ เพราะไม่นึกไม่ฝันว่านายจตุพร จะติดคุก มันแปลกมากเลย คิดดูก่อนหน้านี้ แกนนำเสื้อแดงเขาติดคุกคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กันหมด 1 เดือน ส่วนผมโดนจับไปอยู่ในค่ายทหาร ก็คุกทหารนี่แหละ มีแต่นายจตุพร คนเดียวที่ไม่โดน แต่จู่ๆ นายจตุพร ซึ่งเป็น ส.ส.ก็มาติดคุก อย่างน้อยก็คง 3 เดือน ถือว่าชดใช้เวรกรรมก็แล้วกัน ถ้านายจตุพร ออกมาจากคุกแล้วสำนึก ขอโทษผม ผมก็จะให้อภัย โดยมาเจอหน้าผมหรือแจ้งความประสงค์ไปยังดีเอสไอ ก็ได้ว่าขอพบและเจออย่างเป็นทางการ จะแอบๆ ขอโทษกันก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องให้นักข่าวรู้ก็ได้ แต่ต้องมาขอโทษด้วยตัวเองนะ ให้คุณทักษิณมาคุยผมก็ไม่ยอม เพราะเขาต้องมาสำนึกด้วยตัวเอง กล้าทำก็ต้องกล้ารับ
ผมถือว่าเป็นลูกผู้ชาย ทำผิดแล้วขอโทษ ไม่ต้องมีดอกไม้ธูปเทียน ถือว่าให้เกียรติก็แล้วกัน ไม่ต้องถึงขนาดนั้น
รู้สึกสะใจไหม ที่วันนี้นายจตุพรอยู่ในคุก
ผมบอกได้เลยครับว่า ผมหัวเราะได้อย่างน้ำตาไหล จริงๆ ตั้งแต่ผมโดนจับมา ผมมีความทุกข์ที่อยู่ในใจมากมาย ไม่เคยหัวเราะสะใจเท่าครั้งนี้ และเป็นเวลาหลายวันด้วย คือมีเพื่อนผมโทร.มาแสดงความยินดี ผมก็หัวเราะทุกครั้ง จนน้ำตาเล็ด นี่ผมให้ดูเพื่อนส่งข้อความมาว่าจตุพรเข้ากรงหมาไปแล้ว มันเป็นเรื่องจริง คือ ญาติๆ เพื่อนๆ ผมเขารู้นิสัยผมดีว่าผมเป็นคนแบบไหน เป็นคนตรงไปตรงมา และที่นายจตุพรโกหก ใส่ความผม มันทำให้พวกเขาเดือดร้อนด้วย เพราะคนเสื้อแดงก็ไปกดดันเพื่อนผม ญาติผม ว่าทำไมเมธีทำอย่างนี้ เพื่อนผมก็ต้องนั่งอธิบาย แล้วเรื่องมันก็ไม่จบ เพราะว่าไม่ได้ออกมาจากปากผมเอง นี่คือความทุกข์ทรมานที่มันเกิดขึ้น บัดนี้นายจตุพรได้ชดใช้กรรมไปแล้ว ผมเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง แต่ไม่อาฆาตแค้นนะ ปล่อยให้ชดใช้กรรมในนั้นไป อุ๊ย..สะดุ้ง นี่เวลาบ่าย 3 โมง ขึ้นนอนแล้วนิ (หัวเราะ) ดีใจด้วยนะครับคุณจตุพร ใหญ่คับประเทศเหลือเกิน
อย่างที่ผมบอกครับ ถ้าไปใครถาม บอกว่าให้ผมสู้กับจตุพร ร้อยทั้งร้อยบอกว่าอย่าไปสู้กับนายจตุพร แพ้แน่ๆ กระดูกคนละเบอร์ เขามีมวลชน เขาเป็น ส.ส. แล้วยังไงผมเป็นนักสู้ ผมไม่เกี่ยงหรอกว่าผมจะแพ้หรือจะชนะ ขอให้ได้สู้ แต่อย่างที่บอกสู้กับผมก็น้ำลายเหนียวครับ
ไม่กลัวคนเสื้อแดงเขากล่าวหาว่าเป็นการซ้ำเติมคนจตุพรหรือ
ถ้าใครได้อ่าน ฟังคำพูดที่ผมอธิบายตั้งแต่ต้นจนจบ ก็น่าจะเข้าใจแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นสาวกจตุพร โงหัวไม่ขึ้น หน้ามืดตามัว ผมก็จะไม่เสียเวลาคุยกับพวกคุณ
อยากจะไปเยี่ยมนายจตุพรหรือไม่
ไม่เยี่ยมหรอกครับ ผมตรงไปตรงมา เกลียดก็บอกว่าเกลียด ผมไม่ได้มานั่งเล่นละคร ผมแสดงละครมาเยอะแล้ว 64 เรื่อง ผมพอแล้ว ชีวิตจริงก็คือชีวิตจริง แล้วเป็นคำพูดที่จริงที่สุดแล้วของผมไม่โหก ไม่เบี่ยงประเด็น
ทำไมถึงหลุดโผ ไม่ได้ลงสมัครเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย
