ตร.ชี้เจอคุกแน่! ผู้สมัคร ส.ส.ป้ายสีสาดโคลนคู่แข่ง หวังโกยคะแนน

ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง แจ้งเตือนผู้สมัคร ส.ส.ห้ามปราศรัยใส่ร้ายผู้อื่น เพื่อจูงใจให้ได้คะแนนนิยม ถ้าฝ่าฝืนเจอคุก 1-10 ปี รวมถึงหัวหน้าพรรคการเมืองใดรู้เห็น แถมละเลยปล่อยให้การเลือกตั้งไม่โปร่งใส มีสิทธิถึงขั้นให้ยุบพรรค

วันนี้ (18 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศรส.ลต.ตร.) ได้มีมติให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้เกี่ยวข้อง ดังนี้ เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว การปราศรัย หรือการกระทำที่เป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งหรืองดเว้นการลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด อาจเข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท รวมทั้งให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กำหนด 10 ปี

พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวต่อไปว่า กรณีข้างต้นหากมีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อถือได้ว่าผู้สมัครคนใดก่อให้ผู้อื่นกระทำสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลกระทำการดังกล่าว หรือรู้ว่ามีการกระทำดังกล่าวแล้วไม่ดำเนินการ เพื่อระงับการกระทำนั้น ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง เห็นว่า การกระทำนั้นน่าจะมีผลให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม อาจเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้สมัครนั้น เป็นเวลา 1 ปี และหากปรากฏหลักฐานว่าหัวหน้าพรรคการเมือง หรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองผู้ใด มีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลย หรือทราบถึงการกระทำนั้นแล้ว แต่ไม่ได้ยับยั้งหรือแก้ไขเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ถือว่าพรรคการเมืองนั้นกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้งอาจเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ยุบพรรคการเมืองนั้นได้