ศูนย์รักษาความเรียบร้อยเลือกตั้งฯ สั่งเฝ้าระวังเข้ม “นราธิวาส-นครสวรรค์-เชียงราย” เนื่องจากเป็นพื้นที่แข่งขันกันสูงของ 2 พรรคใหญ่ ส่วนอีก 13 จังหวัดให้จับตาความเคลื่อนไหวเลือกตั้งตามปกติ พร้อมเฝ้าดูแล 36 เขตเลือกตั้ง แถบชานเมือง กทม.ด้วย เผยเหตุยิงหัวคะแนนย่านบางบอน-หนองแขม ของพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อน่าโยงการเมือง ส่วนคนร้ายยิงผู้ใหญ่บ้านพื้นที่เชียงราย ตั้งปมขัดแย้งธุรกิจมืด-การเมือง
วันนี้ (3 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง (ศรส.ลต.ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ขณะนี้มีผู้สมัคร ส.ส.ยื่นขอเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งแล้ว 199 ราย ซึ่งทำให้ตำรวจที่ทำหน้าที่มีจำนวน 400 ราย โดยยืนยันว่า มีกำลังตำรวจเพียงพอไม่ส่งผลต่อการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยด้านอื่น
พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวถึงจังหวัดที่ ศรส.ลต.ตร.จัดให้เป็นพื้นที่แข่งขันสูงนั้น วันนี้ที่ประชุมเพิ่ม จ.นราธิวาส อีก 1 จังหวัด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันของ 2 พรรคใหญ่ รวมเป็น 16 จังหวัด โดยแบ่งเป็นจังหวัดที่เฝ้าระวังอย่างยิ่ง 3 จังหวัด คือ นราธิวาส นครสวรรค์ และเชียงราย ส่วน 13 จังหวัดที่เหลือ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด สมุทรปราการ อุบลราชธานี อุดรธานี ราชบุรี ภูเก็ต และ แม่ฮ่องสอน เป็นการเฝ้าระวังปกติ นอกจากนี้ ศรส.ลต.ตร.ยังกำหนดเขตที่เฝ้าระวังจาก 16 จังหวัด โดยคัดเลือก 36 เขต โดยมี 12 เขต เป็นเขตของกรุงเทพมหานคร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแถบชานเมือง
พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวถึงกรณีคนร้ายยิงบ้านพักของ นายวิชาญ เรืองกลั่น หัวคะแนนของ พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 28 บางบอน-หนองแขม พรรคประชาธิปัตย์ ว่า หลังจากการสอบสวนเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ท้องที่ดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ
ส่วนกรณีคนร้ายยิง นายมงคล วีระวัฒน์พงษ์ศธร อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านห้วยส้าน หมู่ 8 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และยังเป็นหัวคะแนนให้กับผู้สมัครรายหนึ่ง นั้น พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังคงตั้งประเด็นการเสียชีวิตไว้ 2 ประเด็นคือขัดแย้งธุรกิจผิดกฎหมายและการเมือง
โฆษก ตร.กล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับหัวคะแนนของผู้สมัคร ว่า ศรส.ลต.ตร. ไม่มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรักษาความปลอดภัยให้ แต่จะมีการดูแลในลักษณะการส่งสายตรวจไปตรวจสอบที่บ้านพัก และมีการติดต่อสื่อสารหรือให้ข้อมูลกันอย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 12 เขตในกรุงเทพมหานคร ที่กำหนดให้มีการเฝ้าระวังการเกิดเหตุรุนแรง เช่น เขตหลักสี่-ดอนเมือง, สายไหม, คลองสามวา, หนอกจอก, บางขุนเทียน, บางบอน-หนองแขม, ทวีวัฒนา-หนองแขม