xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งจับสถาบันสอนภาษา “เคมบริดจ์” หลอกเรียนเสียหายนับล้าน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เหยื่อผู้เสียหายแสดงหลักฐานใบเสร็จรับเงินและเอกสารที่เกี่ยวข้องมอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐาน
ผู้เสียหายกว่า 20 คน เข้าร้องกองปราบแจ้งจับสถาบันสอนภาษา “เคมบริดจ์” ฐานฉ้อโกงประชาชน เชิญชวนเปิดเรียนคอร์สสอนภาษา แถมจบแล้วมีใบรับรอง จนเหยื่อหลงเชื่อสนใจเสียเงินเรียน สุดท้ายเรียนแค่ 4 เดือน กลับปิดกิจการ อ้างขาดทุน บอกจะคืนเงินแต่กลับเงียบ ก่อนผู้เสียหายทั้งหมดจะรวมตัวเข้าแจ้งความจับ เบื้องต้นพบมีเหยื่อหลงเชื่อเสียหายนับล้านบาท

วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองปราบปราม น.ส.พัชรี โชคเพิ่มพูน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201 ถนนประดิษญ์ปานะ ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณรงค์ อำภาภัย พนักงานสอบสวน (สบ2) กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกรรมการผู้มีอำนาจบริษัท ศูนย์ภาษา เคมบริดจ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1031/13 ถนนพหลโยธิน ซอย 29 แขวงและเขตจตุจักร กทม.ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โดยนำเอกสารโบรชัวร์โฆษณา ใบสมัครเรียนคอร์สสอนภาษาต่างประเทศ ใบเสร็จรับเงิน และเอกสารที่เกี่ยวข้องมอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี

น.ส.พัชรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2552 ตนได้รับโบรชัวร์แนะนำการเรียนคอร์ส ภาษาอังกฤษจากบูธโฆษณาของสถาบันสอนภาษาดังกล่าว ซึ่งหากสำเร็จหลักสูตรแล้วจะมีใบรับรองของสถาบันมอบให้ โดยมีการกล่าวอ้างถึงความน่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับของสถาบันแห่งนี้ในต่างประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์ จึงสนใจสมัครเข้าเรียนโดยชำระเงินค่าเล่าเรียนจำนวน 37,780 บาท เริ่มเรียนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2552 มีกำหนดระยะเวลาการเรียน 2 ปี 6 เดือน โดยสามารถเลือกเรียนตามตารางการสอนที่จัดไว้ ซึ่งอำนวยความสะดวกตามเวลาว่างไปเรียนได้

น.ส.พัชรี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ก็ไปเรียนแต่เรียนได้ประมาณ 4 เดือน ยังไม่ครบตามกำหนดศูนย์ภาษาแห่งนี้ก็ปิดกิจการไป เมื่อสอบถามถึงสาเหตุ ทางกรรมการบริษัทดังกล่าวก็ให้ข้อมูลเพียงว่าประสบปัญหาขาดทุน และที่ตั้งศูนย์ภาษาก็กำลังหมดสัญญา จึงต้องปิดตัวลง โดยพร้อมจะคืนเงินค่าเรียนให้ แต่ก็ไม่มีการคืนเงินแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ ตนได้พบกับกลุ่มผู้เสียหายซึ่งสมัครเข้าเรียนที่ศูนย์ภาษานี้เช่นเดียวกัน รวมมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2553 แต่เรื่องก็เงียบหายไป กระทั่งนัดรวมตัวกันมาแจ้งความที่กองปราบปราม ในวันเดียวกันนี้ นอกจากนี้ ยังทราบว่าผู้เสียหายบางส่วนได้เข้าร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไว้แล้วด้วย

ด้าน พ.ต.ท.ณรงค์ กล่าวว่า ได้สอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นแล้วจึงปรึกษาผู้บังคับบัญชา ซึ่งมีความเห็นว่าควรมอบให้พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เจ้าของท้องที่เกิดเหตุได้ดำเนินการต่อ จากนั้นจึงแนะนำให้กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันไปพบ พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน เพื่อสอบปากคำและพิจารณาดำเนินคดีต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น