สตช.มอบรถคัมรี่ ไฮบริด คันใหม่ มูลค่าเฉียด 1.8 ล้าน ให้คุณหมอกวาง เหยื่อคนร้ายจับเป็นตัวประกันจนนำไปสู่การวิสามัญคนร้าย พร้อมมอบประกาศนีบัตรเกียรติคุณให้ “พ.ต.อ.รวมนคร” ผู้อนุเคราะห์รถให้ ขณะที่คุณหมอสาว ขอบคุณตำรวจทุกนาย และสื่อที่ติดตามทำข่าวอย่างต่อเนื่อง ส่วนอาการบาดเจ็บดีขึ้นเป็นลำดับ ด้าน ตร.เยียวยาช่วยเหลือเหยื่อทุกรายอย่างเท่าเทียม พร้อมปรับแผนรับมือหากเกิดเหตุซ้ำ
วันนี้ (20 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ตึกสิรินธร โรงพยาบาลราชวิถี พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิตติวัฒน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เดินทางมาเป็นประธานในการมอบรถยนต์โตโยต้า รุ่นคัมรี่ 2.4 ไฮบริด สีบรอนซ์เงิน ให้กับ พญ.พิภัทรา สายโลหิต หรือ หมอกวาง แพทย์โรงพยาบาลค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เพื่อแทนรถยนต์คันเก่าที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่นายธาดา อินทมาศ อายุ 37 ปี ชาว อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้ก่อเหตุจี้ชิงรถคัมรี่จากบางกรวย จ.นนทบุรี และยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต พร้อมกับจี้ชิงรถคัมรี่ และจับแพทย์หญิงเป็นตัวประกัน แล้วยิงคนขับแท็กซี่เสียชีวิต จนนำไปสู่การวิสามัญฆาตกรรม เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันเทค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบครั้งนี้ด้วย
พญ.พิภัทรา เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย รวมถึงบริษัทเอกชนที่ดูแลช่วยเหลือตนอย่างเต็มที่ และทำให้ตนได้รับรถยนต์คันใหม่แทนคันเก่าที่ได้รับความเสียหาย อีกทั้งต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าว และติดตามความคืบหน้าอาการของตนมาตลอด ซึ่งขณะนี้อาการของตนดีขึ้นมาก แพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอาหัวกระสุนที่บริเวณหลังและเศษโลหะที่ฝังอยู่ที่แขนด้านซ้ายออกให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง หลังจากนี้ คงต้องพักฟื้นสักระยะเพื่อให้แผลหายสนิท หากไม่มีอาการแทรกซ้อนแพทย์ก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้
ภายหลังจากเสร็จสิ้นการมอบรถยนต์ให้กับ พญ.พิภัทรา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พล.ต.ท.จักรทิพย์ ได้มอบประกาศนียบัตรให้กับ พ.ต.อ.รวมนคร เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณในการให้ความอนุเคราะห์จัดซื้อรถยนต์คันใหม่ให้กับ พญ.พิภัทรา ซึ่งมีมูลค่า 1,799,000 บาท และนำมาแลกเปลี่ยนกับรถยนต์คันเดิมของ พญ.ซึ่งมีมูลค่า 950,000 บาท หลังจากที่บริษัทประกันภัยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แล้ว
ด้าน พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือเหยื่อทุกรายทางตำรวจได้ดูแลอย่างเต็มที่ ไม่ได้มีการช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งเพียงแต่ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน โดยในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) พล.ต.ท.ธีรยุทธ จะไปเป็นประธานในการประชุมเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือเหยื่อทุกรายอีกครั้งที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งคาดว่า วันพรุ่งนี้จะได้ข้อสรุปทั้งหมด ส่วนกรณีของ ด.ต.ลิขสิทธิ์ พิลาศรี ผบ.หมู่จร.สน.ดุสิต ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายแทงและยิงจนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ช่วยเหลือตามสิทธิที่ควรจะได้รับจนเกือบครบถ้วนแล้ว ส่วนครอบครัว และ ลูกชายของ ด.ต.ลิขสิทธิ์ ยังเด็กอยู่ หากภรรยาของ ด.ต.ลิขสิทธ์ ต้องการเป็นตำรวจแทนสามีก็จะดูตำแหน่งว่างในสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ทางด้าน ด.ต.จิโรจน์ บุญทองคำ ผบ.หมู่จร.สน.พญาไท เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดดักขวางทางไว้ ขณะที่ตัวเองไปยืนขวางอีกช่องจราจร และถูกคนร้ายขับรถชนจนได้รับบาดเจ็บ นั้น ทาง สตช.จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่เช่นกัน
ส่วน นายอำนาจ พวงสูงเนิน คนขับรถแท็กซี่ที่เสียชีวิตจากเหยื่อกระสุนของคนร้ายที่บ้าคลั่ง นั้น ทางตำรวจได้มอบเงินช่วยเหลือมารดาและครอบครัวไปส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับเรื่องการปรับแผนรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวหากมีเกิดขึ้นซ้ำ ทางตำรวจได้เตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว โดยในส่วนของการซักซ้อมการช่วยเหลือตัวประกันจะต้องนำเอาเจ้าหน้าที่สายตรวจและจราจรเข้ามารับการฝึกด้วย แต่ทั้งนี้ ในกรุงเทพมหานครมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อการซักซ้อม โดยเฉพาะการชุมนุมทางการเมืองที่มีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้จะต้องหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องคดีขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางตำรวจจะดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปจนเสร็จสิ้นกระบวนการ
