กองปราบฯ รวบแก๊งคองโกปลอมหนังสือเดินทางนำเช็คขึ้นเงินกว่า 50 ล้าน ซัดทอดมีพรรคพวกร่วมขบวนการอีก 3-4 คน ตำรวจเร่งขยายผลและเตรียมออกหมายจับต่อไป
วันนี้ (5 เมย.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.จารุวัฒน์ พาหุมันโต สว.กก.1 บก.ป. แถลงการจับกุม นายเบดี เยฟ อายุ 35 ปี นายคองโกลู อายุ 35 ปี และน.ส.เองกีรา โอชา อายุ 31 ปี ทั้งหมดสัญชาติคองโก พร้อมของกลางหนังสือเดินทางปลอม 8 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 6 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 11 ใบ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาลาดพร้าว 10 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยประสานมายังตำรวจกองปราบปรามว่ามีชาวต่างชาตินำเช็คธนาคารประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ ประมาณ 4-5 ฉบับมาขึ้นเงินกับธนาคารในประเทศไทย รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งธนาคารสั่งจ่ายเงินให้แล้ว 1 ฉบับ เป็นเช็คของธนาคารในประเทศแคนาดา มูลค่า 4 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารตรวจสอบพบว่าเช็คดังกล่าวถูกต้องตามขั้นตอน โดยผู้ต้องหาแสดงตัวนำหนังสือเดินทางชื่อตรงกับในเช็ค
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า จากนั้นธนาคารในประเทศแคนาดาแจ้งมาที่ธนาคารกสิกรไทยว่าเจ้าของเช็คติดต่อผ่านทางธนาคารในประเทศแคนนาดาว่าทำเช็คหายจะขออายัด โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้มีการเบิกเงินไปแล้วที่ธนาคารกสิกรไทย ในประเทศไทยแสดงว่ามีคนร้ายเข้ามาสวมรอยแลกเช็คขึ้นเงินแล้ว ซึ่งเมื่อตรวจสอบผู้ต้องหายังติดต่อขอแลกเช็คที่สั่งจ่ายธนาคารในประเทศออสเตรียอีก 3 ฉบับ รวมกว่า 50 ล้านบาท
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวอีกว่า ต่อมาตำรวจกองปราบฯ จึงวางแผนให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อผู้ต้องหาให้มาแลกเช็คขึ้นเงินสด จากนั้นเข้ารวบตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาสอบสวนทราบว่าเช็คที่ขึ้นเงินไปแล้วได้รับมาจากนายโจเซฟ เดเกล สัญชาติออสเตรเลีย กับพวกอีก 3-4 คน โดยไม่ทราบที่มา แต่พวกตนมีหน้าที่เพียงนำเช็คมาขึ้นเงินเท่านั้น ส่วนหนังสือเดินทางไปซื้อมาจากชายชาวออสเตรเลียคนหนึ่ง ซึ่งจะทำชื่อให้ตรงกับเช็คที่แลกเงิน เพื่อหลอกเจ้าหน้าที่ธนาคาร นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังรับด้วยว่ามีเพื่อนร่วมแก๊งชาวคองโกอีก 3 ราย ที่ร่วมกระทำผิดยังหลบหนีอยู่ ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหาปลอมและใช้เอกสารหนังสือเดินทางปลอมและพยายามฉ้อโกงแก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือจะเร่งขยายผล เพื่อรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยซึ่งรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวทราบว่าในกรณีชาวต่างชาตินำเช็คมาขึ้นเงินนั้น ทางธนาคารมีบริการพิเศษในการแลกเช็คระหว่างประเทศกับธนาคาร ซึ่งมีข้อตกลงร่วมกันโดยผู้ที่นำเช็คมาแลกจะต้องนำหลักฐานเป็นหนังสือเดินทางมายืนยัน
จากนั้นทางธนาคารก็จะตรวจสอบไปยังธนาคารเจ้าของเช็คว่ามีเงินตามที่ระบุไว้ในเช็คหรือไม่ ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วว่าเช็คมีเงินก็จะเบิกจ่ายให้ลูกค้าโดยมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเป็นลักษณะเดียวกับการแลกเช็คในประเทศต่างธนาคาร และต่างสาขา และจากข้อมูลที่ได้รับยังพบว่าผู้ต้องหาบันทึกข้อมูลการเบิกจ่ายเงินของผู้เสียหายอีก 4-5 ราย และมีการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรอนำเงินเข้าด้วย
