ชาวบ้านชุมชนสะพานหิน เพชรบุรี ร้อง “ทวี สอดส่อง” ขอความเป็นธรรมเหตุถูกเอกชนฟ้องขับไล่ที่ดินบริเวณหาดชะอำ ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะ แต่เอกชนนำไปถือครองมิชอบ 35 ไร่ แถมมีชายฉกรรจ์มาคุมเชิงขณะเอกชน อ้างหมายศาลเข้ารื้อถอนที่อยู่ชาวบ้านด้วย ด้าน ดีเอสไอจะประสาน ป.ป.ท.ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ และส่งจนท.เข้าช่วยชาวบ้านต่อสู้คดีกรณีถูกฟ้องบุกรุก
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายสหวัฒน์ จรูญจิตไพรัช อายุ 51 ปี นำชาวบ้านชุมชน สะพานหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ประมาณ 20 คน เข้าพบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ฟ้องขับไล่ออกจากพื้นที่บริเวณหาดชะอำ โดยชาวบ้านยืนยันว่า เอกสารสิทธิที่ดินจำนวน 35 ไร่ ที่คู่กรณีถือครองออกโดยมิชอบ เนื่องจากพื้นที่ริมชายหาดดังกล่าว เป็นที่ดินงอกจากการทับถมของตะกอนดินทราย ชาวบ้านจึงเห็นว่าบริษัทเอกชนไม่มีสิทธิขับไล่ออกจากพื้นที่ เพราะพื้นที่ซึ่งชาวบ้านอยู่อาศัย 30 ครัวเรือน เป็นที่สาธารณะ
นายสหวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อปี 2512 มีการสร้างเขื่อนหิน ในทะเลบริเวณหาดชะอำ ทำให้กระแสน้ำพัดทรายทับถมกับแนวของเขื่อนหิน จนเป็นพื้นที่หาดทรายงอกขึ้นมาเป็นสันทราย แต่ปรากฏว่า มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง นำพื้นที่ดังกล่าวไปออกโฉนด จำนวน 35 ไร่ พร้อมขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ แต่ชาวบ้านได้โต้แย้งมาตลอดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ รัฐเท่านั้นจึงมีสิทธิขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ไม่ใช่เอกชน จนมีการฟ้องชาวบ้านคดีบุกรุกมาตลอดตั้งแต่ปี 2537 กระทั่งเมื่อวันที่ 10 มี.ค.54 บริษัทเอกชนได้นำคำสั่งศาลเข้ามารื้อถอนบ้านของนางยืน ชูยิ่ง อายุ 64 ปี โดยมีนายทหารนำชายฉกรรจ์ชุดดำมาคุมเชิง จึงต้องเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากกลัวว่าชาวบ้านถูกรื้อถอนบ้านเรือนอีก ทั้งนี้ มูลค่าที่ดินบริเวณชายหาดชะอำ ขณะนี้มีมูลค่าไร่ละ 25 ล้านบาท บริเวณที่ดินดังกล่าวจึงสูงเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าในพื้นที่ดังกล่าว เอกชนจะมีการก่อสร้างเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า เบื้องต้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อให้เข้ามาตรวจการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่กองทุนยุติธรรม เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในการต่อสู้คดีกรณีถูกฟ้องบุกรุก เพราะกรณีดังกล่าวเห็นชาวบ้านไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำไปเพื่อเรียกร้องที่ดินสาธารณะกลับคืนมาส่วนรวม โดยจะรายงานเสนอ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ต่อไป
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายสหวัฒน์ จรูญจิตไพรัช อายุ 51 ปี นำชาวบ้านชุมชน สะพานหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ประมาณ 20 คน เข้าพบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ฟ้องขับไล่ออกจากพื้นที่บริเวณหาดชะอำ โดยชาวบ้านยืนยันว่า เอกสารสิทธิที่ดินจำนวน 35 ไร่ ที่คู่กรณีถือครองออกโดยมิชอบ เนื่องจากพื้นที่ริมชายหาดดังกล่าว เป็นที่ดินงอกจากการทับถมของตะกอนดินทราย ชาวบ้านจึงเห็นว่าบริษัทเอกชนไม่มีสิทธิขับไล่ออกจากพื้นที่ เพราะพื้นที่ซึ่งชาวบ้านอยู่อาศัย 30 ครัวเรือน เป็นที่สาธารณะ
นายสหวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อปี 2512 มีการสร้างเขื่อนหิน ในทะเลบริเวณหาดชะอำ ทำให้กระแสน้ำพัดทรายทับถมกับแนวของเขื่อนหิน จนเป็นพื้นที่หาดทรายงอกขึ้นมาเป็นสันทราย แต่ปรากฏว่า มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง นำพื้นที่ดังกล่าวไปออกโฉนด จำนวน 35 ไร่ พร้อมขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ แต่ชาวบ้านได้โต้แย้งมาตลอดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ รัฐเท่านั้นจึงมีสิทธิขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ไม่ใช่เอกชน จนมีการฟ้องชาวบ้านคดีบุกรุกมาตลอดตั้งแต่ปี 2537 กระทั่งเมื่อวันที่ 10 มี.ค.54 บริษัทเอกชนได้นำคำสั่งศาลเข้ามารื้อถอนบ้านของนางยืน ชูยิ่ง อายุ 64 ปี โดยมีนายทหารนำชายฉกรรจ์ชุดดำมาคุมเชิง จึงต้องเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากกลัวว่าชาวบ้านถูกรื้อถอนบ้านเรือนอีก ทั้งนี้ มูลค่าที่ดินบริเวณชายหาดชะอำ ขณะนี้มีมูลค่าไร่ละ 25 ล้านบาท บริเวณที่ดินดังกล่าวจึงสูงเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าในพื้นที่ดังกล่าว เอกชนจะมีการก่อสร้างเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า เบื้องต้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อให้เข้ามาตรวจการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่กองทุนยุติธรรม เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในการต่อสู้คดีกรณีถูกฟ้องบุกรุก เพราะกรณีดังกล่าวเห็นชาวบ้านไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำไปเพื่อเรียกร้องที่ดินสาธารณะกลับคืนมาส่วนรวม โดยจะรายงานเสนอ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ต่อไป