วันนี้ (20 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ตึกสิรินธร โรงพยาบาลราชวิถี พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิตติวัฒน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เดินทางมาเป็นประธานในการมอบรถยนต์โตโยต้า รุ่นคัมรี่ 2.4 ไฮบริด สีบรอนซ์เงิน ให้กับ พญ.พิภัทรา สายโลหิต หรือ หมอกวาง แพทย์โรงพยาบาลค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เพื่อแทนรถยนต์คันเก่าที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่นายธาดา อินทมาศ อายุ 37 ปี ชาว อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้ก่อเหตุจี้ชิงรถคัมรี่จากบางกรวย จ.นนทบุรี และยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต พร้อมกับจี้ชิงรถคัมรี่ และจับแพทย์หญิงเป็นตัวประกัน แล้วยิงคนขับแท็กซี่เสียชีวิต จนนำไปสู่การวิสามัญฆาตกรรม เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันเทค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบครั้งนี้ด้วย
พญ.พิภัทรา เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย รวมถึงบริษัทเอกชนที่ดูแลช่วยเหลือตนอย่างเต็มที่ และทำให้ตนได้รับรถยนต์คันใหม่แทนคันเก่าที่ได้รับความเสียหาย อีกทั้งต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าว และติดตามความคืบหน้าอาการของตนมาตลอด ซึ่งขณะนี้อาการของตนดีขึ้นมาก แพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอาหัวกระสุนที่บริเวณหลังและเศษโลหะที่ฝังอยู่ที่แขนด้านซ้ายออกให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง หลังจากนี้ คงต้องพักฟื้นสักระยะเพื่อให้แผลหายสนิท หากไม่มีอาการแทรกซ้อนแพทย์ก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้
ภายหลังจากเสร็จสิ้นการมอบรถยนต์ให้กับ พญ.พิภัทรา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พล.ต.ท.จักรทิพย์ ได้มอบประกาศนียบัตรให้กับ พ.ต.อ.รวมนคร เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณในการให้ความอนุเคราะห์จัดซื้อรถยนต์คันใหม่ให้กับ พญ.พิภัทรา ซึ่งมีมูลค่า 1,799,000 บาท และนำมาแลกเปลี่ยนกับรถยนต์คันเดิมของ พญ.ซึ่งมีมูลค่า 950,000 บาท หลังจากที่บริษัทประกันภัยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แล้ว
ด้าน พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือเหยื่อทุกรายทางตำรวจได้ดูแลอย่างเต็มที่ ไม่ได้มีการช่วยเหลือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งเพียงแต่ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน โดยในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) พล.ต.ท.ธีรยุทธ จะไปเป็นประธานในการประชุมเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือเหยื่อทุกรายอีกครั้งที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งคาดว่า วันพรุ่งนี้จะได้ข้อสรุปทั้งหมด ส่วนกรณีของ ด.ต.ลิขสิทธิ์ พิลาศรี ผบ.หมู่จร.สน.ดุสิต ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายแทงและยิงจนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ช่วยเหลือตามสิทธิที่ควรจะได้รับจนเกือบครบถ้วนแล้ว ส่วนครอบครัว และ ลูกชายของ ด.ต.ลิขสิทธิ์ ยังเด็กอยู่ หากภรรยาของ ด.ต.ลิขสิทธ์ ต้องการเป็นตำรวจแทนสามีก็จะดูตำแหน่งว่างในสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ทางด้าน ด.ต.จิโรจน์ บุญทองคำ ผบ.หมู่จร.สน.พญาไท เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดดักขวางทางไว้ ขณะที่ตัวเองไปยืนขวางอีกช่องจราจร และถูกคนร้ายขับรถชนจนได้รับบาดเจ็บ นั้น ทาง สตช.จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่เช่นกัน
ส่วน นายอำนาจ พวงสูงเนิน คนขับรถแท็กซี่ที่เสียชีวิตจากเหยื่อกระสุนของคนร้ายที่บ้าคลั่ง นั้น ทางตำรวจได้มอบเงินช่วยเหลือมารดาและครอบครัวไปส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับเรื่องการปรับแผนรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวหากมีเกิดขึ้นซ้ำ ทางตำรวจได้เตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว โดยในส่วนของการซักซ้อมการช่วยเหลือตัวประกันจะต้องนำเอาเจ้าหน้าที่สายตรวจและจราจรเข้ามารับการฝึกด้วย แต่ทั้งนี้ ในกรุงเทพมหานครมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อการซักซ้อม โดยเฉพาะการชุมนุมทางการเมืองที่มีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้จะต้องหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องคดีขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางตำรวจจะดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปจนเสร็จสิ้นกระบวนการ
