xs
xsm
sm
md
lg

ขู่เด้ง ตร.บึงกาฬไม่เป็นกลางเลือกตั้ง รอแค่ผลสอบความจริง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พบตำรวจบึงกาฬมีพฤติกรรมไม่เป็นกลาง ให้จเรตำรวจเร่งตรวจสอบภายใน 7 วัน หากมีมูลเจอสอบวินัย และย้ายออกนอกพื้นที่ทันที เผยผู้สมัคร ส.ส. ร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ.เพิ่มเป็น 77 ราย เตรียมพิจารณาจังหวัดเลือกตั้งรุนแรงเพิ่มเติมอีก สั่งขยายผลหาคนบงการทำลายป้ายหาเสียง

วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะผู้กำกับการดูแลศูนย์ และ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมศรส.ลต.ตร. เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์การเลือกตั้ง

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้มีการพูดคุยหารือถึงแนวทางปฏิบัติกรณีที่มีการทำลายป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำให้เกิดส่วนได้ส่วนเสียของการแข่งขัน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.จึงออกแนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับการทำลายป้ายหาเสียงเลือกตั้ง โดยผู้ที่พบเบาะแสไม่ว่าจะเป็นประชาชน หัวคะแนน ผู้สมัคร ตัวแทนพรรค หรือใครก็ตาม สามารถแจ้งความต่อตำรวจได้ทันทีเพื่อให้ตำรวจสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพยายามขยายผลให้ได้ถึงผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุด้วย

พล.ต.อ.พงศพัศยังกล่าวถึงแนวโน้มการก่อเหตุการณ์รุนแรงในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า ให้ทุกจังหวัดรายงานสถานการณ์การแข่งขันมายัง ศรส.ลต. ตร. โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการแข่งขันสูง 10 จังหวัด นอกจากนี้ หลาย บช.ได้รายงานจังหวัดที่ต้องจับตาเป็นพิเศษด้วย ซึ่งภายใน 2 วัน ศรส.ลต.จะเปิดเผยจังหวัดที่มีการแข่งขันสูงเพิ่มเติมจาก 10 จังหวัด ส่วนการขอกำลังตำรวจเพื่อไปรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ลงสมัคร ส.ส.นั้น พบว่ามีผู้สมัครมาขอรักษาความปลอดภัยเพิ่มจากเดิม 49 รายเป็น 77 ราย ซึ่งแต่ละจังหวัดได้จัดตำรวจไปดูแลผู้สมัครแล้ว ประกอบด้วย บช.น.10 ราย ภาค 1 จำนวน 10 ราย บช.ภ. 2 จำนวน 7 ราย บช.ภ. 3 จำนวน 14 ราย บช.ภ. 4 จำนวน 9 ราย บช.ภ. 5 จำนวน 9 ราย บช.ภ. 6 จำนวน 3 ราย บช.ภ. 7 จำนวน 9 ราย บช.ภ. 8 จำนวน 3 ราย บช.ภ. 9 จำนวน 1 ราย ศชต.2 ราย โดยผู้สมัครแต่ละคนจะมีนายตำรวจที่แต่งตัวเต็มยศดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.จำนวน 2 นาย

“การจัดกำลังตำรวจลงไปดูแลนั้น ทาง ศรส.ลต.ตร.ยืนยันว่ามีความจำเป็นก็จะจัดไปให้ แต่เมื่อมีการร้องขอมา แต่ละจังหวัดก็จะตรวจสอบดูว่า มีเหตุผลความจำเป็นหรือไม่ บางพื้นที่ไม่มีสถานการณ์ใดๆ ก็ไม่ได้จัดไปให้ ตรงกันข้าม ผู้สมัครบางรายไม่ได้ร้องขอแต่ทางตำรวจเห็นว่า ต้องมีการรักษาความปลอดภัยก็มีการพูดคุยและยอมให้มีการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะผู้สมัครที่อยู่ในพื้นที่การแข่งขันสูง 10 จังหวัด” พล.ต.อ.พงศพัศกล่าว

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวต่อว่า ผู้สมัครส.ส.ทุกเขต รวมถึงหัวคะแนน ที่ต้องการร้องขอกำลังตำรวจเพื่อไปรักษาความปลอดภัยในการลงพื้นที่ก็สามารถร้องขอได้โดยการจัดกำลังจะเป็นหน้าที่ของ ผบก.จังหวัดพิจารณา ซึ่งยังคงเน้นย้ำเช่นเดิมว่าผู้สมัครไม่สามารถขอตำรวจรายใดเป็นกรณีพิเศษหรือระบุตัวบุคคลได้ เพื่อไม่ให้ตำรวจเป็นกลไกในการช่วยหาเสียง สำหรับการลงพื้นที่หาเสียงของผู้สมัครแบบปาร์ตี้ลิสต์ซึ่งมีการหาเสียงหลายจังหวัดต่อเนื่อง สามารถร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยได้ที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ เลขานุการ ศรส.ลต.ตร. สำหรับพรรคที่ร้องขอการรักษาความปลอดภัยและมีการทำลายป้ายหาเสียงเฉลี่ยแล้วมีทุกพรรคการเมือง แต่พรรคที่มากที่สุดยังคงเป็นประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวอีกว่า ทาง ตร.มีนโยบายเน้นย้ำให้ตำรวจวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้ง โดยขณะนี้มีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬว่า มีพฤติกรรมวางตัวไม่เป็นกลาง ซึ่งขณะนี้ให้ทางจเรตำรวจลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่ามีการกระทำผิดจริงตามที่ร้องเรียนหรือไม่โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ หากพบว่ามีความผิดจริง จะดำเนินการทางวินัยและย้ายออกจากพื้นทีทันที

ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวเสริมถึงการจับกุมผู้กระทำผิดที่ทำลายป้ายหาเสียงว่า หากพบเห็นการกระทำผิดซึ่งหน้าสามารถจับกุมได้ทันที หรือไม่พบการกระทำผิดซึ่งหน้า หากได้รับแจ้งความก็สามารถหาหลักฐานจากภาพวงจรปิดหรือกล้องอื่นๆ ได้ภายหลัง โดยต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทั้งความผิดทางอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์และ ความผิดตาม พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง นอกจากนี้ ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความถี่ในการออกตรวจจุดที่ตั้งป้ายหาเสียง เพิ่มความเข้มข้นในการสืบสวนหาข่าว ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการแข่งขันและความขัดแย้งในการเลือกตั้ง รวมถึงติดตามพฤติกรรมของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่น่าสงสัยว่าจะเป็นผู้ทำลายป้ายหาเสียง
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะผู้กำกับการดูแลศูนย์ และ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. แถลงติดตามและประเมินสถานการณ์การเลือกตั้ง

กำลังโหลดความคิดเห็น