จริงๆ จะบอกว่าหลุดโผก็ไม่เชิง แต่ว่าอาจจะสะดุด ตรงที่ผมถูกใส่ร้าย ตั้งแต่การชุมนุมคนเสื้อแดงที่แยกผ่านฟ้า เช่น หลังจากที่ผมโดนคดี นายจตุพรก็ใช้ความเจนจัดพูดเบี่ยงประเด็น ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคหลายคนระแวงในตัวผม ซึ่งผมเป็นคนตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ถ้าระแวงผม ก็โอเค ถ้าเกมง่ายๆ แบบนี้อ่านไม่ออกก็ไม่เป็นไร และอย่างที่บอก บางคนกลัวจตุพรไม่อยากยุ่ง เพราะกลัวปากของเขา กลัวว่าถ้ามาปกป้องหรือเข้าข้างผม เดี่ยวจะโดนด่าเสียคน เพราะนายจตุพร ปากหมา เพราะฉะนั้นบางคนก็ไม่อยากยุ่ง บางคนก็ระแวงว่าผมจะเป็นสายสืบให้กับดีเอสไอหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ ถ้าคนที่เป็นผู้ใหญ่ หัวกะทิ หรือมีวุฒิภาวะ เขาก็จะอ่านเกมออก
ความเป็นอยู่ในฐานะพยานคดีก่อการร้าย ของดีเอสไอเป็นอย่างไรบ้าง
อึดอัด เพราะมีคนคอยติดตามประกบเราตลอดเวลา ดีเอสไอเขาต้องทำรายงาน ว่าวันนี้เมธี ทำอะไรบ้าง โทรศัพท์กี่ครั้ง ไปไหนมาไหน กินอะไร แต่นี่มันตั้ง 1 ปีมาแล้ว ก็ชิน มันเป็นความเคยชิน บอกว่าชอบไหม ก็ไม่ชอบ
แต่ถามว่าดีกว่าอยู่ในคุกไหม ดีกว่าแน่นอน ผมไม่ต้องไปเข้าโรงนอน ตอนบ่าย 3 โมงเหมือนใครบางคน ก็เช่าห้องอยู่ บางทีก็เป็นรายวัน เพราะเขามีมาตรการว่า ถ้าเช่าเป็นรายเดือน ก็ไม่เกิน 3 เดือน ต้องเปลี่ยนย้านสถานที่ นอกจากนี้ก็มีทีมรักษาความปลอดภัยให้ มาช่วยดูแลคุ้มกัน ช่วงไหนที่มีข่าวกับจตุพรเยอะก็เข้มงวดหน่อย จะโทรศัพท์ก็ไม่ได้ ต้องขออนุญาตและอีกหลายเรื่อง
บางคนบอกว่าดีเอสไอให้เงินเมธี ผมบอกเลยว่าไม่มีหรอกครับ อยู่กันอย่างอัตคัดขัดสน เมื่อก่อนผมมีเงินใช้ ถ่ายแบบ ถ่ายละคร ไปโชว์ตัว ร้องเพลง เดือนละหลายแสนบาท “ทุกวันนี้ดีเอสไอให้เงินเบี้ยเลี้ยงพยาน 12,000 บาท ต้องไปเช่าบ้าน อะไรต่างๆ นานา” นายเมธีหัวเราะเสียงดัง
ถามว่าทำไมเขาถึงต้องให้ เหตุผลคือเขาไม่ต้องการให้พยานทุกคนไม่เฉพาะผมต้องไปทำงานข้างนอก เพราะกลัวว่า ศัตรูหรือคู่อาฆาตจะตามมาทำร้ายได้ จึงต้องการให้อยู่เฉยๆ ให้เบี้ยพอยังชีพ ตามเศรษฐกิจ นี่ก็ลดมาอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ผมบอกโอย ผมจะตายอยู่แล้ว ผมเคยโดนศอฉ.อายัดทรัพย์เป็นลำดับที่ 68 เพื่อตรวจสอบบัญชีว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงหรือไม่ ตั้ง 9 เดือน ทำอะไรไม่ได้เลย กินมาม่าจนผมร่วงหมดเลย บ้าชิบเป๋ง
จะลบข้อครหาเรื่องการทรยศต่อคนเสื้อแดงได้อย่างไร
ผมก็ภาวนาขอให้ผู้ใหญ่ในพรรค เห็นถึงจิตใจผมที่สู้มาถึงขนาดนี้ และช่วยออกมาพูดให้ผมบ้าง คงไม่เสียอะไรมากมั้ง หรือถ้าอยากจะรู้ความเป็นจริง ผมก็มีหลักฐานถูกจับกุม คดีผมก็ยังอยู่ในศาล แต่ผมก็เข้าใจว่า ตอนนี้เรื่องคดีมันร้ายแรงมาก ทุกคนก็เอาตัวรอดกันหมด ถามว่าหวังไหม ก็หวังว่าจะมีฮีโร่มาช่วยผม เหมือนที่ผมไปช่วยคนอื่นบ้าง