วันนี้ (5 เมย.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.จารุวัฒน์ พาหุมันโต สว.กก.1 บก.ป. แถลงการจับกุม นายเบดี เยฟ อายุ 35 ปี นายคองโกลู อายุ 35 ปี และน.ส.เองกีรา โอชา อายุ 31 ปี ทั้งหมดสัญชาติคองโก พร้อมของกลางหนังสือเดินทางปลอม 8 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 6 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 11 ใบ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาลาดพร้าว 10 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยประสานมายังตำรวจกองปราบปรามว่ามีชาวต่างชาตินำเช็คธนาคารประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ ประมาณ 4-5 ฉบับมาขึ้นเงินกับธนาคารในประเทศไทย รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งธนาคารสั่งจ่ายเงินให้แล้ว 1 ฉบับ เป็นเช็คของธนาคารในประเทศแคนาดา มูลค่า 4 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารตรวจสอบพบว่าเช็คดังกล่าวถูกต้องตามขั้นตอน โดยผู้ต้องหาแสดงตัวนำหนังสือเดินทางชื่อตรงกับในเช็ค
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า จากนั้นธนาคารในประเทศแคนาดาแจ้งมาที่ธนาคารกสิกรไทยว่าเจ้าของเช็คติดต่อผ่านทางธนาคารในประเทศแคนนาดาว่าทำเช็คหายจะขออายัด โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้มีการเบิกเงินไปแล้วที่ธนาคารกสิกรไทย ในประเทศไทยแสดงว่ามีคนร้ายเข้ามาสวมรอยแลกเช็คขึ้นเงินแล้ว ซึ่งเมื่อตรวจสอบผู้ต้องหายังติดต่อขอแลกเช็คที่สั่งจ่ายธนาคารในประเทศออสเตรียอีก 3 ฉบับ รวมกว่า 50 ล้านบาท
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวอีกว่า ต่อมาตำรวจกองปราบฯ จึงวางแผนให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อผู้ต้องหาให้มาแลกเช็คขึ้นเงินสด จากนั้นเข้ารวบตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาสอบสวนทราบว่าเช็คที่ขึ้นเงินไปแล้วได้รับมาจากนายโจเซฟ เดเกล สัญชาติออสเตรเลีย กับพวกอีก 3-4 คน โดยไม่ทราบที่มา แต่พวกตนมีหน้าที่เพียงนำเช็คมาขึ้นเงินเท่านั้น ส่วนหนังสือเดินทางไปซื้อมาจากชายชาวออสเตรเลียคนหนึ่ง ซึ่งจะทำชื่อให้ตรงกับเช็คที่แลกเงิน เพื่อหลอกเจ้าหน้าที่ธนาคาร นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังรับด้วยว่ามีเพื่อนร่วมแก๊งชาวคองโกอีก 3 ราย ที่ร่วมกระทำผิดยังหลบหนีอยู่ ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหาปลอมและใช้เอกสารหนังสือเดินทางปลอมและพยายามฉ้อโกงแก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือจะเร่งขยายผล เพื่อรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยซึ่งรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวทราบว่าในกรณีชาวต่างชาตินำเช็คมาขึ้นเงินนั้น ทางธนาคารมีบริการพิเศษในการแลกเช็คระหว่างประเทศกับธนาคาร ซึ่งมีข้อตกลงร่วมกันโดยผู้ที่นำเช็คมาแลกจะต้องนำหลักฐานเป็นหนังสือเดินทางมายืนยัน
จากนั้นทางธนาคารก็จะตรวจสอบไปยังธนาคารเจ้าของเช็คว่ามีเงินตามที่ระบุไว้ในเช็คหรือไม่ ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วว่าเช็คมีเงินก็จะเบิกจ่ายให้ลูกค้าโดยมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเป็นลักษณะเดียวกับการแลกเช็คในประเทศต่างธนาคาร และต่างสาขา และจากข้อมูลที่ได้รับยังพบว่าผู้ต้องหาบันทึกข้อมูลการเบิกจ่ายเงินของผู้เสียหายอีก 4-5 ราย และมีการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรอนำเงินเข้าด้วย