คนร้ายวัยรุ่นก่อเหตุงัดกระจกรถยนต์ ฟอร์ดเอเวอร์เรสต์ 4 ประตู ย่านมีนบุรี ฉกโน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง พระเครื่อง 40 องค์ มูลค่ากว่า 7 แสน ด้านตำรวจเก็บลายนิ้วมือแฝง ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดี
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 19.25 น. ร.ต.อ.ณัฐพนธ์ จุ้ยอำนวย พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.มีนบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ก่อเหตุงัดกระจกรถยนต์ที่จอดริมฟุตบาทก่อนขโมยเอาทรัพย์สินภายในรถหลบหนีไป เหตุเกิดริมถนนร่มเกล้ามุ่งหน้ามีนบุรี ห่างจากร้านแจ่วฮ้อนเนื้อโคขุนโพนยางคำ แขวงและเขตมีนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแจ้งวิทยุตำรวจในท้องที่สกัดจับ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเอเวอร์เรสต์ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ชท-1024 กทม. จอดชิดริมฟุตปาธ สภาพประตูหลังด้านซ้ายถูกงัดกระจกแตกเข้าไปกองที่เบาะด้านใน โดยมีนายยงยุทธ ขุนอินทร์ อายุ 44 ปี ผู้เสียหาย ยืนรอให้การด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
จากการสอบสวนนายยงยุทธให้การว่า ตนทำงานตำแหน่ง ผจก.ฝ่ายขาย บ.ยูนิ-ชาร์ม (ประเทศไทย) จำกัด ดูแลพื้นที่ภาคกลางทั้งหมด ซึ่งผลิตสินค้าประเภทผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ยี่ห้อไลฟ์รี และผ้าอ้อมเด็กยี่ห้อมามี่โปโกะ และผ้าอนามัยโซฟี หลังเลิกงานเมื่อเวลา 18.00น.ได้ขับรถยนต์มาจอดรอรับลูกสาวและแวะเข้าไปนั่งกินอาหารที่ร้านแจ่ว ฮ้อน ห่างจากจุดจอดรถประมาณ 15 เมตร ตรงถนนมีไฟส่องสว่าง และมีรถวิ่งพลุกพล่าน จากนั้นเวลา 19.20 น.ได้ลุกไปเข้าห้องน้ำและพอกลับมานั่งที่โต๊ะเดิมก็มีผู้ชายวิ่งเข้ามาในร้านบอกว่ามีรถยนต์ถูกคนร้ายงัดกระจกแตก
นายยงยุทธกล่าวอีกว่า ตอนแรกไม่คิดเป็นว่าจะเป็นรถยนต์ของตนเอง แต่เมื่อวิ่งออกไปดูก็ถึงกับเข่าอ่อนเมื่อเห็นสภาพรถยนต์ของตนเองถูกงัดกระจกแตก เมื่อตรวจสอบดูทรัพย์สินภายในรถ พบว่าโน้ตบุ๊กจำนวน 2 เครื่องสูญหายไป พร้อมกระเป๋าที่วางอยู่ระหว่างคนขับด้านหน้า ภายในมีพระเครื่องจำนวน 40 องค์ ในจำนวน 40 องค์ มี 20 องค์ซึ่งเหลี่ยมทองหนักองค์ละ 1 บาท รวมทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายขโมยไปมูลค่าประมาณ 7 แสนบาท
“ทรัพย์สินเหล่านี้ผมเก็บสะสมมาทั้งชีวิต และพระเครื่องเป็นสิ่งที่เป็นของรักของหวงซึ่งจะพกติดตัวมาตลอด เหตุการณที่เกิดขึ้นเหมือนผมตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง และคิดว่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปคงไม่ได้กลับคืนมาแล้ว” นายยงยุทธกล่าว
นายยงยุทธกล่าวต่อว่า มีคนขับรถเมล์คนหนึ่งบอกว่าเห็นคนร้ายซึ่งเป็นวัยรุ่นขับจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่ทราบสี และยี่ห้อ เป็นแบบ จักรยานยนต์ผู้หญิง ขับรถเลยไปจอดห่างจากจุดเกิดเหตุมาประมาณ 20 เมตร ก่อนมีชายวัยรุ่นคนหนึ่งไม่สวมหมวกกันน็อก ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ ใช้ไฟฉายส่องดูรถแต่ละคัน เมื่อส่องถึงรถของตนคงเห็นมีกระเป๋าและโน้ตบุ๊กอยู่ในรถจึงได้ก่อเหตุงัดเอาทรัพย์สินไป แต่คนร้ายคงไม่รู้ว่าในกระเป๋าสะพายที่อยู่ในรถมีทรัพย์สินซึ่งเป็นพระเครื่องอยู่
“เส้นทางถนนร่มเกล้า ผมใช้เป็นประจำเพราะอยู่ใกล้บ้าน และจุดที่จอดก็ไม่ห่างจากจุดที่นั่งกินอาหาร สามารถมองเห็นรถได้ แต่ผมเผลอตอนไปเข้าห้องน้ำ คนร้ายก็มาก่อเหตุ ปกติแล้วกระเป๋าพระเครื่องจะนำติดตัวตลอด แต่ผมเห็นว่าที่จอดรถไม่เปลี่ยวและอยู่ไม่ไกลจึงไม่เอาลงไปด้วย ซึ่งถือเป็นคราวเคราะห์” นายยงยุทธกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.ณัฐพนธ์กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนหาข้อมูลในจุดเกิดเหตุ และจากการวิทยุสกัดจับคนร้านหลังจากก่อเหตุก็ไม่พบ เนื่องจากคนร้ายอาจหลบหนีเข้าไปในตรอกซอกซอย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดแต่ละแยกของถนน อาจจะจับภาพรถคนร้ายได้ และได้ประสานผู้เสียหายได้นำรถยนต์เข้าไปตรวจลายนิ้วมือแฝงจากกองพิสูจน์หลักฐาน ที่ผ่านมาในพื้นที่มีนบุรี และใกล้เคียงก็มีคนร้ายก่อเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้งไม่เว้นแม้ตอนกลางวัน จึงฝากเตือนประชาชนอย่านำทรัพย์สินไว้ในรถยนต์